อานนเป็นนักเรียนตัวอย่าง 


 

อ่านบทวิจารณ์ได้ที่ https://thestandard.co/arnold-is-a-model-student/   และมีคนส่งข้อความมาให้ทางไลน์  ดังต่อไปนี้

“หาก #สาธุ มีมาเพื่อแฉ #วงการวัด  #อานนนักเรียนตัวอย่าง ทาง #Netflix ก็มาเพื่อแฉ #วงการการศึกษา แบบเถียงไม่ออก
. หากคุณอยากรู้ว่าการศึกษาไทย  ล้าหลัง เหลื่อมล้ำ  เป็นแหล่งของอำนาจนิยมและการทุจริตแค่ไหน หนังเรื่ิองนี้ให้คำตอบคุณได้
. ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งตื่นตัวกันเต็มที่ว่า “การศึกษาไทยมีเรื่องต้องปรับปรุงอีกมาก”   คนอีกกลุ่มก็ยังมองว่า “ทุกอย่างดีแล้ว ไม่ต้องแก้ไข”   ซ้ำยังล่าแม่มดคนที่วิจารณ์ว่า “ชังชาติ เนรคุณ”   ทั้งที่การศึกษาหากมันเวิร์คจริง ประเทศชาติเราคงไม่ “กำลังพัฒนา” มาเกือบ 100 ปี
. ภาพยนตร์เรื่อง #อานนเป็นนักเรียนตัวอย่าง จะพาคุณไปเห็นด้านมืดของการศึกษาไทยแบบเรียล ๆ ไม่ปั้นแต่ง เห็นกันคาหนังคาเขาอยู่ทุกวัน - แต่บางคน “หมดหนทางจะเยียวยา” เลยทน ๆ ไป หรือบางคน “ได้ประโยชน์จากระบบนี้” เลยไม่ได้อยากพัฒนา ด้วยอาจเกรงว่า “หากคนฉลาดขึ้น อะไรจะยากขึ้น”
. ผลกรรมเลยมาตกกับเด็กนักเรียนที่ถูกยัดเยียดให้ต้องทนอย่างช่วยไม่ได้   แถมนำหนำคนที่เสียประโยชน์ กลับกลายเป็นคนที่อำนวยประโยชน์ให้วงการนี้โดยไม่รู้ตัว
. หนังเรื่องนี้แฉปัญหาการศึกษาไทยแบบ #ซีนต่อซีน    หากเป็นนักมวยคงต้องเรียนว่า ชกรัวเข้าเป้าทุกหมัด ไม่ปล่อยให้ตั้งหลักกันเลย
 เช่น

- การบังคับเข้าแถวหน้าเสาธง

- การติดสินบน ทั้งที่ใส่หน้ากากอนามัยรักชาติ แถมยังทำต่อหน้าธงชาติ หิ้งพระ และรูปประมุขของประเทศ

- ถ้าเป็นคนโปรด ผอ = รอดหมด

- การคุกเข่าท่องสูตรคูณ ทั้งที่เก้าอี้ก็มี

- ครูที่สมมติตนเป็นพระ ประดับห้องด้วยย่ามและต้นกฐิน
แต่เรี่ยไรเก็บเงินทำบุญ ซึ่งไม่รู้ว่าเงินไปจบที่ไหน

- การหมกมุ่นในของขลัง เสี่ยงโชคของเหล่าครู

- นักเรียนกินข้าวโต๊ะครูได้ ถ้าเป็นลูกหลาน

- การยึดติดการใช้ชอล์กทั้งที่มีฝุ่นเยอะ

- การให้ทุนเพื่อหวังผลโปรโมตตัวเอง   แม้ผู้รับทุนจะไม่ต้องเรียนจริงก็ได้

- การริดรอนสิทธิบนร่างกาย และการแสดงออกทางความเห็น

- ครูสอนว่ากฎหมายเท่าเทียมทำให้ชอบธรรม  แต่ครูกลับไม่เคยเห็นว่า “สังคมในโรงเรียน” และสังคมระดับชาติ “เหลื่อมล้ำแค่ไหน”  เขาบอกให้สอนแบบนี้ก็สอนไป  ไม่เคยเข้าใจ ไม่กล้าถกถามเพื่อแก้ไข

- พฤติกรรมบ้าอำนาจ ขว้างปาของใส่คน  หรือการลงโทษคนด้วยความรุนแรง แต่อ้างว่า “รัก หวังดี เจตนาดี”  ทั้งที่แค่ “ควบคุมตัวเองไม่อยู่”

- การไม่เปิดรับความเห็นใหม่ ๆ แนวทางใหม่ ๆ

- อาจารย์เหยียดนักเรียนไม่ผิด   แต่นักเรียนตำหนิอาจารย์ไม่ได้

- การกร้อนผมประจานที่ทุเรศที่สุด

- ถ้ามีเส้นสาย มาสาย = อภัยได้

- นักเรียนต้องขอโทษครูถ้าทำผิด  แต่ครูไม่ขอโทษถ้าทำผิด  เพียงเพราะ “ครูเป็นผู้ใหญ่”

- วิชาที่ควรตั้งคำถามว่า “เรียนไปทำไม”  เช่น กระบี่ และอื่น ๆ

- ครูสอนพิเศษนอกเวลา โดยเก็บเงินจากการเอาข้อสอบมาเฉลย   คนรวยมีเงินจ่ายก็ได้ข้อสอบไป   คนไม่ได้เรียนก็ไปสอบแบบปกติ

- ปัญหาการพิมพ์ข้อสอบผิด  แล้วมาประกาศแก้หน้าห้อง  ราวกับไม่เคยมีการตรวจทาน

- ผักชีโรยหน้าเสมอเมื่อมีการประเมิน  แถมยังมีซองมีของขวัญให้ผู้ประเมิน  โรงเรียนดูดีเป็นพิเศษเวลาประเมิน

- สอนการเคารพกันแค่เพราะ “อายุ”  แต่ไม่หัดทำตัวให้คนน่าเคารพ

- ครูหัวก้าวหน้าอยู่ไม่ได้  เพราะครูหัวล้าหลังคอยดักทาง  เอาอายุงานมานั่งข่มนั่งขิง

- สอนการก้มกราบสโลวโหมด และย้ำว่า “เป็นเด็กห้ามเถียง ให้เจียมเนื้อเจียมตัว”

- เป็นครู สอนวิชาการ แต่คลั่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์   ทำผิด แช่งตกนรก อ้างสิ่งศักดิสิทธิ์

- สานต่อระบบที่บิดเบี้ยว เพราะได้ประโยชน์จากมัน

- คิดแแต่รักษาชื่อเสียงโรงเรียนเรียน   แต่ไม่ห่วงนักเรียนที่ถูกทำร้ายหรือฃะเมิด

. ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ แค่ส่วนหนึ่ง   อยากกจะซึมซับแบบเต็ม ๆ ไปหาดูกันนะครับทาง #Netflix
. ส่วนตัวชอบโทนของหนังที่เรียล ดิบ   และแทบไม่มีเพลงประกอบ มันเลยได้เสพความเน่าเฟะของวงการนี้แบบเรียล ๆ   เหมือนอยู่ในโรงเรียนพวกเขาแล้วมองเข้ามา   บทตัวละครก็ไม่ได้อภินิหาร การแสดงดีจนเนียนมาก ๆ
. หากดื่มด่ำกับมันมากพอ จะพบว่าสิ่งที่ตัวละครติวเตอร์พูด (แสดงโดย จอห์น วิญญู) ไม่มีอะไรผิดเลย นั่นคือประโยคที่ว่า #โครงสร้างประเทศมันเอื้อให้ระบบเป็นแบบนี้
. เพราะอะไร?  การศึกษาไทยเน้น “การเชื่อฟัง” ทำนองว่าผู้ใหญ่ว่าไงก็ต้องตามนั้น นี่คือการศึกษาที่อยู่ภายใต้ “อำนาจนิยม”  เด็กหมดสิทธิ์ถก ถาม เถียง หรือเห็นต่าง   และมักมีการใช้กฎเกณฑ์ทาง #ศีลธรรมส่วนตนมาตัดสิน ทาบทับ คือกดขี่คนที่ไม่เชื่อฟังเสมอ
. สิ่งที่เกิดขึ้นก็เด็ก ๆ เรียนตำราที่สืบทอดกันมาเป็นสิบ ๆ ปี ขณะที๋โลกเติบโตไปไหนต่อไหน

