ผู้เขียนได้อ่านหนังสือหลาย ๆ เล่มที่ยืมของเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน และเพื่อนอาจารย์ท่านนั้นได้นำลงเสียงแก้วเรื่อง อาก๋งสอนว่า "รู้ให้สูง อยู่ให้ต่ำ" เลยอดเก็บมาเล่าให้ฟังไม่ได้ค่ะ
ในโลกยุคปัจจุบัน การประกอบธุรกิจทุกอย่างต้องรู้ให้เท่าทัน รู้มาก ๆ เยอะ ๆ คือจำเป็นต้อง "รู้ให้สูง" จึงจะสามารถก้าวไปในยุทธจักรได้อย่างเต็มภาคภูมิ คนที่รู้มาก รู้จริง ย่อมได้เปรียบผู้อื่น หากรู้น้อย รู้ไม่จริง การประกอบธุรกิจก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ ไม่เหมือนกับสมัยก่อน ที่ไม่ต้องมีความรู้มาก มีพอประมาณ ทำงานมีความขยันหมั่นเพียร ก็สามารถประสบความสำเร็จ
แต่ในยุคนี้ สังคมเปลี่ยนไป การลงทุน การค้า การพาณิชย์ หรือธุรกิจทุกอย่าง ผู้ประกอบการต้องรู้จริง รู้ให้มาก และต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปเร็วได้ทุกกระบวนท่า เพราะความรู้เปรียบเสมือน ขุมทรัพย์ ผู้ต้องการก้าวหน้าต้องใฝ่ที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
แต่ถ้าคนเรามีความรู้มาก มีทรัพย์สมบัติมาก แต่ไม่รู้จักทำตัวให้ "อยู่ให้ต่ำ" คืออยู่อย่างฟุ้งเฟ้อ ไม่รู้จักประมาณตน ชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไร คำนี้ทำให้ราณี คิดถึงคำว่า เศรษฐกิจพอเพียง คนเราถ้ารู้จักคำว่า พอเพียงดีพอ ชีวิตจะมีความสุขอย่างแท้จริง
นำมาเล่าให้ฟัง ค่ะ มีข้อชี้แนะอย่างไรบอกด้วยนะค่ะ จากผู้ด้อยประสบการณ์
ครูอ้อยจะปฏืบัติตามคำสอนของน้อง Ranee นะคะ
อิอิ...ขำขำ
สวัสดีค่ะครูอ้อย
แหมเล่นยิงมุขซะตอบไม่ถูกเลยพี่สาวคนสวยเนี่ย ราณีแนะนำห้องใต้ดินค่ะ กันระเบิดลงด้วยค่ะ
ช่างขยันจริงหนอ หาเวลาอ่านหนังสือจนได้ ใช้ชีวิตเต็มอิ่มความรู้ คนเราถ้ารักความรู้ ก็ไม่มีเวลาให้อย่างอื่น เพราะในความรู้มีอยู่ครบถวนทุกอย่างแล้ว
ยกเว้นส่าหรี ในทางปฏิบัติต้องหาจากข้างนอก
ยิ่งสูงยิ่งหนาวครับ...
เห็นด้วยครับ...อยู่แบบพอเพียงดีกว่า
เรียนท่านครูบา
ราณีอุตส่าห์เขียนแล้วครูบายังไม่ยอมลืมเรื่องส่าหรีอีกเหรอค่ะ มาเที่ยวบ้านราณีซิค่ะ จะแต่งให้ดูเลยค่ะ ส่วนรูปไม่ลืมนะค่ะ รักแล้วต้องรอหน่อยค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ ที่เข้ามาให้กำลังใจค่ะ
ครับ ผมจะไปอ่านหนังสือบนยอดไม้ แล้วจะมานอนใต้ต้นไม้ครับ (แซว)
วันนี้เพื่อคนสวยของราณีอารมณ์ดีเป็นพิเศษจริง ๆ ไม่รู้ว่ากินอะไรที่วังทองผิดสำแดงหรือเปล่า เห็นด้วยค่ะ ที่ต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้ คนเราความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดถมไป เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ดีกว่า จะได้แง่คิดหลาย ๆ มุมมองด้วย
เรียนอาจารย์แสวง
เดี๋ยวนี้อาจารย์มุขเยอะนะค่ะ ยิงซะไม่นับเลย แหมทำให้ราณีตั้งตัวไม่ติดเลย อาจารย์จะไปนั่งอ่านหนังสือบนต้นไม้ระวังรังมดแดงนะค่ะ ฮิๆๆๆๆ
