นักวิชาการสายรับใช้สังคมไทย : สู้ด้วย "สองขา สองแขน..."


นักวิชาการสายรับใช้สังคมไทย ต้องทำงานรับใช้ความเป็นจริงใจสังคมไทย

นักวิชาการสายรับใช้สังคมไทยต้องอดทนต่อความรู้ความคิดที่มักถูกผู้บริหารมองข้าม โดยมักจะมองว่าเป็นทฤษฎีกิ๊กก๊อก ต๊อกต๋อย สู้ทฤษฎีลอยฟ้าข้ามประเทศไม่ได้

นักวิชาการแบบไทย ๆ จึงกลายเป็น "นักวิชาการชั้น 2" เป็นรองนักวิชาการต่างประเทศเสมอ ๆ

การคิดค้นทฤษฎีใหม่ ทำอะไรใหม่ ๆ ระบบก็บอกว่าต้องไปถูกสแตมป์ ประทับตราจากวารสารชั้นนำระดับโลก และกว่าจะถูกสแตมป์ได้ เขาก็ถามว่าทฤษฎีนี้คุณอ้างอิงจากใคร และใครคนนั้นมีชื่อเสียงดังก้องฟ้าจรดพื้นพสุธาหรือไม่...!

สุดท้ายแล้ว นักวิชาการไทยก็ต้องอิงทฤษฎีเมืองนอกอยู่ดี เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่ได้รับการยอมรับ เมื่อไม่ได้รับการยอมรับก็ไม่ก้าวหน้า ไม่ก้าวหน้าก็ "หมดอนาคต"

ดังนั้น นักวิชาการสายรับใช้สังคมไทยจึงต้องกล้ายืนหยัดด้วยลำแข้งของตนเอง

ไม่พึงทำงานเพื่อเอาใจใคร โดยหวังว่าผู้บริหารจะเป็น Back up คอยเกื้อหนุน

คนดีจริง ต้องใช้ความดีของตนคอยเกื้อหนุน

การพึ่งผู้อื่นในการปีนภูเขา เราก็ต้องพึ่งเขาตลอดไป

การพึ่งตนเอง ตอนแรกถึงแม้นจะเหนื่อยหนัก เพราะสองขายังไม่แข็งแรง อาจจะเป็นช้าเพราะร่างกายและ "ตบะ" ยังไม่กล้าแกร่งก็ต้อง "อดทน"

นักกีฬาคนหนึ่งจะไปให้ถึงเหรียญทองโอลิมปิค เขาต้องฝึก ต้องซ้อม ต้องเหน็ด ต้องเหนื่อย ไม่มีนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิคคนใดจะพึ่งสองขาของโค้ชหรือผู้จัดการทีมแต่เพียงอย่างเดียว

การเดินขึ้นเขาด้วยขาของตนเองก็ต้องเหนื่อยเป็นของธรรมดา

นักวิชาการสายรับใช้สังคมไทยต้องมีเอกลักษณ์โดดเด่น คือ มีความมั่นใจใน "ความเป็นไทย" ระลึกอยู่เสมอว่า "ภูมิปัญญาไทย" ไม่เป็นที่สองรองใครในโลก

ถึงแม้นว่าใครจะไม่สนใจ "ยี้" เราในวันนี้ ก็ขอให้อดทน เข้มแข็ง สร้างคุณงามความดีเพื่อเป็นคนที่ "ดี" ในอนาคต

เราปรับเปลี่ยนใครไม่ได้ แต่เราปรับเปลี่ยนตัวของเราเองให้ดีได้

แล้วในวันข้างหน้า ถ้าเรามีโอกาสเป็นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นผู้ใหญ่ที่เห็นใจให้โอกาสคนไทยและ "ภูมิปัญญาไทย..."

 

หมายเลขบันทึก: 446380เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2011 17:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
นางสวาบานเย็น เดชโคบุตร

เป็นข้อคิดคิดสำหรับครูไทยได้ดีมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นครูผู้น้อย หรือเป็น ผู้บริหาร ทุกคนต้องมีจิตสาธารณะด้วยความจริงใจจริงๆ ดิฉันคนนึงที่เคยเป็นครูมาก่อน และคิดว่าตัวเองทำหน้าที่ของครูได้ดีทีเดียว แต่ผลตอบแทนที่ได้รับกับเป็นเพียงแค่เศษดินก้อนเล็กๆเท่านั้นเอง ทุกวันนี้ตกงาน แต่ก็จะพยายามกลับมาเป็นคุณครูของเด็กๆ ได้อีกครั้ง เพราะดิฉันเชื่อว่า ความดีที่เราสร้างคงจะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท