วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๗ ผมไปร่วมการประชุม ริมเจ้าพระยา ฟอรั่ม โดยมี ศ. นพ. ดร. นรัตถพล เจริญพันธุ์ เป็นผู้มาเล่าเรื่องวิธีคิด และวิธีปฏิบัติในการทำงานวิชาการจนประสบผลสำเร็จ ได้ตำแหน่ง ศาสตราจารย์ตั้งแต่อายุ ๓๕ ปีนับเป็นศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย เท่าที่เคยมี
ศ. นรัตถพล เรียนหลักสูตร PhD MD ที่ศิริราช จบรุ่นที่ ๑๑๐เป็นอาจารย์ภาควิชาสรีรวิทยาคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
ผมสรุปกับตัวเองว่า ศ. นรัตถพล ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในชีวิตวิชาการ เพราะท่านจับหลักการ เชิงมโนทัศน์ (concept) ที่สำคัญๆ ได้หลักการเหล่านี้ได้แก่
อีกคู่หนึ่งที่นักวิชาการทั่วไปบ่นมากคือ งานวิชาการ - งานธุรการ เช่นเสียเวลาเขียน มคอ. ของ TQFงานเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ ฯลฯศ. นรัตถพล กลับเสนอว่า นักวิชาการ ต้องเข้าใจระเบียบพัสดุ และอื่นๆสำหรับนำมาใช้ในการทำงานให้ราบรื่นและมีระบบที่ ทรงประสิทธิภาพแล้ว “ก้าวข้าม” ภารกิจเหล่านั้นคือฝึกคนขึ้นมาทำงานในลักษณะงานประจำเหล่านั้นลดภาระของตนลงไป
ความเห็นของ ศ. นรัตถพลนี้ ตรงกับสาระในบทที่ ๑ ของหนังสือ Teaching at Its Best
ผมสรุปกับตนเองว่า ศ. นรัตถพล เป็นนักวิชาการที่ก้าวสู่สภาพ “รู้จริง” (Mastery) ตั้งแต่อายุน้อยมากและเข้าใจว่า ท่านได้จากการสังเกตเรียนรู้จากการปฏิบัติของตนเองอาจจะผสมกับมี mentor ที่ดีคอยช่วยชี้ทางและผมคิดว่า ใครก็ตามที่สามารถเข้าสู่มโนทัศน์แบบนี้ได้การสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการก็ไม่เป็นเรื่องยากและน่าจะเป็นเรื่องสนุกบันเทิงใจดังที่แสดงออกมาในหน้าตาท่าทางของ ศ. นรัตถพล ตอนบ่ายวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๗ ที่อาคาร SiPH ชั้น ๘มองออกไปภายนอกเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันสวยงาม
เป็นหน้าตาท่าทางของคนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จสูงยิ่งในชีวิตวิชาการ จากการคิดแหวกแนว จากมโนทัศน์เดิมๆแต่ไม่เปล่งประกาย อหังการ์ใดๆ เลย
ในตอนท้าย ศ. นพ. ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ของมหาวิทยาลัยมหิดล ถามผมว่า ผมจะแนะนำให้ ศ. นรัตถพล ทำอะไรในชีวิตที่เหลืออีก ๒๕ ปี จึงจะถึงอายุ ๖๐เพราะแค่อายุ ๓๕ ก็บรรลุ ตำแหน่งสูงสุดในชีวิตนักวิชาการเสียแล้ว
ผมตอบว่า การเป็นศาสตราจารย์ไม่ใช่เป้าหมายหรือไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในชีวิตคนแต่เป็นเครื่องมือ หรือเป็นเส้นทาง สู่การทำคุณประโยชน์ มีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่สังคมซึ่งในที่นี้ ผมตีความว่า เป็นการ “สร้างคน” ที่เป็นนักวิชาการแท้นักวิชาการที่มีคุณภาพสูงให้แก่สังคมไทย
ศ. นรัตถพล มีเวลาทำงานสร้างสรรค์วิชาการอีก ๔๕ ปี ไม่ใช่ ๒๕ ปีเพราะนักวิชาการนั้นไม่ควรหยุด ทำงานวิชาการเมื่ออายุ ๖๐เพราะสมัยนี้คนอายุ ๖๐ ที่สุขภาพดีถือว่ายังหนุ่มนักวิชาการอาวุโสควรรับใช้ บ้านเมืองโดยการสร้างนักวิชาการชั้นยอดให้แก่ประเทศศ. นรัตถพล สามารถทำหน้าที่สร้างนักวิจัย/นักวิชาการ ชั้นยอด จนได้ชื่อว่าเป็น professor of the professors
วิจารณ์ พานิช
๒๑ มี.ค. ๕๗
ศ. นพ. ดร. นรัตถพล เจริญพันธุ์ ขณะเล่าความคิดจากการปฏิบัติ
แนวทางจัดการเรียนรู้ ๑
แนวทางจัดการเรียนรู้ ๒
แนวทางจัดการเรียนรู้ ๓
Active - Reflective Learning
ขอบคุณบันทึกดีๆ ค่ะอาจารย์