ผมหมายถึงชีวิตของการรับราชการครู ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่บริหารจัดการในโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวนเด็กมีไม่ถึง ๑๒๐ คน แต่ก็เกินร้อยมาหลายปีแล้ว
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีก ๓ เดือน ก็จะครบ ๑๗ ปีในบ้านหลังเล็กแห่งนี้ และต่อจากนั้นเป็นช่วงเวลาของการนับถอยหลัง..เพื่อต้อนรับการเกษียณอายุราชการ
ปิดเทอม..จึงเป็นช่วงเวลาของการทบทวนงาน สะสางงานและเก็บงานให้เรียบร้อยทุกอย่าง
เวลาที่มีอยู่อย่างมากมาย จึงไม่คิดจะรีบเร่งหรือหักโหม ทำไปตามสภาพของร่างกายที่พร้อมบ้างไม่พร้อมบ้าง จึงต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า อายุ ๖๐ ปีแล้วนะ อย่าเพลิดเพลินกับงานจนเกินพอดี
เรื่องงานยังไม่ถึงกับต้องวางมือ แต่ก็พอมีเวลาว่างพอที่จะเดินชมธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินชมผลงานอาคารและสถานที่ที่หลอมรวมเป็นแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน
บริบทที่คุ้นเคยและรู้สึกผูกพัน ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งจะรักและศรัทธา เหมือนกับว่าโรงเรียนมีชีวิต มีจิตวิญญาณ ที่พาเราก้าวเดิน ฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคมาด้วยกัน ไม่เคยทอดทิ้งกัน
ความทรงจำตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงวันนี้ ไม่เคยลืมเลือนกับความต้องการจำเป็นในทุกครั้ง ที่ต้องสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มให้แก่โรงเรียนตลอดมา สม่ำเสมอและต่อเนื่อง
เพื่อให้เกิดความพร้อม ที่จะนำไปสู่คุณค่าและคุณภาพ มิใช่เพื่อความสมบูรณ์แบบแต่อย่างใด
หลายคนมองว่า..บุคลากรของโรงเรียนเล็กต้องทำงานหนัก ซึ่งมันก็เป็นความจริง แต่ในความหนักหนาสาหัสนั้นก็มีความสมัครใจเจือปนอยู่ อย่างสมเหตุสมผลและมีความสุขมิใช่น้อย
เมื่อครู นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนได้ประโยชน์ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับโอกาสที่ได้รับ ที่เขาให้มาปฏิบัติหน้าที่และรับผิดชอบในฐานะผู้นำองค์กร ที่ต้องเรียนรู้สู้สิ่งยากมาโดยตลอด
ความยากเย็นแสนเข็ญที่เกิดจากความขาดแคลนในทุกด้าน แต่ความพอเพียงก็ช่วยตอบโจทย์ในทุกเรื่องเหมือนกัน ทำให้ลดปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนางาน ทุกอย่างจึงผ่านมาได้อย่างเหลือเชื่อ
แต่ที่ต้องเชื่อในสายตาตนเอง ในทุกมุมมองของช่วงเวลาปิดทอมภาคฤดูร้อน..วันนี้.. มีความเหมือนที่แตกต่างกับปีที่ผ่านมา และปิดเทอมนี้ไม่เหมือนกับปิดเทอมในครั้งใดๆเลยก็ว่าได้
ยังจำได้ติดตาตรึงใจ ทุกครั้งที่ปิดเทอม ต้องมีเรื่องให้สร้างหรือไม่ก็ต้องซ่อมแซมปรับปรุง ในส่วนที่สึกหรอและผุพัง เพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์และเป็นไปตามแผนปฏิบัติการประจำปี
การบริหารงบประมาณก็เช่นเดียวกัน ต้องใช้เวลาปิดเทอมนี่แหละ ในการสร้างและซ่อมแซมงาน
ที่เคยคิดว่า..อาจจะต้องลงมือสร้างและซ่อมแซมไปจนถึงวันสุดท้ายของการรับราชการ วันนี้..เลิกคิดไปได้เลย ทั้งๆที่ช่วงเวลานี้ มีคน มีเงินและมีเวลาพร้อมที่สุดแล้ว
แต่พอเดินดูอาคารเรียนและอาคารประกอบต่างๆ ก็มีครบจบในทุกสิ่ง และอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ไม่ต้องซ่อมแซมและปรับปรุง ตลอดจนไม่ต้องสร้างงานให้แก่ตนอง
ช่วงเวลาพอเหมาะพอดี ที่จะต้องได้พักกายพักใจบ้าง เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต มอบรางวัลชีวิตให้แก่ครูคนหนึ่ง ให้ได้สัมผัสผลงานที่สวยงาม ในยามที่ร้อนอบอ้าวของทุกวันที่ปิดภาคเรียน
แต่พอนึกถึงการทำงานที่ผ่านมา แทบไม่เคยหยุดหย่อน ก็ไม่เห็นว่าจะต้องแปลกใจอะไร ที่สุดแล้วก็ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา เหมือนอดเปรี้ยวไว้กินหวานนั่นเอง
ในช่วงวันเวลาที่เหลืออยู่..เห็นสมควรว่าจะต้อง “ซ้อมเกษียณ”ไปเรื่อยๆ น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๑ เมษายน ๒๕๖๖
ไม่มีความเห็น