๑,๓๗๔ นกน้อยทำรังแต่พอตัว...


หากว่าลูกนกยังอยู่ แล้วแม่นกมาร้องขอมาอ้อนวอนให้ผมปล่อยลูก ผมก็จะบอกว่า หัดทำรังให้ใหญ่กว่านี้หน่อย อย่าทำรังแต่พอตัว ต้องทำให้พอเพียงเข้าใจไหม?

          ปรากฎการณ์แปลกใหม่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเช้า ในห้องผอ.ซึ่งอยู่ติดกับห้องเรียน ขนาบซ้ายและขวาด้วยชั้นป.๒ และป.๓ ในวันเปิดเรียนตามปกติเช่นนี้ ก็จะมีเสียงของนักเรียนดังเจื้อยแจ้ว

          แต่วันนี้เสียงเด็กๆถูกกลบด้วยเสียงของนกกระจอกตัวเล็กๆ เป็นจำนวนมาก ร้องกันระเบ็งเซ็งแซ่จนแสบแก้วหู บินเข้าบินออกกันขวักไขว่ จนผมรู้สึกผิดสังเกต

          พอแหงนขึ้นไปบนช่องลม ที่อยู่เหนือหน้าต่าง จึงมีโอกาสได้สบตากับนกกระจอกเข้าอย่างจัง กำลังก้มลงมามองหน้าผอ.อยู่พอดี ผมเริ่มสงสัยเจ้านกพวกนี้กำลังตามหาอะไรกันนะ

          แล้วคำตอบที่ได้ก็อยู่ใต้โต๊ะทำงานของผมเอง เป็นลูกนกกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ พยายามจะบินแต่ทำไม่สำเร็จ เนื่องจากไม่แข็งแรงพอ แล้วเจ้าลูกนกมาอยู่ใต้โต๊ะผมได้อย่างไร?

          ผอ.ก็เลยต้องเป็นนักสำรวจขึ้นมาทันที เริ่มที่เหล็กดัดของหน้าต่าง พบเศษหญ้าแห้งเพียงเล็กน้อย ตรงนาฬิกาที่แขวนติดกับเสา ไม่ห่างจากช่องลมมากนัก พบว่ามีซอกเล็กๆของวงกบหน้าต่าง

          ตรงนี้นี่เองที่เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ลูกนกต้องออกจากครอบครัวก่อนวัยอันควร

          กล่าวคือ..ฤดูฝน..เศษหญ้าแห้งจะน้อย แม่นกท้องแก่ใกล้คลอด ก็เลยทำรังไปตามอัตภาพ เลือกสถานที่ที่มีความปลอดภัยเป็นหลัก นั่นก็คือบนวงกบหน้าต่างที่ติดกับช่องลมนั่นเอง

          คราวนี้ลองนึกภาพดู พอลูกนกเติบโตขึ้น แต่ยังหากินเองไม่ได้ แม่นกผู้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ต้องหาอาหารมาให้จนครบ ๓ มื้อ เวลาอิ่มหนำสำราญกันดี ลูกนกก็คงกอดออเซาะแม่อย่างมีความสุข

          แล้วซอกหลืบอันเป็นที่ทำรังเล็กๆ จะไปเหลืออะไร คงไม่ทานทนพอที่จะรับน้ำหนักสองแม่ลูก เหลืออาจจะมีพ่อนกอยู่ด้วย ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจนัก

          แต่ที่แน่ๆ ผมไม่ยอมปล่อยให้ลูกนกหลุดมือไปได้ ถ้าออกไปตอนนี้ชะตาขาดแน่นอน ผมจึงรีบจัดที่พักพิงชั่วคราวแต่อบอุ่นยิ่งนัก มีอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนอาหารว่างพร้อม

          ผมปล่อยให้แม่นกไปตามเพื่อนบ้านในแถบนั้น มาร้องกดดันผม แต่ผมก็ทนได้ ไม่สนใจอยู่แล้วเวลาสอนหนังสือผมก็พาลูกนกไปเรียนด้วย สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่เด็กๆได้มิใช่น้อย

          วันนี้ผมจึงใช้ลูกนกเป็นเครื่องมือ ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนเรื่อง “ความเมตตา” เชื่อว่าเด็กป.๓ คงจะเข้าใจ แต่ก็มีเด็กบางคนสงสัยและถามว่า..”ทำไมผอ.ไม่ปล่อยให้มันบินไปเองล่ะครับ”

          “ลูกนกยังบินไม่ได้หรอก ครูคิดว่าต้องรออีกวันสองวัน ตอนนี้มีแม่นกอยู่ใกล้ๆคอยส่งเสียงเรียกและให้กำลังใจ เดี๋ยวลูกนกก็จะมีความพยายามบินออกไปหาแม่ด้วยตนเอง เธอคอยดูก็แล้วกัน”

          เย็นมากแล้ว ผมปิดประตูห้องทำงาน ปล่อยให้ลูกนกอยู่ตามลำพัง แต่คิดว่าไม่น่าใช่ น่าจะมีแม่และญาติพี่น้องมาเยี่ยมเยียนทั้งคืน เชื่อดิ

          พรุ่งนี้..หากว่าลูกนกยังอยู่ แล้วแม่นกมาร้องขอมาอ้อนวอนให้ผมปล่อยลูก ผมก็จะบอกว่า หัดทำรังให้ใหญ่กว่านี้หน่อย อย่าทำรังแต่พอตัว ต้องทำให้พอเพียงเข้าใจไหม?

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๒  มิถุนายน  ๒๕๖๖

          

          

          

หมายเลขบันทึก: 713154เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2023 20:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2023 20:59 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เอาใจช่วยลูกนกครับ…วิโรจน์ ครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท