๑,๓๘๘ หนังสือเล่มเล็ก..สื่ออันทรงคุณค่า


  พอกลับเข้ารับราชการครู หูก็ยังแว่วในคำสอนของครูบาอาจารย์ ที่ท่านบอกว่า จงพัฒนาให้เด็กอ่านออก เมื่อเด็กอ่านได้แล้ว ย่อมจะเขียนได้ ใช้หนังสือเล่มเล็กนี่แหละเป็นเครื่องพิสูจน์ในเรื่องนี้

          กว่า ๕๐ ปี ที่ผมคิดว่าเรื่องนี้มีตำราให้พูดถึงและศึกษาเล่าเรียนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ต่อมาแพร่หลายและใช้เป็นสื่อหรือเครื่องมือประกอบการสอนในสาระวิชาต่างๆ

          ผมใช้เวลาเป็นเทอมกว่าจะเรียนจบหลักสูตรการจัดทำ “หนังสือเล่มเล็ก” ที่ มศว.ประสานมิตร ในท้ายที่สุดก็เลยใช้เป็นเครื่องมือในการทำวิทยานิพนธ์ จึงมีโอกาสได้เรียนมาจนจบ ป.โท 

          พอกลับเข้ารับราชการครู หูก็ยังแว่วในคำสอนของครูบาอาจารย์ ที่ท่านบอกว่า จงพัฒนาให้เด็กอ่านออก เมื่อเด็กอ่านได้แล้ว ย่อมจะเขียนได้ ขอให้ใช้หนังสือเล่มเล็กนี่แหละเป็นเครื่องพิสูจน์ในเรื่องนี้

          ผมก็เลยตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาสื่อเล่มเล็กนี้ โดยใช้กลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต(สปช.)เป็นแก่นแกน บูรณาการกับกลุ่มทักษะภาษาไทยเข้าไปด้วย ช่วยพัฒนาเด็กแบบทูอินวันกันเลยทีเดียว

          หนังสือเล่มเล็ก..จึงเป็นทั้งสื่อช่วยสอน เป็นได้ทั้งหนังสืออ่านเพิ่มเติม ส่งเสริมให้เด็กรักการอ่าน ที่สำคัญ..ท้ายหนังสือเล่มเล็กจะมีกิจกรรมการเรียนรู้ สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน

          ผมทิ้งเรื่องนี้มานาน พอมาเป็นผู้บริหารและสอนวิชาภาษาไทย ผมจะใช้หนังสือเล่มเล็กแบบสำเร็จรูป จัดซื้อมาไว้ให้เด็กอ่านตอนกลางวัน ก็ถือว่าได้ช่วยซ่อมเสริมการอ่านของเด็กได้พอสมควร

          จนถึงวันนี้ที่ใกล้จะเกษียณ ครูฝ่ายวิชาการมาบอกว่า จะส่งเด็ก ๒ ทีมเข้าประกวด”หนังสือเล่มเล็ก” ที่เขตพื้นที่การศึกษาฯจัดขึ้น ตามนโยบายของ สพฐ.ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรต้านทุจริต

          คือหนึ่งในรายวิชาเพิ่มเติมที่อยู่ในหลักสูตรของโรงเรียน เรื่องนี้ค่อนข้างจะเป็นนามธรรม การนำหนังสือเล่มเล็กเป็นเครื่องมือถ่ายทอดเรื่องราว เพื่อสื่อสารเชื่อมโยงให้เด็กเข้าใจ น่าจะได้ผล

          ผมจึงแนะนำให้ครู ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทีมป.๓ และทีมป.๖ โดยเสนอว่า ป.๓..จะต้องแก้ปัญหาการหยิบฉวยของเพื่อนๆมาเป็นของตน ส่วนป.๖ ควรพูดถึงการซื้อสิทธิขายเสียงจะดีกว่า

          จึงเป็นที่มาของหนังสือเล่มเล็กที่ชื่อ “จอมขวัญขยันหยิบ” และ “ปังปอนผู้ใสซื่อ” โดยเรื่องและภาพ ตลอดจนลายมือเป็นฝีมือเด็กล้วนๆ ใช้เวลา ๑ สัปดาห์จึงแล้วเสร็จ

          ผมไม่ได้แนะนำอะไรมาก นอกจากบอกครูว่า..เด็กทั้งสองทีม ต้องเขียนให้ตรงตามความคิดรวบยอด และเรื่องกับภาพต้องเหมาะสมกลมกลืน ตลอดจนมีความสมดุลกันในการจัดหน้าในแต่ละหน้า

          ก่อนนำส่งผลงานทั้งสองเล่มให้เขตพิจารณาฯ ผมขออ่านเป็นคนสุดท้าย พบว่าเด็กวาดภาพดี ให้สีสดใส เรื่องราวก็ถ่ายทอดให้เข้าใจง่ายๆ ไม่มีความซับซ้อน สอดคล้องเหมาะสมกับช่วงวัยและความสนใจของผู้เรียน

          วันนี้...เขตประกาศผล...”จอมขวัญขยันหยิบ” คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้ส่งต่อไปสพฐ. ส่วน”ปังปอนผู้ใสซื่อ ได้รางวัลดีเยี่ยม อันดับ ๓ ก็นับว่างานนี้โรงเรียนประสบความสำเร็จอย่างมากมาย

          จึงถือได้ว่า “หนังสือเล่มเล็ก..สื่ออันทรงคุณค่า” ในชีวิตครูของผม ได้จบลงแล้วอย่างสวยงาม

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๙  กันยายน  ๒๕๖๖

         

หมายเลขบันทึก: 714513เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2023 21:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กันยายน 2023 10:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท