โจทย์ใหม่ ภารกิจที่ท้าทายของชีวิต


ที่ผ่านมาผมว่า "ระบบการศึกษา" มีส่วนทำให้ผู้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่อง "การเรียนรู้" กันค่อนข้างมาก คนส่วนใหญ่เคยชินอยู่กับโหมด "การเรียนรู้เพื่อสอบผ่าน" คือเรียนไปเพื่อจะต้อง "ตอบให้ได้" ว่าเรื่องที่เรียนไปนี้คืออะไร แตกต่างหรือเหมือนกับเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างไร ต้องสามารถอธิบายทุกอย่างให้กระจ่าง (และตรงกับคำตอบของอาจารย์) ไม่เช่นนั้นก็ถือว่าไม่ผ่าน โดยที่หลงลืมไปว่าแท้ที่จริงแล้ว เป้าหมายหลักของการเรียนรู้ก็เพื่อนำมาใช้กับชีวิต เรียกว่าอยู่ในโหมด "การเรียนรู้เพื่อใช้งาน" มากกว่าการเรียนเพียงเพื่อแค่ให้ทำข้อสอบหรือตอบคำถามได้


ในทำนองเดียวกัน "ระบบการคิด" ก็ได้สร้างความเข้าใจผิดให้กับชีวิตเราด้วยเช่นกัน ตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆ จนเติบใหญ่เราต่างก็ถูกสอนให้ใช้ความคิด ให้รู้จักวิเคราะห์เปรียบเทียบสรุปตัดสินใจ ทุกการรับรู้ของเราจึงเป็น "การรับรู้เพื่อตัดสิน" คิดว่าระหว่างสิ่งนั้นกับสิ่งนี้ เราควรจะเลือกสิ่งไหนดี อันนี้กับอันนั้นอันไหนดีกว่ากัน ดี/ไม่ดี สวย/ไม่สวย คุ้มค่าหรือไม่ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับการคิดวิเคราะห์ตัดสินใจ เป็นโหมดการรับรู้ที่นำไปสู่การเปรียบเทียบตัดสินตลอดเวลา ไม่สามารถจะรับรู้สภาวะของสิ่งต่างๆ ตามที่มันเป็นได้ กลายเป็นกระบวนการที่ต้องผ่านสภาวะที่มาเป็นคู่ (ทวิภาวะ) อยู่ตลอดเวลา


กว่าสิบปีที่ผ่านมา หน้าที่การงานได้ทำให้ผมได้รู้จักกับกระบวนการเรียนรู้ที่เรียกว่า KM (Knowledge Management) ช่วงเวลาที่ผ่านมาผมใช้เวลาส่วนใหญ่พูดคุยกับผู้คนเพื่อสร้างความเข้าใจว่า การนำ KM ไปใช้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไรเพียงแต่เราต้องรู้จักเปลี่ยนโหมดการเรียนรู้ให้ได้เท่านั้น จากที่แต่ก่อนเคยติดอยู่แต่ในโหมด "การเรียนรู้เพื่อสอบผ่าน" ตลอดเวลาก็ต้องพาตัวเองมาอยู่ในโหมด "การเรียนรู้เพื่อใช้งาน" ให้มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ให้การพัฒนาตนเอง ทีมงาน และองค์การต่อไป


แต่ประเด็นใหญ่ในตอนนี้ที่ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่งก็คือประเด็นที่เกี่ยวกับการรับรู้ . . แน่นอนล่ะ "การรับรู้เพื่อเปรียบเทียบตัดสิน" ยังคงเป็นกระบวนการที่สำคัญในการดำเนินชีวิต แต่พวกเราเคยตระหนักบ้างหรือไม่ว่ามันไม่ใช่โหมดการรับรู้โหมดเดียวที่ชีวิตให้เรามา โจทย์ที่ผมมีในใจตอนนี้ก็คือ "ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถเปลี่ยนไปอยู่ในโหมดการรับรู้แบบอื่นได้บ้าง?" ไม่ติดอยู่ในกรอบของความคิดตลอดเวลา ไม่ติดอยู่ในทวิภาวะ (สภาวะที่มาเป็นคู่) ไม่อยู่ในสถานะที่ต้องคอยตัดสินตลอดเวลาว่าอะไรดีอะไรเลว อะไรถูกอะไรแพง เป็นโหมดของ "การรับรู้สิ่งต่างๆ ตามที่มันเป็น" จะเรียกว่าเป็นโหมด "การรับรู้อันบริสุทธิ์" Pure Awareness หรือ Innocent Perception ก็น่าจะได้ . . และนี่คือภารกิจที่ท้าทายในชีวิตผมครับ


หมายเลขบันทึก: 585406เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2015 10:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2015 10:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

รอติดตามการค้นพบของอาจารย์อยู่นะคะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท