ซอกแซกทัวร์พม่า ตอนที่ 4


               คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ผู้เขียนจะเที่ยวในเมือง Bagan รุ่งเช้าก็จะบินไป yagon ก่อนจากลาเมืองแห่งความงามดุจดั่งเนรมิตในเทพนิยาย มนต์เสน่ห์เหมือนดั่งต้องคำสาบของ Bagan จะพาไปชม Light Up ของเมืองค่ะ ไม่ต้องแปลกใจน่ะค่ะว่าเมืองกันดาร ๆ แบบ Bagan จะมี Light Up ให้ชม เพราะพม่ามีอะไรแปลก ๆ ให้เรามหัศจรรย์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะต้องเป็นแบงค์ใหม่ ๆ ในสกุล US เท่านั้น แต่เงินจั๊ดตัวเองทั้งเน่า ทั้งเหม็น พระบิณฑบาตรทั้งวัน เดินจับมือผู้หญิงไม่ผิดศีล เก้าอี้มีพนักพิงดี ๆ พี่หม่องแกก็นั่งชันเข่าซะงั้น แม้กระทั่งไหว้พระสวดมนต์ พี่หม่องแกก็ชันเข่าหน้าตาเฉย อาหารพม่าอร่อยถูกปากผู้เขียนมาก เพราะแทบจะไม่มีชิ้นเนื้อโผล่มาให้เห็น ผักล้วน ๆ ปลุกสารพัดแบบ แปลกดี

               อย่ารอช้าเลยค่ะ มาชม Light up ค่ำคืนของเมือง Bagan ก่อนลาจาก แต่ไม่จากลา ฝันไว้สักวันหนึ่งผู้เขียนจะกลับมาเยือนอีกครั้งก่อนที่นักท่องเที่ยวจะทะลักเข้ามาจนกลืนกินวัฒนธรรมดั่งเดิมของชนพื้นเมืองซะก่อน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                  บริเวณรอบ ๆ พระเจดีย์ค่ะ องค์ใหญ่โตมากขนาดนั่งกับพื้นแหงนกล้องจนสุด ก็ยังไม่สามารถเก็บภาพของยอดเจดีย์ได้สมบูรณ์ งานปราณีต ละเอียดอ่อนช้อยมาก ๆ ต้องบอกว่าค่ำคืนนี้ Light Up อลังการจริง ๆ บริเวณรอบ ๆ องค์พระเจดีย์ จะมีพระ และคนพม่ามานั่งสวดมนต์ สวดแบบจริง ๆ จัง ๆ เลยน่ะค่ะ ทั้ง ๆ ที่อากาศหนาวเหน็บ ที่ Bagan กลางคืนจะหนาวเย็น ส่วนกลางวันจะร้อนแบบตับแลปเลยค่ะ พื้นที่ส่วนใหญ่แห้งแล้ง ทะเลทรายย่อม ๆ ทีเดียว 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

             รุ่งเช้าก่อนขึ้นเครื่องบินไปต่อ Yagon เราแวะ Shopping เครื่องเขิน ฝีมืองานปราณีต ทำจากไม้ตระกูลต้นมะพร้าว ต้นตาลมาฝานบาง ๆ ละเอียด แกะสลักลงยา เคลือบสีแบบโบราณอีกขั้น อยู่ได้เป็นร้อย ๆ ปี เครื่องเขินมี 2 แบบน่ะค่ะ ถ้าซื้อตามสถานที่ท่องเที่ยวจะทำจากพาสติก ราคาประมาณ 3-5 US แต่ถ้าเป็นร้านเครื่องเขินโดยเฉพาะ จะทำจากไม้ราคาตั้งแต่ 50 US ขึ้นไปค่ะ

      Mr.เอ๊าะ เอ๊าะ มาส่งผู้เขียนกับเพื่อนที่สนามบิน เข้า Gate ไปตั้งนานแล้ว เห็นโสร่งปลิวไหว ๆ อยู่นอกประตู จำได้ว่าเป็นโสร่งของเอ๊าะ เอ๊าะ นึกว่าผู้เขียนจ่ายตังค์ไม่ครบ รีบเดินออกมาถาม เห็น เอ๊าะ เอ๊าะ ยืนน้ำตาซึม ถามได้ความว่า

      "I am so sad I am very happy take care off you, promiss come back again please I will wait you"

ผู้เขียนถึงกับโผล่เข้ากอดพ่อเสี่ยวแล้วปลอบโยนว่า

        "Your are my close friend I promiss will come back visit you again"

         ..........และแล้วเราสองคนก็ยืนน้ำตาไหลอยู่ตรงประตูทางเข้าสนามบิน จับมือเขย่ากันไปมาเหมือนแสนนาน มิตรภาพนี้ช่างยิ่งใหญ่ ซื้งใจเหลือเกิน ความจริงใจ ความใสซื่อ ความบริสุทธิ์ ความปราถนาดีของเอ๊าะ เอ๊าะ ที่มีต่อผู้เขียนสามารถสัมผัสได้อย่างที่เรียกว่า Body Language  แม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม.............

       ประเดี๋ยวเราไปต่อที่ Yagon กันต่ออีกสักคืนน่ะค่ะ ในตอนที่ 5 ได้ที่นี่ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ซอกแซกทัวร์พม่า ตอนที่ 1    http://www.gotoknow.org/posts/556265

ซอกแซกทัวร์พม่า ตอนที่ 2    http://www.gotoknow.org/posts/556319

ซอกแซกทัวร์พม่า ตอนที่ 3    http://www.gotoknow.org/posts/556345

ซอกแซกทัวร์พม่า ตอนที่ 4    http://www.gotoknow.org/posts/556396

ซอกแซกทัวร์พม่า ตอนที่ 5    http://www.gotoknow.org/posts/556445

            ท่านใดสนใจโปรแกรม Back Packer ผู้เขียนยินดีน่ะค่ะ ค่อนข้างเก็บข้อมูลไว้ละเอียดมาก ติดต่อได้ที่ [email protected] ค่ะ

14 Dec 2013

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 556396เขียนเมื่อ 14 ธันวาคม 2013 19:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม 2013 10:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เรื่องราวสนุกทุกตอนเหมือนได้ไปเที่ยวด้วย...รอติดตามอ่านตอนที่ 5 แต่เดี๋ยวจะไล่อ่านตอนที่ 3 ก่อนนะคะน้องนิภารัตน์...

ดร.พจนา แย้มนัยนา

ดีใจค่ะที่ขนาดระดับ ดร.ยังออกปากชม มีกำลังตั้งเยอะเลยค่ะ

ขอบคุณพี่สาวคนสวยมาก ๆ ค่ะ คิดถึงน่ะค่ะ จุ๊บ ๆๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท