เธอทำให้ครูรู้สึกมีความสุขในการฟังเธออ่านออกเสียง เสียงเล็กแหลมและฟังดูใสซื่อ จากที่ครูเคยฟังเสียงเธอที่เบาหวิวแบบเด็กที่ไม่มีเรี่ยวแรง ..ทำไมวันนี้มันไม่หลงเหลืออยู่เลยล่ะ
ภาพจำที่ครูยังฝังใจ ในปีที่แล้ว ที่พ่อกับแม่เธอแยกทางกัน พ่อเธอหอบลูก ๒ คนมาเข้าเรียน ป.๑ กับ ป.๒ เธอชื่อตูน พี่เธอชื่อสแตมป์ ครูจำได้เป็นอย่างดี
เพราะเธอมาเรียนป.๑ วันแรก ครูต้องขับรถพาเธอไปส่งโรงพยาบาล เพราะเธอหายใจไม่ออก หมดแรง นั่งคอพับคออ่อน เธอนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง ครูต้องเรียกชื่อเธอ ตูน ตูน ไปตลอดทาง
เวลาครูสอนเด็กปานกลางให้เก่ง เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ ครูไม่เคยเลือกเธอเลยสักครั้งเดียว เพราะเธออ่อนแอทั้งร่างกายและการอ่าน ต้องฝากครูประจำชั้นให้ดูแลและซ่อมเสริมอย่างใกล้ชิด
ภาคเรียนนี้ ครูยังไม่ได้สอนป.๒ เพราะต้องทำหน้าที่ประจำการชั้นป.๓ ต้องอยู่กับพี่ของเธอที่ชื่อแสคมป์ ที่อ่านไม่คล่องเอาเสียเลย สาเหตุเกิดจาก ตอนเรียนอนุบาลพวกเธอไม่ชอบไปโรงเรียน
๒ สัปดาห์ที่ผ่านมา ครูต้องประเมินการอ่านนักเรียนชั้น ป.๑ - ๒ เพื่อดูพื้นฐานว่าจะก้าวไปได้ไกลแค่ไหน? อย่างน้อยครูจะได้อุ่นใจ..เบาใจ...เมื่อเกษียณอายุราชการ และจากโรงเรียนนี้ไป
ครูประจำชั้นส่งเธอมาในกลุ่มที่อ่านคล่องเขียนคล่อง ครูมองหน้าเธอ นี่มันตูนนี่หว่า เธอดูหน้าตาสดใส เดินคล่องแคล่ว พูดจาฉะฉาน เสียงดังมากขึ้น
ครูลองให้อ่านทีละคน ทั้งอ่านแบบสะกดตัวผสมคำ อ่านเป็นคำและอ่านเรื่องราว เธออ่านได้ จนได้รับคำชื่นชมจากเพื่อนๆ พอให้ลงมือเขียน ลายมือก็สวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย
บ่ายวันนี้ ที่ครูเห็นพัฒนาการของเธออย่างชัดเจนที่สุด เธอเปลี่ยนไปมาก จนครูยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน ต้องถามครูประจำชั้นว่าเธอชื่ออะไร เรียกชื่อตูนมานานแล้ว เพิ่งรู้ว่าเธอชื่อ ลลิดา
ถ้าครูเป็นผู้หญิง จะขอเป็นตัวแทนแม่ของเธอวันละครั้งและจะขอกอดเธอทุกวัน ให้เธอรู้สึกอบอุ่นทั้งกายและใจ เป็นรางวัลแห่งความตั้งใจเรียนและรางวัลที่เธอรักการอ่าน
ก่อนกลับบ้าน...ครูประจำชั้นให้เธอวาดรูป เพื่อทำหนังสือเล่มเล็กส่งประกวดที่เขตฯ ครูจึงแน่ใจว่า ตูนคนนี้ เธอไม่ธรรมดาจริงๆ
ขอบคุณครูประจำชั้นป.๒ ที่ช่วยเจียระไน ให้เด็กอ่านไม่คล่องเขียนไม่คล่อง กลายเป็นเพชรเม็ดงามของห้องไปแล้ว ขอบคุณเด็กหญิงลลิดา ที่ทำให้ครูบางคนตาสว่าง เลิกคิดว่า ปัญหาครอบครัวย่อมไม่มีแรงผลักดันให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้...เพราะถึงอย่างไร?...ก็ยังมีครู...ที่ไม่เคยทอดทิ้งเธอ
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๔ กันยายน ๒๕๖๖
ไม่มีความเห็น