ระบบการศึกษาดี คิดดี พูดดี และ "ทำดี..."


ระบบการศึกษาไทยถ้าพูดถึงเรื่อง "หลักการ" ถือว่าเป็นระบบที่ดีมากถึงดีที่สุด เพราะเป็นระบบที่รวมเอาหลักการ ทฤษฎีที่สุดยอดจากทั่วโลกมารวมกันไว้

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบการศึกษาบ้านเราอยู่ที่คนคิดเยอะ คนปฏิบัติน้อย

คนที่หน้าที่ปฏิบัติกลับกลายเป็นคนคิดมาก คิดเยอะ เวลาคิดมาก ๆ ก็จะสับสน วุ่นวาย เบื่อหน่ายและท้อแท้

บางครั้งการที่จะทำอะไรสักอย่างเราก็ต้องทำเป็นซื่อ ๆ โง่ ๆ บ้าง คือเขาให้ทำอะไรก็ทำ ทำไปแบบซื่อ ๆ "ตรง ๆ"

ความเหนื่อยของบุคลากรทางด้านการศึกษาบางท่านไม่ได้เหนื่อยจากการปฏิบัติงาน แต่เหนื่อยจากความคิด บางครั้งเหนื่อยตั้งแต่ก่อนที่จะปฏิบัติงาน คือ แค่ได้ยินนโยบายก็เหนื่อยแล้ว

 

ในความเป็นจริงงานไม่เหนื่อย แต่ความคิดมาพาให้เราเหนื่อย

 

 

ไอ้ความคิดฟุ้งซ่านนี้แหละ เป็นอุปสรรคตัวสำคัญของการพัฒนาระบบการศึกษาของไทย

บุคลากรทางด้านการศึกษาส่วนใหญ่แล้วเป็นคนเก่ง มีคุณวุฒิสูง คนเก่ง ๆ มีคุณวุฒิสูงจะเก่งมากในเรื่องของการคิด การวางแผน

คนคิดเก่งมาก ๆ จะคิดให้ตนเองมีพลังก็ได้ หรือจะคิดให้ตัวเองท้อแท้ก็ได้

การที่คนเราจะมีทัศนคติไปทางด้านใด จะเป็นไปทางด้านบวกหรือลบนั้น ขึ้นอยู่กับข้อวัตรปฏิบัติของตนทางด้านศาสนา

ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี

คนดีนั้นย่อมคิดดี พูดดี และทำดี

ถ้าหากเราปฏิบัติกิจทางศาสนาตามที่ตนเองนับถืออย่างจริง ๆ จัง ๆ เราจะมีเป็นคนที่มีทัศนคติเชิงบวกต่อโลกใบนี้ รวมถึงทฤษฎีต่าง ๆ ที่ผู้บริหารการศึกษาคิดออกมาให้เราใช้ด้วย

แต่ละหลักการ แต่ละทฤษฎีนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากเรามองโลกในแง่ดี เราก็จะสามารถไปขุดคุ้ยเอาสิ่งดี ๆ ที่อยู่ในทฤษฎีนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์

คนที่ขุดคุ้ยหาความดี ก็เปรียบได้กับคนเดินไปในสวนดอกไม้แล้วเก็บดอกไม้ที่ทั้งสวยทั้งหอม

แต่คนที่ขุดคุ้ยหาแต่ข้อผิดพลาด ข้อเสีย ก็เปรียบเสมือนกับคนเดินไปหลังบ้านแล้วเปิดถังส้วมออกมา ก็จะไม่พบอะไรนอกจาก "อุจจาระ"

"อุจจาระของตนเองว่าเหม็นแล้ว อุจจาระของคนอื่นยิ่งเหม็นกว่า..."

ดังนั้น ขอให้เราตั้งมั่น ขุดคุ้ย ค้นหา สิ่งดี ๆ ที่มีอยู่ในแต่ละหลักการ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ แล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

อาทิเช่น การเปิดโอกาสให้เราทำการวิจัย ทำผลงานทางวิชาการ ก็เพื่อที่จะกระตุ้นให้เราพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถ โดยผู้บริหารการศึกษาก็คิดระบบ ระเบียบ รูปแบบ วิธีการที่เปรียบเสมือเส้นทาง หรือข้อวัตร ข้อปฏิบัติให้เราเดินหรือดำเนินไปตามเส้นทางนั้น

ขอเพียงเราเดินไป ทำวิจัยไป ทำผลงานทางวิชาการไป ทำไปแบบจริง ๆ จัง ๆ แล้วเราก็จะสามารถพัฒนาตนเองตามแผนพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาแห่งชาติที่วางไว้

ถ้าหากต่างคนต่างคิด คนแต่ละคนก็คิดว่าตัวเองคิดถูกทั้งนั้น คนนี้ก็ว่าไปอย่างหนึ่ง คนโน้นก็ว่าไปอีกอย่างหนึ่ง ระบบการศึกษาไทยก็ไปกันคนละทิศ คนละทาง

ขอให้เราลองดูซักตั้ง ปฏิบัติงานอย่างจริง ๆ จัง ๆ กับระบบการศึกษาของไทยในวันนี้

มิใช่เพื่อใคร แต่เพื่อเราเองที่จะสามารถพัฒนาตนเองในการที่จะรับใช้สังคมไทย โดยผ่าน "ลูกศิษย์" ของเราเอง...

ปภังกร วงศ์ชิดวรรณ

18 กรกฎาคม 2554

หมายเลขบันทึก: 449657เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2011 08:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท