ชีวิตประกอบด้วยส่วนสำคัญ ๒ อย่าง คือ ร่างกายและจิตใจ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ต่างก็มีอิทธิพลซึ่งกันและกัน ... ในส่วนของร่างกายก็คือการผสมกันของธาตุพื้นฐานทั้งสี่ ได้แก่ ไฟ ดิน ลม และน้ำ... ธาตุแต่ละอย่างมีอิทธิพลต่อจิตใจอย่างไรก็ต้องแปลความหมายธาตุเหล่านี้ นั่นคือ ความจำเป็นที่นักโหราศาสตร์จะต้องทำความเข้าใจ...
ไฟ คือ พลังงาน ความร้อน การเผาผลาญ ความไม่อยู่นิ่ง แสงสว่าง การกำจัดความมืด .... เป็นต้น
นั่นคือ ผู้ที่ได้รับอิทธิพลจากธาตุไฟสูง จะเต็มไปด้วยพลังใจตัวเอง มีความเร้าร้อนทะเยอทะยาน.. นิสัยมักโกรธ ใจร้อน บางครั้งอาจขว้างปาทำลายตัวเอง ผู้อื่น หรือสิ่งของ... อยู่ไม่นิ่ง จับจด ฟุ้งซ่าน ...เฉลียวฉลาด มองเห็นแนวทางแก้ไขในสิ่งต่างๆ ได้ง่าย... ประมาณนี้
ดิน คือ ภาวะรองรับสิ่งอื่นๆ หนักแน่น เกาะตัวเป็นกลุ่มก้อน คงทน ยากที่จะทำลายได้.... เป็นต้น
นั่นคือ ผู้ที่ได้รับอิทธิพลจากธาตุดิน จะมีน้ำใจกว้างขวาง เป็นที่พึ่งของผู้อื่นในความเป็นอยู่ได้... มีจิตใจหนักแน่น ไม่ค่อยหวั่นไหวในสิ่งต่างๆ อดทน เข้มแข็ง ทรหด... ประมาณนี้
ลม คือ สิ่งที่เคลื่อนไหว กระจายไปทั่วสารทิศ พัดไปพัดมา แปรปรวน ยากที่จะควบคุมให้อยู่นิ่งได้ ... เป็นต้น
นั่นคือ ผู้ได้รับอิทธิพลจากธาตุลม จะมีเสรีภาพในตัวเองสูง ไม่อยู่ในอำนาจของใคร อารมณ์แปรปรวนไม่แน่นอน เดาใจได้ยาก ฟุ้งซ่าน จับจด เอาใจยาก ... ประมาณนี้
น้ำ คือ เอิบอาบ ไหลลงสู่เบื้องต่ำ เกาะตัวเป็นหนึ่งเดียว และแยกย่อยได้ ชุ่มชื้น เย็น ปรับตัวไปตามสภาพที่อยู่ เปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งหรือระเหยกลายเป็นไอได้ ... เป็นต้น
นั่นคือ ผู้ได้รับอิทธิพลจากธาตุน้ำ จะมีความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ค่อยแสดงออก นิ่งๆ เงียบๆ ปรับตัวได้เก่ง ให้ความสุขสดชื่นต่อผู้อยู่ใกล้... ประมาณนี้...
อนึ่ง ธาตุไฟเข้ากันได้กับธาตุลม ขณะที่ธาตุดินเข้ากันได้กับธาตุน้ำ นั่นคือ ไฟกับลม และดินกับน้ำจะมีส่วนเกื้อหนุนกะกันและกัน...นัยตรงกันข้าม ธาตุไฟขัดกับธาตุน้ำ ขณะที่ธาตุดินขัดกับธาตุลม นั่นคือ ไฟกับน้ำ และดินกับลม จะมีส่วนทำลายแก่กันและกัน...
... ธาตุเหล่านี้จะผสมกัน แต่คนใดธาตุใดเด่น นั่นคือ หน้าที่ของนักโหราศาสตร์ต้องค้นหาให้พบ นำธาตุอื่นๆ มาผสมผสานกันแล้วก็ค่อยๆ แปลความหมายเป็นอุปนิสัยจากธาตุทั้ง ๔
ตัวอย่างที่เห็นบ่อย เช่น ผัวธาตุไฟ เมียธาตุน้ำ ไฟกับน้ำ แม้จะขัดกัน แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกัน ก็อาจอยู่กันได้อย่างลงตัว นั่นคือ ผัวใจร้อน เมียใจเย็น ... ธาตุขัดกันก็อยู่กันได้ ...
๑๒ ราศี ก็สามารถแบ่งเป็นธาตุเหล่านี้ได้ ซึ่งผู้เขียนค่อยนำมาเล่าต่อไป...
ธาตุเหล็ก ไม่มีอยู่ในโหราศาสตร์ไทย ... แต่มีอยู่ในโหราศาสตร์บางสำนัก เช่น โหราศาสตร์จีน ....
เจริญพร
กราบนมัสการ
ไม่ทราบว่าตามหลักโหราศาสตร์ไทย ว่าด้วยธาตุทั้ง 4
และตามหลักแพทย์แผนไทย ว่าธาตุทั้ง 4 นั้น
พระคุณเจ้าคิดว่าน่าจะเป็นความหมายเดียวกันหรือเปล่าค่ะ
ลิงจ๋อ |
เพิ่งเห็นว่ามีผู้สงสัยคอยอยู่ ก็ตอบสั้นๆ ตามความเห็นส่วนตัว...
ธาตุ ๔ ตามหลักแพทย์แผนไทยกับโหราศาสตร์ไทย มีพื้นฐานเหมือนกัน เพียงแต่การแปรความหมายเพื่อนำไปใช้แตกต่างกัน...
ยกตัวอย่าง ปิตตะ เสมหะ วาตะ ถ้าสามอย่างนี้มีความกลมกลืนก็เป็นไปได้ตามปรกติ แต่ถ้ามีอย่างหนึ่งบกพร่องก็สามารถนำมาเพื่อเป็นสมุฎฐานในการวินิจฉัยโรคได้...
หลวงพี่เคยเรียนเล็กน้อยเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ซึ่งผู้รู้ด้านนี้คงจะพอทราบว่า ปิตตะ เสมหะ วาตะ เป็นประตูเพื่อตรวจดูความสมดุลของธาตุ ๔ นั่นเอง....
จะขยายความให้มากกว่านี้ ก็ลืมๆ หมดแล้ว จ้า..
เจริญพร
วันศุกร์ที่ 6 มีนา 2507 เนี่ยธาตุอะไรค่ะ
แล้ววันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2516 เนี่ยธาตุอะไรค่ะ
หญิง |
ในวิกิพีเดีย มีบอกไว้ทั้งสองนัย
เปิด http://th.wikipedia.org แล้วก็พิมพ์คำว่า ราศี เข้าไปในช่องค้นหา
เจริญพร
ปีขาลเป็นธาตุอะไรคะ?
jenny
ชวด ฉลู ขาล เถาะ... พวกนี้เป็นพวกนักษัตริย์ เรียกกันว่า ๑๒ นักษัตริย์
ตามที่เคยเห็นใน ตำราพรหมชาติ นักษัตริย์จะแบ่งธาตุไปตามเดือนเกิด เช่น เกิดปีขาล เดือน... ก็จะบอกว่าธาตุ... เป็นต้น (ลองไปค้นในตำราพรหมชาติ เจอแน่นอน)... แต่ นักษัตริย์ไทยกับนักษัตริย์จีนก็ยังจำแนกธาตุต่างๆ ไม่เหมือนกัน...
เมษ พฤษภ เมถุน กรกฎ... พวกนี้เป็นพวกราศี เรียกกันว่า ๑๒ ราศี ซึ่งมีการระบุว่าราศี.... เป็นธาตุ... เป็นต้น
แต่การระบุว่าราศีไหนเป็นธาตุอะไร ต่างตำราก็อาจต่างความเห็นเช่น ราศีธนู โหราศาสตร์ไทยก็บอกว่าเป็น ธาตุดิน .... ขณะที่โหราศาสตร์ฝรั่งบอกว่าเป็น ธาตุไฟ เป็นต้น
ถ้ารู้สึกว่ามั่วนัก ก็อย่าสนใจมันเลย ให้จำพุทธศาสนาสุภาษิตว่า
เจริญพร
นมัสการค่ะหลวงพี่
หนูอยากรู้ว่าตัวเองกับสามีอยู่ในธาตุอะไรค่ะ
เกิดวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2522
วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2517
ธาตุต่างจากสังขารในขันธ์ 5 อย่างไร
และธาตุ 4 ประชุมกันท่านนับว่าเป็นกาย ธาตุ 6 ประชุมกันจะเป็นอะไร
นนท์
ลองไปหาหนังสือชื่อ โลกธาตุ ในหน้าแรกๆ จะประยุกต์เรื่อง ธาตุ ๖ ตามคำสอนทางพระพุทธศาสนามาอธิบาย ก่อนจะนำไปสู่เรื่องโหราศาสตร์...