โอ้โห ทำไมฟลุ๊คขนาดนี้ครับ
ไม่ถามก็อยากจะบอกครับว่า clue ในการเดามีชือ จังหวัด และข้อมูลว่าเป็นห้องแถว
๓ ข้อนี้บวกกันครับ แต่ก็ได้ข้อมูลมาเพิ่มอีกเพียบ
ขอบคุณมากครับ
วันหลังได้ไปเยี่ยมแน่เลยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ อ. ลูกหว้า อาจารย์รานี
welcome to Phitsanulok ka ดร.แสวง
อาจารย์ราณีค่ะ
บันทึกนี้ ต้องบอกว่าสะท้อนกับโลกการทำงานหาเงินของคนในปัจจุบัน อยู่ค่อนข้างมาก บางทีทำงานได้เงินมา ก็มีสิ่งที่ทำให้ต้องเสียเงินไปมากเช่นกัน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเองด้วย
เศรษฐกิจพอเพียงก็ตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ
รู้ให้สูง เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง ให้ิรู้ และยังเป็นข้อมูลเพื่อ ให้เรามีเหตุผลในการกระทำต่างๆ
อยู่ให้ต่ำ เป็นการพอประมาณ นำเหตุผลจากการรู้สูง มาประกอบ และใช้ชีวิตอย่างสมเหตุสมผล
ผมก็เอาเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงไปใช้สอนการใช้ชีวิตของวัยรุ่น ให้กับนักศึกษาด้วยครับ
อ.ราณี มีแง่ให้คิดดีครับ ขอบคุณครับที่ให้คิดครับ
ปล.1 รอ(แอบ)ดูรูปครับ
ปล.2 ขับรถไม่แข็งแรง คืออ่อนแอ หรือป่ะครับ อิอิ
ขอบคุณครับคุณรานี นี่แหละอานุภาพ gotoknow
ผมยังไม่มั่นใจว่าคุณรานีจะขับรถไม่แข็งแรง
ระดับนี้แล้ว น้ำหนักก็ลดได้แล้ว จะมีอะไรที่ยากกว่านี้อีกครับ
เรืองขับรถน่าจะจิ๊บจ้อยครับ
ไม่ได้ป่วนนะครับ
กลวิธีให้คนอื่นขับ เท่จัง
อ.ลูกหว้าขับรถแข็งกว่า อ.ราณี เพราะขับรถมา 3 คัน แล้วรึปล่าวค่ะ....อิอิอิ...มาแซวค่ะ
เมื่อก่อนได้ไปพิษณุโลกบ่อยๆ แต่ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสเลยค่ะ อยากไปจัง.....
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ นะค่ะ
สวัสดีค่ะอ.paew
ขอบคุณนะค่ะ ที่แว้บเข้ามาอ่านค่ะ แหมแซวเพื่อนราณีเลยนะค่ะ (สงสัยอ.ลูกหว้าบึ้กกว่าค่ะ) ถ้ามาพิษณุโลกบอกนะค่ะจะพาไปทานข้าวค่ะ
ซุนหวู่ ผู้แต่งตำราพิชัยสงครามของจีนเขียนไว้เป็นพันปีมาแล้วว่า "รบด้วยปัญญา ชนะด้วยความรู้" (ดร.สุรชาติ บำรุงสุข แปล) ผมก็ว่าแม้ในยุคปัจจุบันก็ยังจริงอยู่ และจะยิ่งจริงมากขึ้นทุกวัน
เพิ่งดูเรื่องคุณอัมพรตอนที่ ๒ จบไป คุณอัมพรก็ใช้ปัญญาสร้างกองทุนสวัสดิการสำหรับชาวบ้านคลองเปี๊ยะขึ้นมา
ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินคุณอัมพรพูด(แต่ไม่ใช่ในทีวีวันนี้)ว่า หากมีความรู้ทำทะเลทรายให้เป็นป่าก็ยังได้ แต่หากไม่มีความรู้ก็จะโค่นป่าจนเป็นทะเลทราย
