๑,๓๖๔ รำพึงรำพัน


คิดไว้ในใจถ้าเป็นได้อย่างเขา จะไม่ทำตัวแบบนี้ จะไม่ดีแต่สั่งและไม่เอาเปรียบใคร ตลอดจนสิ่งใดที่ไม่ดีอย่าไปทำกับคนอื่น นี่คือจุดยืนขั้นพื้นฐาน ที่ทำได้มาตลอด

ช่วงเวลาของการนับถอยหลังมันเป็นเช่นนี้นี่เอง ก็ไม่เชิงตื่นเต้นมากมายนัก แต่ต้องสะสางงานและหาโอกาสทบทวนความรู้สึกดีๆที่ผ่านมา..ในโรงเรียนขนาดเล็ก

การเดินทางที่มาถึงโค้งสุดท้าย เหมือนได้พิสูจน์ตัวเองเป็นที่เรียบร้อย กับการพัฒนาโรงเรียนหลังนี้ในช่วงเวลาเกือบ ๑๗ ปี แล้วได้รับการตรวจเยี่ยมจากท่านผอ.เขตฯคนปัจจุบัน

อาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์งานนโยบายของต้นสังกัด เพียงแค่ผู้บังคับบัญชาออกปากชื่นชมว่า “โรงเรียนสวยงามและสะอาดมาก” ก็เพียงพอแล้ว

ทุกอย่างจึงเหมือนจะจบลงเพื่อคงสภาพไว้ แต่ที่ต้องไปต่อในช่วงเวลาที่เหลือ คือการมีส่วนร่วมพัฒนาการอ่านการเขียน ชั้น ป.๑ - ๓ วันนี้จึงเริ่มต้นปรับพื้นฐานและทบทวนเป็นวันแรก

ขณะที่สอนหนังสือ ก็นึกอิจฉาครู ที่กำลังเข้าสู่ยุครัฐบาลใหม่ ที่เขาบอกว่าการศึกษาไทยจะไม่เหมือนเดิม หากทำได้ตามนโยบาย “ครูไทย” คงจะมีความสุขกับงานสอนมากขึ้น

จริงๆแล้ว งานของครูเป็นงานที่ท้าทายและไม่น่าจะเครียด คงเป็นเพราะงานพิเศษที่เป็นงานเอกสารและรายงานจิปาถะ จึงทำให้ครูรู้สึกเบื่อหน่ายและท้อถอยกันไปหมด

ย้อนไปเกือบ ๓๐ ปีที่ผมเป็นครู ภาระงานครูเมื่อเทียบกันกับตอนนี้ ต่างกันราวฟ้ากับเหว เหมือนเทคโนโลยี่ที่ก้าวหน้า ช่วยให้นักวิชาการที่นั่งในห้องแอร์คิดงานให้ครูจนบานเบอะ

บางเรื่องเลอะเทอะ ซ้ำซ้อนและซ้ำซาก และที่สำคัญมักไม่เกิดประโยชน์กับนักเรียน

นึกย้อนกลับไปวันนั้น ที่เปลี่ยนสายงานจากครูเป็นผู้บริหารโรงเรียน ไม่ได้เกิดจากความเบื่อหน่ายในวิชาชีพครูแต่อย่างใด แต่รู้สึกหมั่นไส้ผู้บริหารบางคนที่ชอบกร่างและมักจะไม่อยู่โรงเรียน

คิดไว้ในใจถ้าเป็นได้อย่างเขา จะไม่ทำตัวแบบนี้ จะไม่ดีแต่สั่งและไม่เอาเปรียบใคร ตลอดจนสิ่งใดที่ไม่ดีอย่าไปทำกับคนอื่น นี่คือจุดยืนขั้นพื้นฐาน ที่ทำได้มาตลอด

ทำได้ดีด้วย เพราะบริบทมันเอื้อและบังคับให้ต้องทำได้อย่างเต็มที่

ผมผ่านผู้บังคับบัญชามาก็มิใช่น้อย บางคนก็ดีจนเป็นไอดอล บางคนก็ไม่ยอมรับในตัวผมตั้งแต่เริ่มแรก ทั้งที่ผมสอบผู้บริหารได้ที่ ๑ เป็นศึกษานิเทศก์มาก่อน เป็นคณะทำงานของสปช.(เดิม)

แต่ใช่ว่าผมจะสนใจ ใช้เวลาทำคุณภาพการเรียนการสอน และอยู่โรงเรียนตลอด ไม่เคยไปไหนยกเว้นวันประชุมเท่านั้น ในเวลาต่อมาเจ้านายจึงยอมรับว่านี่ล่ะ..ของจริง

เจ้านายเก่าๆ จะไม่ชอบการทำงานสไตล์ผม คือผมไม่ชอบใช้คำสั่ง แบบเอะอะก็มอบหมายงานให้ครูไปสิ มาทำเองทำไม?(ตอนนั้นมีครู ๔ คน) ทำตัวแบบผมจึงไม่ค่อยมีเวลาว่างและไม่ค่อยมีเพื่อนเหมือนคนอื่นเขา

จึงเข้าตำราในสมัยนั้น ที่ผู้บริหารชอบเอาขี้ปากฝรั่งมาพูด “นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน บินสูงไม่ได้” แต่มาใช้กับผมไม่เคยได้เลย เพราะผมตัวเล็ก บินตามกำลัง ไม่สูงก็ไม่เป็นไรนี่นา

ยิ่งในยุคปัจจุบันด้วยแล้ว คำพูดแบบนี้ใช้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะพวกมากลากไป อาจพาให้ล่มจม เพราะประเภทรู้หน้าไม่รู้ใจมันมีมากเหลือเกิน ใช้ชีวิตแบบพอดีและพอเพียงดีที่สุด

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๙  พฤษภาคม  ๒๕๖๖               

หมายเลขบันทึก: 712829เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2023 20:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤษภาคม 2023 20:25 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท