บูรณมี
จำได้ไม่ลืมตอนแรกเรียนบาลี มีศัพท์หนึ่งที่ค้นหาที่มาไม่ได้ว่าทำไม จึงแปลว่าอย่างนั้น คือ "ปุณณมี" ซึ่งแปลงสัญชาติมาเป็นไทยว่า "บูรณมี"
ปุณณมี เจอแปลโดยพยัญชนะครั้งแรก ก็แปลว่า "ดิถีที่สิบห้ามีพระจันทร์เต็มดวง" ... สมภารในฐานะผู้แรกเรียนบาลีก็คิดว่า น่าจะผิด ! เพราะหนังสือเล่มนี้ผิดพลาดเยอะ แต่ก็คิดไม่ออกว่ามันผิดอย่างไร จึงไปค้นเล่มอื่นๆ เท่าที่จะหาได้ ทั้งยกศัพท์ สงเคราะห์ เผด็จ คัณฐี... ก็แปลอย่างนี้หรือทำนองนี่เหมือนกัน ก็เก็บความสงสัยเรื่อยมา...
สอบได้ประโยค ๔ แล้ว สมภารก็ขึ้นมาเรียนกรุงเทพฯ โดยตอนเช้าเรียนบาลี ตอนบ่ายเรียน มจร. ปีแรกก็สอบได้ประโยค ๕ พอปีที่สองก็สอบตกประโยค ๖ ... ในช่วงปิดภาคเรียนก็กลับสงขลา ก็ไปเยี่ยมท่านมหาสำราญ ปิยมิตรของสมภาร ซึ่งปีนั้นท่านสอบประโยค ๖ ได้... หลังจากเคาะประตูแล้วท่านเปิดประตูออกมา สมภารก็เห็นท่านนั่งที่โต๊ะกำลังแปลหนังสือเล่มใหม่อยู่.. คำแรกที่ท่่านพูดอย่างเป็นทางการก็คือ "ผมรู้แล้วว่า มา แปลว่าพระจันทร์ "
นั่นก็คือ ศัพท์ว่า "ปุณณมี" นั่นเอง... "ปุณณะ" แปลว่า "เต็ม" ซึ่งผู้แรกเรียนบาลีก็แปลได้... "มี" ศัพท์นี้แหละ มาจากคำว่า "มา" ซึ่งแปลว่า "พระจันทร์"... เพียงแต่ท่่านบอกว่า "มาแปลว่าพระจันทร์" สมภารก็เข้าใจทันที... แล้วท่านก็ชี้ให้ดูหนังสือโยชนาของประโยค ๗ ซึ่งท่านเปิดอยู่ แสดงว่า ท่านก็สงสัยอยู่หลายปีเหมือนกันกว่าจะรู้ศัพท์นี้...
ถ้าจะวิเคราะห์ศัพท์ตามนัยไวยากรณ์บาลี ก็จะได้ดังนี้
ปุณฺณา มา - ปุณฺณมา ... พระจันทร์ เต็มดวง ชื่อว่า ปุณณมา (พระจันทร์เต็มดวง)
ปุณณมา ตสฺส อตฺถีติ - ปุณณมี (ปณฺณรสติถี)... พระจันทร์เต็มดวง แห่งดิถีที่สิบห้านั้น มีอยู่ ดังนั้น ดิถีที่สิบห้านั้น ชื่อว่า ปุณณมี (มีพระจันทร์เต็มดวง)
ปุณณะ + มา + อี = ปุณณมี
ปุณณะ - เต็มดวง
มา - พระจันทร์
อี - เป็นปัจจัยในตัทธิต แปลว่า มี
ปุณณมี หรือ บูรณมี แปลว่า "มีพระจันทร์เต็มดวง" ...ศัพท์นี้ จัดเป็นคุณนามทำหน้าที่ขยายศัพท์ที่เป็นนามนาม จึงต้องหาศัพท์ที่เป็นนามนาม ซึ่งก็คือ "ดิถีที่สิบห้า" หรือ "วันขึ้นสิบห้าค่ำ"
สรุปว่า บูรณมี จึงแปลให้เต็มใจความตามภาษาไทยได้วา "วันขึ้นสิบห้าค่ำมีพระจันทร์เต็มดวง"
พระจันทร์ดวงกลมโตสวยงามมากค่ะ แต่ที่หาดใหญ่เฆมมากไปหน่อยค่ะ สาธุค่ะ
ปล. หน้าแรก GotoKnow ปรับใหม่แล้วนะคะ ใหม่! ส่วนตั๊ว ส่วนตัว กับหน้าแรกของ GotoKnow
ต้นโมกบุตรชายไปเวียนเทียนที่วัดท่าสูง จ.นครศรีธรรมราช
นมัสการพระเดชพระคุณเจ้า
อ่านข้อเขียนของพระอาจารย์แล้ว สนุกมาก
ชวนให้ติดตามและอยากรู้ไปแทบทุกเรื่อง
(เวลาฟังพระท่านสวดมนต์ ในบางบทที่เคยสวดได้ ทำให้สงสัยใคร่รู้
ว่าบทสวดมนต์นั้น แปลว่าอะไรหนอ???)
บางบทสวดที่เป็นบทสวดมนต์แปล ก็พอจำได้จากความหมายของบทสวด
แต่ไม่สามารถแยกศัพท์ออกได้เพราะไม่มีความรู้ทางบาลี
หากว่าชาตินี้ยังพอมีบุญ โยมจะจะพยายามศึกษาบาลีให้เข้าใจบ้าง
และขออนุญาตเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อด้วยค่ะ