บันทึกนี้จะเป็นบันทึกสุดท้ายสำหรับชุด ความตายที่งดงาม
ผมตั้งใจจะทบทวนบทเรียน เพื่อร่วมเสวนาทางไกล กับ
"เผชิญความตายอย่างสงบ: เรียนรู้ผ่านการจากไปของสุภ
ขอเริ่มจากบทสรุปจากมุมมองของผู้ป่วย คือ พี่พร เอง
ผมคิดว่า พี่พรสรุปได้สั้นและกระชับ ในงานเขียนชิ้นสุดท้ายของตนเอง ที่ต้องใช้วิธีบอกจด เนื่องจากเหนื่อยมาก
งานเขียนสั้นๆ ที่เป็นหนังสือแจกในงานศพ .. คือมือแม่... ที่เยียวยา
พี่พรสรุปว่า ความช่วยเหลือที่ได้รับจากคนรอบด้านนั้น
...ล้วนเป็นมือที่เยียวยา แต่ทั้งหมดนี้ เกิดจากต้นธารที่เป็นมือแม่
ความเห็นของผม ความสำเร็จของพี่พร มี ปัจจัยความสำเร็จ ๒ ข้อ
ข้อแรก คือ ตัวพี่พรเอง
ที่รับรู้เรื่องราว ความเป็นมาของตนเองตั้งแต่ต้น ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่มีปกปิด ผมเคยพูดเปรียบเทียบผู้ป่วยของผมคนนี้ว่า เป็นเหมือนวาทยากร ที่สามารถควบคุมนักดนตรีหลากหลายชีวิตให้ช่วยกันบรรเลงเพลงสุดท้ายของตนเอง ได้อย่างงดงาม
วาทยากรจะคุมวงได้อย่างไร ถ้าตนเองไม่รู้โน๊ต ไม่รู้ว่าตนเองกำลังเล่นเพลงอะไร
หลายคนที่คิดจะปกปิดคนไข้ ไม่ให้รู้ว่าตนเองเป็นโรคร้าย ไม่ให้รู้ว่าใกล้ถึงวะระสุดท้าย คงต้องคิดเรื่องนี้ให้ดีๆ
ข้อสอง คือ มือแม่ที่เยียวยา
ผมขอใช้คำเดียวกับพี่พร คือ ความช่วยเหลือของทุกฝ่ายที่เข้ามาในช่วงเวลานั้น ต่างรู้เขารู้เรา เพราะเราพูดคุยวางแผนร่วมกันตลอดเวลา ตามลำดับ โดยผู้ป่วยมีส่วนร่วมด้วย ข้อนี้ตรงกับหลักการสำคัญของ palliative care ในประเด็น interdisciplinary care ที่ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ครั้งนี้มากกว่าอ่านตำราใดๆ
หลายปีถัดมา มีพยาบาลมาเล่าให้ผมฟังว่า เคยมีญาติพาผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาล แล้วบอกว่า เขาอยากให้ผู้ป่วย..คนที่เขารัก เสียชีวิตเหมือนอย่างพี่พร
แว่บแรกที่ผมคิด คือ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ความตายของคนเราแต่ละคน ไม่มีทางเหมือนกันแน่นอน ร้อยคน ร้อยแบบ จะมาสำเนากันง่ายๆ ได้อย่างไร
พอมาคิดอีกที เขาคงไม่ได้หมายความถึง เหมือนกันเปี๊ยบแบบนั้น แต่เอาประมาณนั้น
คำตอบของผม ก็ขอให้กลับไปอ่าน สองข้อข้างบน ว่า เขามีแล้วหรือยัง
ดีจังเลยนะคะ
จากไปท่ามกลางความสงบค่ะ
ขอให้ท่านสู่สุขคติค่ะ
ครับ กำลังจะมีเสวนาเรื่องนี้ที่กระทรวงต้นเดือนหน้าครับ
ขอบคุณครับ
หลวงพ่อชาเคยสอนว่า ตายก่อนตาย...
น่าสนใจมากครับ
อยู่มีคนรักและไว้ใจ จากไปคนอาลัยคิดถึง......... ขอบคุณเรื่องดีๆมาแบ่งปันนะคะ
การเผชิญความตายอย่างสงบแนวคิดของหนูจิน
1.บุญกรรมที่ทำมาในอดีตมองความแตกต่าง เน้นจิตใจต้องยอมรับความเจ็บป่วย
2.ตัวเอง การกระทำในปัจจุบัน
3.ญาติผู้เกี่ยวข้อง(เป็นหน้าที่ของเราไม่มีญาติก็ตายอย่างมีความสุขได้)
...มีหลายประเทศ...ที่หมอช่วยให้คนไข้ตายอย่างสงบได้นะคะ
มีบัญชีมานานแล้วครับ แต่ได้เขียนบันทึกแรกก็เพราะอ่านบทความเรื่องพี่พรของคุณหมอนี้เองครับ
ขอให้คุณพรไปสู่สุขคติภพครับ