​4. วิธีแห่งการเรียนรู้ R2R "เสริมพลัง สร้างคุณภาพ สู่สุขภาวะ: คปสอ.คำเขื่อนแก้ว"

4. วิธีแห่งการเรียนรู้ R2R "เสริมพลัง สร้างคุณภาพ สู่สุขภาวะ: คปสอ.คำเขื่อนแก้ว"

- ในหนังสือบอกอะไร อ.กะปุ๋ม สื่อสารหรือกำลังบอกเรื่องอะไร

จุดเริ่มต้นจาก GAP ของงานนโยบาย น่าเบื่อ ถูกสั่งให้ทำ

R2R เข้ามาช่วยปรับเปลี่ยน ขับเคลื่อนทีเดียวแบบทั้งระบบ จากผู้ป่วยเบาหวานความดัน ที่แออัด

ทำให้มองเห็นภาพการทำงานแบบ ใยแมงมุม แบบทำงานเชื่อมโยงกันในบริบทที่มี R2R เป็นเครื่องมือที่ทำให้คนทำงาน หายเบื่อ พัฒนางานตามบริบท เห็นพลังคนหน้างาน เห็น คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่ดีขึ้นจากการนำแพทย์วิถีธรรม และ SKT ด้วยการพัฒนาแบบพร้อมๆกันเชิงระบบ ก็เหมือนที่นี่ก็ได้คำตอบเชิงระบบ R2R นอกจากจะทำให้คนทำงานมีพลังชีวิตแล้ว R2R ยังนำพาคนหน้างานตอบตัวชี้วัดได้ด้วย

- อ่านแล้วรู้สึกหรือคิดอย่างไร

อ่านแล้วรู้สึก R2R ยิ่งใหญ่ เป็นความยิ่งใหญ่ที่เกิดจากมือของคนเล็ก ๆ หน้างาน ที่ลงมือทำ ลงมือมือพัฒนา แล้วยิ่งผู้นำเอาด้วย แบบพัฒนาไปพร้อมกันทั้งระบบ คำตอบที่ออกมาก็ได้ทั้งระบบ ครบกระบวนท่า แบบเป็นภาพใหญ่ เหมือนคนละมือคนละไม้ แต่ได้ผลลัพธ์ที่ใหญ่ ปูพรมเต็มพื้นที่ ผลลัพธ์ที่ออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย R2R คือ การสร้างสิ่งดี คือ การพัฒนา ลูกค้า หรือ ผู้ป่วย คือ คำตอบที่แจ่มชัดถึงคุณภาพที่ดีขึ้น ยิ่งใช้ตัววัคือ ปิงปองจรจาจร 7 สี ผลลัพธ์ทางสุขภาพของผู้ป่วยก็ขยับขึ้นในด้านดี

โห ช่างยิ่งใหญ่ นี่ไม่ใช่คาคนหน้างานมีความสุขนะ นี่มันให้ความสุขได้ทั้งผู้ป่วย ญาติๆ ผู้ป่วย ทั้งผู้นำที่ดูแลระบบ แค่คิดก็ยิ้มได้ ทั้งเจ้านานและลูกน้อง พร้อมผองญาติเลยค่ะ

- ประทับใจอะไร ...เพราะอะไร

การสื่อสารของ ท่าน อ.กะปุ๋ม ง่าย ๆ แต่ลึกซึ้ง เจาะลงถึงใจ ให้เห็นภาพ จากมือเล็ก ๆคนทำงานสานต่อ ทำกันทั้งระบบ จบท้ายด้วยสุขภาพดีของผู้ป่วย ที่รายล้อมด้วยรอยยิ้มของความภาคภูมิใจของคนหน้างาน

นี่ขนาดอ่านผ่านแล้ว กลับมานั่งคิดภาพจินตนาการ กับเรื่องราวในมุมเล็กๆ ของคนหน้างาน พอท่านอาจารย์เอามาเล่า ร้อยเรียงลงหนังสือ นั้นน่าทึ่งจริง ๆ ที่บางทีก็อดนึกถึงงานตนเองไม่ได้ ว่า เอาเข้าจริง ๆ กับการทำหน้าที่ เราทุกๆคนก็ ทำ ก็พัฒนานะ แม้จะไม่เต็มรอบของ R2R แต่ทุกหัวใจ ก็เต็มเปี่ยมของการหาวิธีให้การทำงานดีขึ้น ๆ เรื่องเล่าของอาจารย์ให้กำลังใจด้วย