เจริญพร
นมัสการคะหลวงพี่ พอดีดิฉันอยากทราบว่าราศีเมษนะคะอยู่ประจำธาตุอะไรคะ
ธนิดา
ส่วนหลักโหราศาสตร์อื่นๆ นั้น อาจเป็น ธาตุอื่นๆ ที่มิใช่ธาตุไฟ ก็ได้ เพราะโหราศาสตร์มีหลายสำนัก สอดคล้องกันบ้าง ต่างกันหรือแย้งกันบ้าง...
หมอดูที่มีความเห็นแย้งจึงอาจโต้เถียงกัน... แต่คนมาดูหมอ ต้องการแต่เพียงแม่นไม่แม่น หรือพอแนะนำเป็นแนวทางบางอย่างได้เท่านั้น
เจริญพร
เกิดวันที่ 7 ก.พ.39 เกิดเวลา 6 โมงกว่าๆ อยากรู้ว่าเกิดธาตุอะไร
-กราบนมัสการ พระคุณเจ้าค่ะ
-อยากถามเหมือนกัน แต่เกรงจะบอกให้ไปค้นเอง ?
-โหราศาสตร์ไม่เคยดูหมิ่น
-แต่ไม่ชอบดู ชอบดูใจตัวเอง
- ถ้ากลัวก็แหย่ๆ ถ้าไม่กลัวก็โพ๊ะพ๊ะ
-อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
-แม้เขาไม่ได้ลิขิต หรือลิขิต
-หากเรามีสติไว้ ถึงเจ๊บก็พอทนเพราะรู้ว่าจะเจ็บ
-ไม่คิดว่า หลีกเลี่ยงได้ แต่ไม่ประมาท บางครั้งอาจมีเผลอ
-กราบลาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
เข้าไปที่นี้เลย
..........
มักจะเป็นอย่างนั้น (.........) ถ้าเห็นว่าคำถามใดค้นหาได้ไม่ยาก มักจะบอกให้ไปค้นเอง... ถ้าเห็นว่าเป็นเพียงการเสนอความเห็นเชิงบ่นๆ ก็มักจะเจริญพรเท่านั้น เพราะไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด... ส่วนคำถามใดเห็นว่าน่าจะค้นหายาก และพอมีความคิดเห็นอยู่บ้างก็มักจะตอบ แต่ถ้าไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ (........)
เห็นด้วยกับคุณโยม เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัว โหราศาสตร์นั้น จะทำให้ความมั่นใจเดิมด้อยพลังลงไป....
.........
เจริญพรคุณโยมทั้งสองท่าน
กราบนมัสการ ค่ะ
หนูเคยทราบมาว่าแต่ละธาตุจะแบ่งเป็น ชนิดต่างๆ
เช่นไฟในแก้ว อะไรมระมาณนั้น
แล้วถ้า 8 มีนาคม นี้ลมอะไรหรอค่ะ
พิมผกา
ไม่เคยได้ยิน และไม่มีความรู้เรื่องการจำแนกธาตุตามลักษณะนี้
เจริญพร
กราบนมัสการ ค่ะ
วันที่10ตุลาคมคือธาตุอะไรค่ะ
แล้วถูกกะธาตุอะไรค่ะ
อยากทราบว่ามีธาตุกี่ชนิดคะ บางครั้งบอก4 (ดินนำลมไฟ) บ้าง5(ดินนำลมไฟทอง)
บ้าง6 งงงจังเจ้าค่ะ ช่วยตอบด้วยนะเจ้าคะ
เพียงแค่วันที่ 10 ตุลาคม ไม่อาจบอกได้ว่าธาตุอะไร ถ้าจะค้นมาตอบ ก็ต้องอธิบายกันยาววววว จึงขี้เกียจตอบ...
........
โหราศาสตร์มีหลายสำนัก เช่น
การจำแนกธาตุเป็นกิ่อย่าง ? อะไรบ้าง ? จึงต้องรู้ว่า นั่นคือโหราศาสตร์สำนักใด ?
..........
เจริญพรทั้งสองท่าน