บทเรียนล้ำค่าจากสวน
ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูที่ดังผ่านแผ่นไม้มา พร้อมๆ กับเสียงที่ดูเหมือน
กับเป็นคำสั่งว่า
“ ตื่นนอนได้แล้ว จะได้ช่วยกันทำงาน ”
เด็กน้อยคนหนึ่งตื่นขึ้นมา ท่าทางงัวเงีย สลึมสลือ มือจับผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาพับและตอบรับเสียงปลุกนั้น
“ อืม…..ตื่นแล้ว ได้ยินแล้ว ”
“ นี่วันหยุดนะเนี่ย ”
เด็กน้อยบ่นกับตัวเอง
“ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ ไปถอนหญ้าที่สวนนะ ”
พ่อสั่ง ขณะที่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาให้ลูกชาย
เด็กน้อยพยักหน้าตอบ และลงมือทานอาหารมื้อแรกของวัน
หลังจากทานอาหารเสร็จ เด็กน้อยเดินไปหยิบหมวก และเสื้อแขนยาวมาสวมเพื่อกันแดดแล้ววิ่งออกไปหน้าบ้าน กระโดดขึ้นซ้อนท้ายจักรยานโบราณสภาพเก่าโทรม บ่งบอกถึงอายุการใช้งานซึ่งมีพ่อเป็นผู้ขี่ ในระหว่างทางเด็กน้อยคุยกับพ่อตลอด เขาป้อนคำถามที่อยากรู้ซึ่งบางครั้งดูเหมือนกับว่าผู้เป็นพ่อ จะพยายามสอดแทรกให้แง่คิดตลอด โดยที่เด็กน้อยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ไม่นานนักก็ถึงสวน ที่เขามีภารกิจที่จะต้องทำ “ ถอนหญ้า ” ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ..หญ้าซึ่งเปรียบเสมือน “ ศัตรูตัวฉกาจของชาวสวน ”
“ เดี๋ยวเจ้าถอนแปลงนี้นะ ”
พ่อสั่งพร้อมกับชี้นิ้วไปที่แปลงผัก เด็กน้อยรับคำและลงมือถอนหญ้าออกจากแปลงผัก ทีละต้นทีละต้นจนกระทั่งศัตรูตัวฉกาจของชาวสวนหายไปจากแปลงผักจนหมดสิ้น
“ ไปพักกินน้ำที่ใต้ต้นมะขามก่อน….ไป ”
เด็กน้อยรับคำพ่อแล้วเดินไปพัก
“ กลับมาเร็วๆ นะ ยังมีอีกแปลงหนึ่ง ”
เสียงพ่อสั่งตามหลังเด็กน้อย
หลังจากได้พักกินน้ำ พ่อได้ส่งจอบให้เด็กน้อย พร้อมกับพูดว่า
“ เอ้า…เอาไปถากหญ้า ”
เด็กน้อยรับจอบและตรงไปยังแปลงผัก เพื่อทำภารกิจต่อ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะพึงพอใจ กับการใช้จอบถากหญ้ามากกว่าการใช้มือถอน เหตุผลก็คือ มันทำให้เขาสามารถทำงานได้รวดเร็ว ซึ่งไม่นานนักเขาก็จัดการกับศัตรูตัวฉกาจของชาวสวนอย่างราบคาบ
หลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้นลง พ่อลูกก็พากันกลับบ้าน ระหว่างทางเด็กน้อยถาม
“ ทำไมไม่ให้ผมใช้จอบ ตั้งแต่แรกล่ะ ทั้งๆ ที่ทำงานได้เร็วกว่า ”
พ่อไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้ม เก็บซ่อนคำตอบไว้เพียงผู้เดียว
ผ่านไป 1 สัปดาห์ พ่อได้พาเด็กน้อยกลับไปที่สวนอีก สิ่งที่เด็กน้อยเห็นก็คือแปลงที่ใช้มือถอน บัดนี้ไม่มีหญ้าให้เขาถอนเลย แม้แต่ต้นเดียว แต่..แปลง
ที่ใช้จอบถาก กลับมีต้นหญ้าปกคลุมเหมือนเดิม
“ ทำไมมันเป็นอย่างนั้นล่ะ ”
เด็กน้อยถามด้วยความสงสัย ทั้งๆที่เขาได้จัดการมันหมดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพ่อตอบ
“ แปลงที่เจ้าใช้มือถอนน่ะ เจ้าได้ถอนมันถึงรากถึงโคน ส่วนแปลงที่เจ้าใช้จอบถากน่ะ เจ้าเพียงแต่ตัดเอาส่วนปลายของมันออกเท่านั้น มันยังคงมี
ส่วนที่ฝังลึกอยู่ในดินอีก”
“ มันก็เหมือนกับปัญหาต่างๆ ที่เราพบเจอนั่นแหละ ถ้าเราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยปล่อยสาเหตุของปัญหาไว้ ไม่นานนักปัญหานั้นก็จะกลับมาสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าอีก แต่ถ้าเราแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แม้มันจะยากสักนิด แต่มันก็ทำให้ปัญหานั้นหมดไปได้ ”
เด็กน้อยยิ้มรับด้วยความเข้าใจที่ว่า
“ จงหันหน้าสู้กับปัญหา…..จัดการกับสาเหตุ…..และอย่าท้อถอย ”
Cr. เรื่องดีๆมีข้อคิด
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๐ เมษายน ๒๕๖๗
ไม่มีความเห็น