โรซ่าพาแซ่บ : เส้นทางโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพที่โรงเรียนนาฮีนุเคราะห์
โรงเรียนนาฮีนุเคราะห์ โรงเรียนขนาดกลาง มีนักเรียนราว ๒๐๐ กว่าคน เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองคายเขต ๑ เป็นโรงเรียนเก่าแก่มีอายุราว ๘๐ ปี
เป็นธรรมดาที่โรงเรียนที่อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากอำเภอเมืองมากนัก เด็กที่มีฐานะดีจึงเดินทางไปเรียนในตัวเมือง ส่วนนักเรียนที่ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนก็มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ปัญหาที่โรงเรียนขนาดกลางประสบคล้ายคลึงกันก็คือ จำนวนนักเรียนที่ลดน้อยลง ปัจจุบันมีเด็กกลุ่มหนึ่งจากหมู่บ้านหนองคาย ซึ่งเด็กที่มีปัญหาทางด้านครอบครัว กำพร้าพ่อแม่ มีรถรับส่งให้เด็กทั้งหมดมาเรียนยังโรงเรียนนาฮีนุเคราะห์ จำนวนกว่า ๕๐ คน
เด็กกลุ่มนี้เองที่เป็นเด็กกลุ่มที่มีปัญหาทางด้านพฤติกรรมที่คุณครูต้องดูแลเป็นพิเศษ ทั้งในการดูแลความประพฤติ การเรียนการสอนที่ยังต้องเพิ่มเติมทักษะมากกว่าเด็กนักเรียนปกติ ทางโรงเรียนนาฮีนุเคราะห์จึงมีมาตรการในการสอนเสริมเด็กเหล่านี้ให้พัฒนาด้านการเรียนการสอนให้ทันเพื่อนๆในวัยเดียวกัน
ผู้ปกครอง ในชุมชนที่เป็นเขตรับผิดชอบโรงเรียน ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างนอกช่วงฤดูเพาะปลูก ทั้งรับจ้างในโรงงาน และสนามกอล์ฟที่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก ปัญหาอีกปัญหาหนึ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ การอพยพย้ายถิ่นออกไปทำงานนอกพื้นที่ของวัยแรงงาน โดยทิ้งเด็กไว้กับปู่ย่าตายายเลี้ยงดูตามยถากรรม การดูแลเด็กของผู้สูงอายุเหล่านี้ทั่วถึงและส่งผลต่อภาวะโภชนาการของเด็กด้วย
การมีส่วนร่วมของภาคีอื่นๆนอกโรงเรียน ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ที่มุ่งเน้นงานส่งเสริมสุขภาพเด็ก ผ่านงานอนามัยโรงเรียน
ในปีงบประมาณ ๒๕๕๓ ทางโรงเรียนได้รับงบประมาณจากบริษัทไฮคิวอุตสาหกรรมจำกัด ร่วมกับกรมอนามัย ในการดำเนินกิจกรรมพัฒนาโภชนาการดี มีทั้งกิจกรรมที่ดำเนินการตามโครงการ และการใช้สื่อที่ได้รับการสนับสนุน ปรากฏว่าทางโรงเรียนดำเนินการได้เป็นอย่างดี เด็กๆมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียนโดยเฉพาะทางด้านส่งเสริมโภชนาการที่ดี การงดจำหน่ายอาหารกรุบกรอบที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การให้ความสำคัญต่อมื้อสำคัญของนักเรียน คือ อาหารกลางวัน เป็นเมนูสุขภาพอย่างแท้จริง
ในปี ๒๕๕๔ ทางโรงเรียนได้รับงบประมาณอีกครั้งในการขับเคลื่อนโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ผ่านกิจกรรมต่างๆตามศักยภาพของโรงเรียน ทั้งนี้การพัฒนาโดยรูปแบบจะเน้นการมีส่วนร่วมของภาคีที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ ชุมชน ,รพ.สต. และ อสม. แกนนำนักเรียน ที่ลืมไมได้คือ พ่อครัว แม่ครัว ผู้ปรุงอาหารนั่นเอง
กระบวนการหนุนเสริมโดยมีการจัดเวทีการพัฒนาทักษะคุณครูในการทำโครงการ การพัฒนาทักษะเด็กในการจัดการสุขภาพ สร้างผู้นำสุขภาพที่เรียกว่า “กัปตันสุขภาพ” ตลอดจนอบรมแม่ครัว แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่มแม่ครัวด้วยกัน ถือว่าเป็นกิจกรรมาที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมากกับการพัฒนาในปีนี้
เด็กๆเริ่มตั้งกลุ่มเป็น ชมรมเด็กไทยทำได้ พ่อครัว แม่ครัว ก็มีทักษะที่เพิ่มขึ้นตระหนักให้ความสำคัญต่อคุณค่าโภชนาการจากเมนูเพื่อสุขภาพที่จัดให้เด็กๆเป็นอาหารกลางวัน
สำหรับการพัฒนาโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพที่ โรงเรียนนาฮีนุเคราะห์ สถานะในขณะนี้อยู่ในระดับทอง และกำลังจะก้าวสู่ระดับเพชรในอนาคต และทางทีมงานที่ประกอบด้วย ครูและ เจ้าหน้าที่ รพ.สต. พูดคุยร่วมกันว่า ไม่น่าจะยากจนเกินไป เงื่อนไขจากทองสู่เพชร มุ่งเน้นที่เด็กเป็นพระเอก เด็กนักเรียนแกนนำสามารถเป็นตัวอย่างทางด้านสุขภาพ “เด็กไทยทำได้” สำหรับเกณฑ์การประเมินโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร ประกอบด้วย มาตรฐาน ๓ ด้าน ๑๙ ตัวชี้วัด โรงเรียนที่ผ่านการประเมินเป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร จะต้องผ่านเกณฑ์ประเมินครบทุกตัวชี้วัด
แม้จะยากแต่หากมีการร่วมมือกันพัฒนาอย่างจริงจัง โดยการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียนของภาคีที่เกี่ยวข้อง การก้าวไปสู่โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชรก็ไม่ใช่เรื่องยาก
การเข้าเยี่ยมครั้งที่ ๑ ตามโครงการ "โฮมฮักลูกหลานโภชนาการดี" สนับสนุนสู่โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ปี ๒๕๕๔"
ระหว่างวันที่ ๒๘ ส.ค.๕๔ - ๒ ก.ย.๕๔
สนับสนุนโดย บริษัทไฮคิว อุตสาหกรรม จำกัด ร่วมกับ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ชอบใจคำว่าโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ เด็ก ๆจะได้แข็งแรง เกิดโรคได้น้อยลง
แหม น้องคนนี้ทรงผมงานแต้ๆ ค่ะ