ความคลั่งอำนาจที่ถ่ายทอดจากยอดพีระมิดของระบบโครงสร้างที่สร้างความเหลื่อมล้ำ ไล่มาถึงระดับส่วนกลาง นักการเมือง มาถึง ผอ ส่งต่อไปยังครูผู้ใหญ่ ครูผู้น้อย   และมาจบที่เด็ก ทำให้การทุจริตต่าง ๆ แทบไม่ถูกตรวจ เพราะมันทุจริตตั้งแต่
- นโยบายจากผู้ทรงอิทธิพล
- การสมรู้ร่วมคิดของนักการเมือง
- ผู้ปกครองเอาเงินไปเส้นเด็กเข้าเรียน
- ผอ รับเงิน ไปเส้น คนในวงการเพื่อรางวัล
- ครูผู้ใหญ่ก็ได้อำนาจจาก ผอ มากดขี่ครูผู้น้อยและเด็ก
. สังคมที่เจริญแล้ว คงไม่ทำให้โรงเรียนเป็นดั่งกรงแห่งอำนาจนิยมแบบนี้
. ที่สำคัญคนเหล่านี้ สามารถทำความเรื่องไม่สมควรได้ง่าย ๆ แค่เพราะเหตุผลว่า ฉันอายุเยอะ ฉันตำแหน่งสูง ฉันมีผลงาน ฉันรักและศรัทธาในระบบดังนั้นฉันเป็น​ “คนดีย์”

