ระเบียบความประพฤติการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ระเบียบความประพฤติการปฏิบัติในชีวิตประจำวันของสำหรับญาติโยมประชาชน ให้พากันประพฤติปฏิบัติดังนี้ เพื่อจะได้ควบคุมความประพฤติของตนเองให้เป็นคนมีปฏิปทาดี
๑.ตื่นนอนตี ๕ ไหว้พระสวดมนต์ เก็บที่นอน ไปห้องน้ำห้องสุขา ทานอาหารเตรียมไปทำงาน... เวลาทำงานก็ให้มีความสุขในการทำงาน เพราะงานคือความสุขที่เราทุกคนได้พากันละความเห็นแก่ตัว ทุกคนต้องมีความสุขในการทำงาน ถึงจะไม่พากันเป็นโรคจิต โรคประสาท สุขภาพจิตถึงจะดี
๒.ทุกคนให้พากันประหยัด อย่าไปใช้เงินฟุ่มเฟือย เราจะใช้เฉพาะจำเป็นจริง ๆ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ เราจะไม่ใช้เงินใช้สตางค์ ทุกคนต้องประหยัด มีความสุขในการเป็นคนประหยัด ไม่ให้ทำตามความฟุ้งซ่าน ต้องพากันประหยัดนะ
๓.เรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือ... เรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือนั้นมันมีทั้งคุณ มีทั้งโทษ เรามีโทรศัพท์ไว้สำหรับทำคุณและทำประโยชน์ ทุกคนต้องใจเข้มแข็ง อย่าพากันไปหลงในกามที่มันมีอยู่ในโทรศัพท์ ให้รับโทรศัพท์หรือส่งข้อความจากโทรศัพท์ในการทำธุรกิจหน้าที่การงานเท่านั้น
โทรศัพท์ที่ใช้นั้น ถ้าเลยเวลา ๔ ทุ่มไป ทุกคนต้องหยุดการใช้โทรศัพท์ “โน่นน่ะ...ให้ไปใช้ตอน ๖ โมงเช้าโน่น...” มันต้องมีระเบียบมีวินัยในการใช้โทรศัพท์ ในเรื่องโทรศัพท์ให้ทุกคนพากันปฏิบัติให้เคร่งครัด การมีโทรศัพท์มันถึงจะได้มีแต่คุณมีแต่ประโยชน์
๔.บ้านที่อยู่อาศัยนั้นต้องดูแลทำความสะอาดทั้งในห้องและนอกห้องและรอบอาคาร ห้องครัวต้องสะอาด ทุกคนต้องช่วยกันทำ ไม่ใช่ให้คนใดคนหนึ่งเป็นคนทำ ไม่ให้วัสดุสิ่งของเสียหาย ต้องช่วยกันรักษา เสื้อผ้าก็พากันรักษาความสะอาด อย่าไปทิ้งให้สกปรกหลายวันไม่ได้ซัก มันแสดงถึงการเป็นคนขี้เกียจขี้คร้าน อยู่กับความสกปรกเป็นปฏิปทา ต้องฝึกเป็นคนสะอาดไว้
๕.ก่อนนอนตอนค่ำให้พากันไหว้พระสวดมนต์นั่งสมาธิทุก ๆ วัน ถ้าเราไม่ไหว้พระสวดมนต์นั่งสมาธิ ชีวิตของเราก็เท่ากับสัตว์เดรัจฉาน
๖.ไม่พากันออกไปเที่ยวไปเล่นข้างนอก ให้อยู่บ้านอยู่ที่ทำงาน เพราะทุกวันนี้ Covid กำลังระบาด เราต้องพากันอยู่บ้าน ทำงานบ้านให้มีความสุข รักษาศีล ๕ ให้เคร่งครัด
๗.พวกรถยนต์ เครื่องยนต์ ต้องดูน้ำ ดูน้ำมันทุกวันนะ ไม่ใช่ใช้เค้าอย่างเดียว ขับรถก็ต้องระมัดระวัง ทะนุถนอม เดี๋ยวมันจะพังเสียหาย
ให้ทุกคนพากันประพฤติปฏิบัติอย่างนี้ เพื่อจะได้พัฒนาตนเองเป็นคนมีระเบียบมีวินัย ตั้งมั่นแต่ในคุณธรรมความดี
โอวาทขององค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
เมตตาให้ไว้ ณ วันที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น