เพราะอะไร ก็ ทีมนี้เขาเริ่มต้นจาก ความรู้สึกเบื่อ ความล้มเหลว แต่เขาก็ผ่านมาด้วย ด้วย ใวศรัทธา

เหมือมีคำตอบว่า ถ้ามีใจ ถ้ามีศรัทธา ปัญหาตรงหน้าก็ จิ๊บ ๆ

-วันนี้คุยกับหลวงพี่เรื่องอะไร และได้เรียนรู้อะไรจากที่ท่านสอน

วันนี้พึ่งได้คุยกันยาว ๆ กับปัญหาที่หนูเผชิญ รวมถึงเหตุการณืเมื่อวันเสาร์ หลวงพี่สะท้อนว่า เอาเหตุการณ์การเดินทางไป R2R กลับมาปรับใช้กับตนเอง เริ่มต้นเต็มกำลังกับต้นทุนที่มี

สำคัญต้นทุน ไม่ใช่เงิน แต่คือ ทุกสิ่งที่เรามี รวมถึงความสามารถ

การที่จะแก้ไขปัญหา ทุกอย่างที่กำลังเผชิญเหมือนกัน อย่าพุ่งเป้าไปแค่เงิน หรือ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่มองให้รอบกับทุกสิ่งที่มีอยู่ตรงหน้า ของที่มี ความสามารถ ทุกอย่างนั่นแหละคือ ต้นทุน และน้องมีมากด้วย มหาศาล พอที่จะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้ ขอแค่น้องลงมือทำ เริ่มมันสักอย่าง

จำไว้ว่า สิ่งที่น้องมี และดีที่สุดนั่นคือ ครูของน้อง ท่านเป็นกัลยาณมิตร ที่หาไม่ได้ง่ายๆในสังสารวัฏนี้ ที่ผ่านมา หรือ ต่อไป จะทำผิดทำถูกไม่เป็นไร อันไหนไม่เหมาะไม่ใช่ ท่านจะชี้ทางเอง

เหมือนเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ ที่มีคนมาว่า

ถ้าย้อนกลับไปได้ หนูจะเปลี่ยนแปลงอะไรไหม คำตอบ คือ ไม่

เพราะนั่นคือ ใจแท้ๆของหนู นั่นคือ ของจริง

แม้เป็นการพุ่งออกมาด้วยกิเลส แต่เชื่ออยู่ข้างในว่า เป็นธรรม

สิ่งที่ทำคือ กำแพง เหมือนหนู ใช้ตนเองเป็นกำแพงมนุษย์ อาจจะไม่ได้ดูดี แต่นี่คือ ต้นทุนที่หนูมีและพอทำได้

ตอนทำไม่ได้คิด มันพุ่งออกมาจากข้างในเอง รู้แค่หงอไม่ได้

แต่ครูก็เมตตา ปราม นี่คือ ความเข้าใจขึ้นมาถึง ความเมตตาของครู

ปรามไว้เพื่อไม่ให้กิเลสหนูเลยเถิด คำปรามของท่านเหมือนน้ำเย็นๆเข้ามาดับไฟในใจ

หลวงพี่ย้ำอีกว่า

จะทำอะไรให้รู้จัก ให้มีความระมัดระวัง ให้ทำด้วยเหตุด้วยผล อย่าประมาท

โดยนิสัยของหนูเป็นคน ประมาท ท่านจึงค่อนข้างเป็นห่วง

ท่านจะย้ำเสมอว่า ถ้าไม่ประมาท ก็จะมีโอกาสทำอะไรได้อีมาก อดทน ทำไป มันมีของเก่ามาอยู่แต่ก็ต้องทำไป เห็นแล้วใช่ไหมว่า กรรมเก่าไล่หลัง ก็สู้เอา