แล้วก็เอาความดีไปแปะทาบทำร้ายคนอื่น เหมือนเล่นวิ่งไล่จับทั้งที่มือเปื้อนขี้
. ไม่แปลกใจที่หลายคนจะถอดใจกับการศึกษาแบบนี้  พอมีใครมาประกาศว่า “มันต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง” พวกที่กลัวเสียอำนาจก็ดิ้นเร่า ๆ จะเป็นจะตาย
ใช้คำว่า ชังชาติ เนรคุณ มาขวางคลองไว้ คนที่โดนเป่าหูโดยไม่รู้ตัว ก็ดันออกมาปกป้องคนที่เอาเปรียบคนอื่น เพราะตัวเองหารู้ว่าถูกหลอกใช้ไม่
. ก็ใครมันจะอยากเปลี่ยนแปลง? ถ้ายังได้อยู่ดีมีเงินใช้ อนาคตของชาติจะเป็นไงช่างมัน เลียนาย ประจบนายไปก่อน กูรอด แค่นี้จบ
. โถ คุณภาพการกระทำที่มีการศึกษา
. หนังเรื่องนี้แสดงเห็น #ความน่าหดหู่ของการศึกษาไทย ที่ทำให้เด็กหลายคนถอดใจ จนกลายเป็นคนที่แค่เรียน ๆ ไป หรือเรียนทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรด้วยซ้ำ
. ใครมีเงินหน่อย ก็พาตัวเองไปเมืองนอก ใครไม่มีเงินก็ต้องทนต่อไป บางคนก็ทน เพราะเลือกไม่ได้ บางคนก็อยู่ เพราะคิดว่าระบบนี้แสนดีไม่ต้องแก้ไข
เพราะอาจไม่รู้ว่า
- มีเด็กยากจนที่หลุดการศึกษาทุกวัน
- การบริจาคไม่ได้ช่วยแก้ต้นเหตุ
- บางทีทุนต่าง ๆ ก็มีลับลมคมนัยเบื้องหลัง
- บางคนเก่งแทบตายก็ไปไม่รอด ถ้าโครงสร้างการศึกษาเหลื่อมล้ำ
- บางโรงเรียนรายล้อมด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม
. มีคนมากมายที่ตกนรกทางการศึกษาทั้งเป็น เพราะคนส่วนหนึ่งมองไม่เห็นปัญหา ยังเข้าใจว่า “คนเก่งเรียนไหนก็เก่ง” ยังเอาคำว่า “เรียนวัดจบมาก็เป็นเจ้าคนนายคนได้” เพราะคนเหล่านี้ไม่เห็นว่า โรงเรียนที่ขาดคุณภาพที่ดีกดขี่ทั้งคนเก่งและไม่เก่งได้ขนาดไหน
. และพวกเขาไม่เห็นว่าโรงเรียนวัดก็สามารถพัฒนาได้  ไม่ใช่ต้องปลาบปลื้มที่เห็นลูกหลานไปลำบากเสมอไป  เราช่วยให้ทุกโรงเรียนมีคุณภาพเท่าเทียมกันได้
เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีโรงเรียนใกล้บ้านที่ปลอดภัยต่อการเติบโต ไม่ใช่ไปเรียนไกล ๆ แล้วยังต้องกลัวว่าจะถูกปล้น ถูกข่มขืน ล่อลวง หรือถูกลากเข้าวงการยาเสพติด
. ส่วนตัว ผมหวังว่า “#การตื่นรู้ทางการศึกษา” จะเกิดขึ้นผ่านหนังเรื่องนี้ ผมอยากให้เกิดการถก เถียง ถาม ในวงกว้าง อยากให้มีการ #เปิดให้ดูในทุกโรงเรียน
และหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่า ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการกดขี่การศึกษาทั้งหลาย ทั้งการคอรัปชั่นในโรงเรียน การทุจริตโครงการต่าง ๆ การใช้เส้นสายควบคุมการศึกษาให้ด้อยพัฒนา จะถูกเปิดโปง กวาดล้างให้สิ้นซากไป
. การศึกษาที่ดีมีอยู่จริง  ขอแค่สิ่งที่ปกคลุมมันถูกปัดเป่าไป

บทสรุปที่แท้จริงของหนังเรื่องนี้ ส่วนตัวผมว่าอยู่ต้น ๆ เรื่อง มันเป็นตอนที่ครู (ผู้ทำตัวเป็นพระ) ให้ข้าวเหนียวกับน้องหมา ยามถามครูว่า “มันกินได้หรือครู”
ครูตอบว่า “หมาดี มันก็กินตามคนที่ให้มันเรื่อยแหละ”
. หวังว่าผู้เกี่ยวข้องกับการศึกษา (บางคน)จะเลิกกินมั่วตามที่ถูกบัญชา และหันมาเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาชาติ ลองคิดว่า ถ้ามีลูกอยากให้ลูกได้เรียนอะไรแบบไหน ก็ส่งเสริมการศึกษาไทยให้เป็นแบบนั้น
. ไม่ใช่ลูกตัวเองส่งเรียนที่ดูดีหรูหรา  แต่ลูกคนอื่นให้เรียนตามมีตามกรรม
. ขอให้เกิดการศึกษาที่เท่าเทียมกับทุกชนชั้น
. #อนาคตของชาติไม่ใช่เรื่องเล่นๆ  #อย่าทำเป็นตาบอดไม่เห็นว่าต้องแก้อะไร”

ผมเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ทาง Netflix ได้ความรู้สึกหลายอย่าง    อย่างหนึ่งคือ แล้วประเทศไทยจะเจริญได้อย่างไร

วิจารณ์ พานิช

๖ เม.ย. ๖๗

 

หมายเลขบันทึก: 717834เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2024 09:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2024 09:04 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท