สอนอ่านเขียนแบบง่ายๆ ได้ใจผู้ปกครอง
ผมเขียนเรื่องนี้หลายครั้งและพูดมาหลายเวที จนทำให้เรื่องนี้ของผมตกผลึก ส่งผลให้เด็กของผมทั้ง ป.๒ - ป.๓ กำลังจะไปได้สวยงาม แบบว่าท้าพิสูจน์ได้ในทุกเวลา
อาจเป็นพราะผมจบเอกภาษาไทย หรือไม่ก็มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับเนื้อหาและกิจกรรม ทำซ้ำๆจนเกิดความชำนาญ จึงเข้าใจบริบทของผู้เรียน และเปลี่ยนแปลงวิธีการสอนอยู่ตลอดเวลา
บทเรียน..จากการสอนเมื่อครั้งเป็นผู้บริหารฯ ผูกเป็นเรื่องราวได้นับครั้งไม่ถ้วน เคยช่วยสอน ป.๑ เพื่อเตรียมรับการประเมินผล(RT) เน้นการอ่านแต่ไม่มีเวลาพัฒนาการเขียนเท่าที่ควร
ผลออกมาพบว่าเด็กอ่านได้และอ่านคล่อง ตลอดจนเขียนได้แต่เขียนช้า..ทำให้คะแนนที่ออกมาไม่สู้ดี จึงคิดเข้าข้างตัวเองว่า การประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น..ความรู้ความเข้าใจสำคัญที่สุด
ครูจึงไม่ควรพุ่งเป้าไปที่การสอบอย่างเดียว แต่ต้องคำนึง”ทักษะ”ที่ต้องพัฒนา อันจะเป็นเครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ของเด็กทั้งปัจจุบันและอนาคต
ผมเชื่อมั่นมาตลอดว่า ถ้าเด็กอ่านออกย่อมจะเขียนได้ แต่การเขียน..เป็นทักษะที่สอนยาก ครูต้องพยายามเรียนรู้ เพราะการเขียนคือการสื่อสาร ที่สามารถวัดคุณภาพผู้เรียนได้เป็นอย่างดี
ทุกวันนี้..ผมเน้นการอ่านรู้เรื่องให้เด็กป.๓ โดยใช้วรรณกรรม..อ่านเรื่องไหนก็ถามเรื่องนั้น บูรณาการไปถึงมาตราตัวสะกด คำคล้องจอง คำควบกล้ำ และ เครื่องหมายวรรคตอน
ส่วนการเขียน...มีหลากหลายวิธี ที่ชอบมากก็คือการเรียนรู้นอกสถานที่ แล้วนำมาเขียนเรื่อง เด็กจะชอบมากเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น ไปค่ายลูกเสือก็เขียนมา ไปทัศนศึกษาก็มาเล่า(เขียน)ให้ครูได้รู้บ้าง
วันนี้ให้ ป.๓ พูดออกมาคนละ ๒ คำไม่ซ้ำกัน เกี่ยวกับบรรยากาศของการไปทัศนศึกษา ผมเขียนคำบนกระดาน เด็กทุกคนจึงได้สัมผัสคำใหม่ๆอย่างมากมาย
ผมตั้งโจทย์ให้นักเรียน..จงเขียนเรื่องเล่าจากประสบการณ์ การเดินทางไปทัศนศึกษา อย่างน้อย ๗ บรรทัด
นักเรียนร้อยละ ๘๐ เขียนได้ดีมาก ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ ลายมือสวย เนื่องจากเขาอ่านคล่องและรักที่จะเขียน ตลอดจนครูให้อ่านคำที่เขากำหนดขึ้นมาเอง จึงเป็นตัวช่วยให้ง่ายต่อการเขียนเรื่อง
ผมคิดว่า นี่คือพื้นฐานสำคัญในการสอนเขียนเรื่องจากภาพ และต่อไปไม่มีภาพ เขาย่อมจะเขียนได้
เขียนเสร็จก็ให้อ่าน เพื่อเสริมแรง และสร้างแรงบันดาลใจให้เขารัก..ที่จะเรียนรู้ภาษาไทย
ณ วันนี้ ผมมองข้าม NT มีความสุขในการสอน บอกน้องๆที่เป็นผอ.รร.ว่า ถ้าเบื่อทำจดหมายข่าว เพราะผปค.ไม่ค่อยสนใจ ลองส่งเสียงและผลงานลูกหลานของเขา ไปในกลุ่มไลน์ชั้นเรียนบ้าง..ก็น่าจะดีกว่ากันเยอะ
เบนเข็มจากงานประชาสัมพันธ์ด้วยภาพนิ่ง มาเป็นภาพและเสียงที่สดใส หันมาเอาใจลูกค้า (ผปค.)อย่างจริงจัง บางทีอาจจะทำให้เด็กเพิ่มมากขึ้นก็ได้
ผมเคยทำสำเร็จมาแล้ว ทั้งที่ไม่ใช่คนเก่ง แต่จริงจังด้านการสอน และปรับปรุงวิธีการสอนตลอดเวลา ให้มีความเร้าใจ เด็กชอบหรือไม่? เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ตอนนี้อ่านและเขียนดีขึ้นมาก ผมก็พอใจแล้ว
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ขอบคุณที่มีสิ่งดีดีให้ครับ