Language and Nation
ภาษากับความเป็นชาตินั้น โดยทั่วไปจะแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ 1.) Monolingual, 2.) Bilingual และ 3.) Multilingual ซึ่งในความเป็นจริงแล้วประเทศที่เป็น monolingual นั้นแทบจะไม่มีอยู่จริง เนื่องจากเกือบทุกประเทศทั่วโลกมีภาษาที่ใช้สื่อสารภายในประเทศตั้งแต่ 2 ภาษาขึ้นไป Bilingualism หมายถึง สังคมที่เข้าใจและพูดได้สองภาษา และสามารถสื่อสารโดยใช้ภาษาทั้งสองได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าประชากรทุกคนต้องพูดได้ทั้งสองภาษา อีกทั้งภาษาทั้งสองนั้นอาจมีความแตกต่างกันหรือใกล้เคียงกันก็ได้ โดยภาษาทั้งสองต้องเป็นภาษามาตรฐานทั้งคู่ เช่น French และ English ในประเทศ Canada โดยภาษาทั้งสองนี้อาจถูกใช้เป็นภาษาที่หนึ่งได้เหมือนๆกัน (แตกต่างจาก diglossia ที่ภาษามี 2 รูปแบบในภาษาเดียวกัน) หรือทั้งสองภาษาอาจไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยก็ได้ เช่น Spanish และ Guarani ในประเทศ Paraguay เป็นต้น
การเป็นสังคม bilingual หรือ multilingual นั้นเกิดขึ้นได้ทั้งสองประเด็น คือ การที่ชนกลุ่มน้อย (minority) มีจำนวนมาก และภาษาของพวกเขาได้รับการยอมรับให้ใช้เพิ่มเป็นภาษาทางการในประเทศนั้น หรือ การที่ภาษาของชนกลุ่มน้อยไม่ได้รับการยอมรับ ทำให้ประชากรของกลุ่มต้องใช้ภาษาของตนเองภายในกลุ่มและต้องเรียนรู้ภาษาของคนส่วนใหญ่ (majority) ด้วย ประชากรของกลุ่มก็จะกลายเป็น bilingual หรือ multilingual ไปด้วย โดยเฉพาะในบางประเทศในอดีตไม่อนุญาตให้มีการเรียนการสอนภาษาของชนกลุ่มน้อยในโรงเรียน จึงทำให้เด็กๆ ต้องเรียนภาษาแม่ของตนเองจากที่บ้าน และถูกบังคับให้เรียนภาษาของคนส่วนใหญ่ในโรงเรียน แล้วกลายเป็น bilingual หรือ mutilingual ไปโดยปริยาย
บางประเทศมีความเข็มงวดในการห้ามใช้ภาษาของชนกลุ่มน้อยอย่างชัดเจนมาก เพื่อที่จะให้ภาษาหลักของประเทศเข้าไปแทนที่ภาษาของชนกลุ่มน้อยโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่นการบังคับใช้นโยบาย English Only Policy ของประเทศอเมริกาในอดีต ที่ห้ามไม่ให้มีการสอนภาษาของชนกลุ่มน้อยในโรงเรียนเลย แต่ในปัจจุบันนี้ ในประเทศอเมริกามีคนกลุ่มน้อยที่ใช้ภาษา Spanish มากขึ้น จนต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบาย แม้แต่ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในเมืองใหญ่อย่างเมือง New York ยังต้องใช้ภาษา English ควบคู่ไปกับภาษา Spanish ซึ่งข้อดีของการเป็นสังคมสองภาษาคือ คนในสังคมนั้นสามารถเรียนรู้และเข้าใจภาษาและวัฒนธรรม ได้มากว่าหนึ่งภาษา และยังสามารถใช้ภาษาทั้งสองในการสื่อสารได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาษาของชนกลุ่มน้อยไม่สูญหายไปอีกทั้งยังรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นอัตลักษณ์ของตนเอง อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการหางานทำได้ง่ายขึ้น
เมื่อเป็นสังคมที่มีสองภาษาหรือมากกว่า คนในสังคมก็จะมีการสลับภาษาไปมาได้เรียกว่า Language Choice ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ
ตัวอย่างสถานการณ์ของ mutilingual ในประเทศ United Kingdom ซึ่งในอดีต ภาษา Welsh ของ Wale และภาษา Gaelic ของชาว Scotland พยายามถูกแทนที่ด้วยภาษาอังกฤษ (English) โดยกำหนดให้การใช้ภาษา Welsh และภาษา Gaelic เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้ประเทศใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ เพียงภาษาเดียว ทำให้ประชากรที่พูดภาษาทั้งสองลดลงไปอย่างมาก ในยุกต์ต่อมาเมื่อนโยบาย English Only Policy หมดไป ภาษา Welsh และภาษา Gaelic ถูกอนุญาตให้นำกลับมาใช้ได้ใหม่อย่างถูกต้องตามกฏหมาย แต่อย่างไรก็ตามจำนวนประชากรที่พูดภาษา ภาษา Gaelic ก็ไม่ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นแต่กลับลดลงไปเรื่อยๆ ส่วนภาษา Welsh นั้นมีสถานการณ์ที่ดีกว่า คือมีการออกอากาศวิทยุและโทรทัศน์ด้วยภาษา Welsh เมื่อรัฐบาล United Kingdom ประกาศนโยบายเป็นประเทศสองภาษา (bilingual policy) จึงมีการสอนภาษา Welsh ในพื้นที่ของชาว Wale อย่างจริงจัง
นโยบายของรัฐมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับการสูญสลายหรือการคงอยู่ของวัฒนธรรม ของแต่ละประเทศ การเปิดโอกาสให้ชนกลุ่มน้อยได้เรียนภาษาของตัวเองนั้นนอกจากจะมีส่วนส่งเสริมให้มีความหลากหลายทางภาษาและ ยังทำให้เกิดการอนุรักษณ์ภาษาและวัฒนธรรมและความเป็นอัตลักษณ์ของกลุ่มชนในประเทศนั้นๆ สืบต่อไป
หมายเหตุ: บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการทบทวนการเรียนรายวิชาภาษาศาสตร์เชิงสังคม เรื่อง ภาษากับบริบท (Language and Nation) หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขอความกรุณา ท่านผู้รู้ทั้งหลาย โปรดชี้แนะ แนวทางที่ถูกต้องด้วยครับ ขอขอบคุณครับ
Name: Parinya Thongprapha
Student Code: 51922806
Lecturer: Dr. Ubon Dhanesschaiyakupa
Course Title: 227532 : Sociolinguistics
Graduate School, Burapha University, 2010
References
Trudgill, P. (2000). Sociolinguistics: an introduction to language and society. Suffolk: Clays Ltd.
Wardhaugh, R. (2002), an introduction to Sociolinguistics. Massachusetts: Blackwell Publishers Ltd
Thank you for sharing your learning.
I wonder if there is any research into 'social' advantages and disadvantages of being 'multilingual Thailand'.
(At present, many Thais speak Thai, a Chinese dialect or more, Pali, Yawi, English and so on,)
And is there a way to use multilingual capacity in social development?