ที่สำคัญการ "ชนะด้วยความรู้" นั้น ต้องเป็น "ความรู้จริง" ด้วย ในทีวีวันนี้ คุณอัมพรบอกว่ามีหลายอย่างที่นักวิชาการ(ด๊อกเตอร์)รู้ แต่ก็มีหลายอย่างที่คุณอัมพรรู้แต่นักวิชาการไม่รู้ หากนำทั้งสองความรู้มาประสานกันก็จะเป็นประโยชน์ ผมตีความเอาเองว่าที่ว่านักวิชาการรู้นั้นคือความรู้สากล ที่เล่าเรียนหรือวิจัยมา ส่วนที่คุณอัมพรรู้นั้นคือความรู้จากการปฏิบัติจริงแล้วสรุปบทเรียนจากความล้มเหลวและความสำเร็จขึ้นมา
คุณประยงค์ รณรงค์ เกษตรกรทำสวนยางที่จบ ป.๔ เพิ่งได้รับรางวัลแมกไซไซเมื่อ ๒ ปีที่แล้ว (ตอนนี้ได้ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ตั้ง ๖ ใบ) บอกว่าเงินแก้ปัญหาไม่ได้ การเรียนรู้ต่างหากที่แก้ปัญหาได้ คุณประยงค์บอกว่าต้อง "รู้จริงในสิ่งที่ทำ" ด้วย ไม่ใช่ "ได้ยินมาว่า" "เข้าใจว่า" "อย่างนี้มั้ง" (หมอประเวศเรียกว่า "มั้งศาสตร์") ตำบลไม้เรียงที่เป็นตัวแบบของตำบลที่ชาวบ้านพึ่งตัวเองได้ พอเพียง มั่นคง และมีความสงบสุข ไม่มีโจรผู้ร้าย ก็เพราะชาวบ้านให้ความสำคัญกับกระบวนการเรียนรู้มากที่สุด (เขาขึ้นกระดานไว้ - ผมไม่ได้พูดเอง) และเขาก็ลงทุนเรื่องการแสดงหาข้อมูล ข่าวสาร และความรู้ เพื่อนำมาสร้างปัญญาเพื่อแก้ปัญหา ต่อกรกับกระแสภายนอก อยู่ตลอดเวลา
เรียนอ.สุรเชษฐ
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ตอบอาจารย์ช้าไปหน่อยนะค่ะ ราณีพานักศึกษาไปดูงานที่กรุงเทพและชลบุรี 3 วันค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม และให้สาระดี ๆ ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณผู้ก่อการดี
ขอบคุณนะค่ะที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็น ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ เพราะเจ้าของblog ไม่อยู่เสียหลายวัน
เรียนคุณครูธเนศ
เห็นด้วยค่ะครูธเนศ คนเราต้องมีคุณธรรมด้วย อันนี้ต้องอยู่ที่จิตใต้สำนึกของแต่ละคนค่ะ ราณียังต้องเรียนรู้อีกเยอะค่ะจากท่านผู้รู้ต่าง ๆ ขอบคุณนะค่ะที่มา ลปรร.กับราณีนะค่ะ ราณีต้องเรียนรู้ KM จากอาจารย์อีกเยอะเลยค่ะ
การฝึกบริหารจิตของตนเองในชีวิตประจำวันด้วยการ "มีเจตนา มีความตั้งใจ (มีสติ) และมีความเพียรที่จะคิดดี ทำดี อย่างเป็นประจำและต่อเนื่อง ย่อมถือว่า มุ่งมั่นทำความดี เป็นคนดี ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และชาติบ้านเมืองด้วย
ขอบใจที่แวะไปเยี่ยมบล็อคของผม
ขอให้โชคดี ครับ
สวัสดีค่ะ
อาจารย์ที่น่ารัก
ชอบมากๆกับประโยคที่ว่า
ผู้ต้องการก้าวหน้าต้องใฝ่ที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
จริงแท้แน่นอนค่ะ จะเอาไว้สอนหลาน จะไม่ให้ขี้เกียจเด็ดขาด
สวัสดีค่ะอาจารย์
ชอบคำที่พี่พูดว่า อาจารย์ที่น่ารัก (อิอิ มั่วนิ่มน่ารักค่ะ)
ขอบคุณนะค่ะที่เห็นว่าบันทึกนี้มีประโยชน์ และนำไปใช้ได้
ดีใจค่ะที่ยังมาอ่านบันทึกเก่า ๆ ค่ะ คนเราเรียนรู้ไม่จบหรอกค่ะ เพราะชีวิตจะมีสิ่งใหม่ ๆ หรือปัญหาแปลก ๆ มาให้เราแก้ไขเสมอ ทุกอย่างจะตีค่าเป็นประสบการณ์ ถ้าทำบ่อย ๆ จะเกิดความเชี่ยวชาญ
ขอบคุณมากค่ะพี่คนสวยของราณี