ผมได้โอกาสเรียนรู้จากการทำหน้าที่กรรมการสรรหาคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์แห่งหนึ่ง ที่เมื่อเริ่มการประชุมผมก็ถามว่า การศึกษาวิชาชีพพยาบาลในปัจจุบันและอนาคต จะมีพัฒนาการแตกต่างไปจากอดีตที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง คณะกรรมการที่มีคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ และท่านผู้รู้ ให้คำตอบที่ประเทืองปัญญามาก
จากมุมของนักศึกษาและบัณฑิต ได้ทราบว่า นักศึกษาพยาบาลจำนวนหนึ่งเรียนเพื่อไปประกอบอาชีพอื่น เช่น ขายของออนไลน์ ไปทำธุรกิจ หรือไปทำงานด้านการตลาดของธุรกิจด้านสุขภาพ เขาจึงต้องการเรียนวิชาด้านการเป็นผู้ประกอบการ และ soft skills อื่นๆ ด้วย
คนยุคใหม่ ไม่คิดทำงานประจำ ทำงานไปมองหาโอกาสไป การเปลี่ยนงานเป็นเรื่องปกติ การเตรียมสมรรถนะด้านการประกอบการให้แก่บัณฑิตจึงมีความสำคัญมาก และผมขอเพิ่มเติมว่า การฝึกทักษะเรียนรู้จากประสบการณ์จะช่วยได้มาก นี่คือการฝึก Kolb’s Experiential Learning Cycle
กรรมการท่านหนึ่ง เป็นอดีตผู้บริหารมหาวิทยาลัย และเป็นวิศวกร ค้นคว้าเรื่องที่ผมถามมาเป็นอย่างดี อ้างมหาวิทยาลัยชิคาโก ว่าจัดการศึกษา APRN – Advanced Practice Registered Nurse คล้าย residency training ของแพทย์ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยในลักษณะ case manager ซึ่งตรงกับความเห็นของกรรมการท่านหนึ่งที่เป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์
การฝึกอบรม APRN เริ่มจากพยาบาลที่จบปริญญาโท มาฝึกต่ออีก ๓ ปี เพื่อเป็นพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ร่วมกับสภาการพยาบาล ได้เริ่มการฝึกอบรมนี้แล้ว ผมลองเข้าเว็บไซต์ โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี พบว่ามีหลักสูตรฝึกอบรมขั้นสูงระดับวุฒิบัตร ๓ สาขาคือ สาขาการพยาบาลเด็ก สาขาเวชปฏิบัติชุมชน และสาขาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ (๑)
ในอีกขั้วหนึ่ง มีการฝึกอบรมระยะสั้นแก่ผู้ได้รับปริญญาพยาบาลแล้ว กับการฝึกอบรมเข้าสู่การเป็นบุคลากรระดับผู้ช่วย เพื่อให้ได้ผู้ให้บริการอย่างรวดเร็ว สู่อาชีพได้เร็ว และพัฒนาสู่อาชีพระยะยาวได้ในแต่ละบริบท ที่ผมค้นไม่พบว่า คณะพยาบาลฯ ในประเทศไทยมีการจัดการฝึกอบรมหรือไม่ แต่ได้รับข้อมูลจากอาจารย์พยาบาลท่านหนึ่ง ในวิทยาลัยพยาบาลแห่งหนึ่ง ในสังกัด สบช. ว่าวิทยาลัยพยาบาลที่ท่านสังกัดอยู่มีการฝึกอบรมผู้บริบาลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ หลักสูตร ๖ เดือน หลังจบ ม. ๖
นำสู่การสะท้อนคิดว่า ในอนาคตวิชาชีพพยาบาลจะมีพัฒนาการไปอย่างไร ลองค้นดูก็พบ (๒) ที่เขียนเมื่อ ๑๐ ปีมาแล้ว ระบุเรื่อง APN และอื่นๆ และพบบทความในมติชน โดยเฉลิมพล พลมุข (๓) เมื่อ ๖ ปีที้แล้ว เรื่อง อนาคตพยาบาลไทย
ค้นพบเรื่อง APN ในบันทึกเมื่อกว่า ๑๐ ปีที่แล้ว ที่ (๔) ทำให้ผมตระหนักในความล้าหลังของตนเอง ตามไม่ทันพัฒนาการด้านต่างๆ ในบ้านเมือง และพบข้อเขียนของ รศ. ดร. เรณู พุกบุญมี ผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี เมื่อปี ๒๕๖๑ (๕) ที่น่าอ่านมาก
ทั้งหมดนั้น สะท้อนความเป็นพลวัตของวิชาชีพพยาบาล และของความต้องการของสังคมในเรื่องการบริบาลผู้อ่อนแอและเจ็บป่วย และการริเริ่มในโลกและในสังคมไทย เพื่อพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพของผู้คน ที่พยาบาลเป็นวิชาชีพสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะใกล้ชิดผู้คนที่สุด โดยความท้าทายคือ ทำอย่างไรพลวัตที่ใช้วิชาชีพเป็นศูนย์กลาง กับพลวัตของความต้องการในสังคม จะมีจุดพอดีหรือดุลยภาพ
จากมุมของคนรุ่นใหม่ งานด้านบริบาลผู้อ่อนแอหรือเจ็บป่วยจะมีผู้ให้บริการที่หลากหลาย ที่ส่วนใหญ่น่าจะไม่จำเป็นต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับปริญญา แต่ก็ยังต้องการระบบกำกับให้มีคุณภาพเป็นที่เชื่อถือ
นำสู่แนวคิดว่า ประเทศไทยยังต้องการการพัฒนาระบบการรับรองคุณภาพของผู้ให้การบริบาลผู้อ่อนแอหรือเจ็บป่วยในหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่ต้องการบุคลากรระดับปริญญา และระดับที่เพียงผ่านการฝึกอบรมระยะสั้น รวมทั้งระดับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่เรียกว่า APN ที่น่าจะเป็นระบบของเราเอง พัฒนาขึ้นเพื่อสนองความต้องการของสังคมไทย และระบบสุขภาพไทย ไม่ใช่ลอกมาจากต่างประเทศ แบบลอกมาทั้งดุ้น
นี่คือโอกาสการทำงานสร้างสรรค์ให้แก่บ้านเมือง
วิจารณ์ พานิช
๑ ม.ค. ๖๖
ไม่มีความเห็น