ข่าวคราวเกี่ยวกับฟ้าผ่าทำให้มีผู้เสียชีวิตนั้นมักจะโผล่มาให้เห็นเป็นระยะ อย่างเมื่อราวปลายปี 2542 หนังสือพิมพ์ยอดนิยมฉบับหนึ่ง ได้พาดหัวไว้หวาดเสียวว่า
ข่าว 'ยกทรง’มรณะ จาก นสพ.มติชน ซึ่งตำรวจอังกฤษสรุปว่า ฟ้าผ่าสองสาวไทยเนื่องจากโครงลวดโลหะในยกทรงเป็นสื่อล่อ
(ซึ่งเป็นการสรุปที่ไม่ถูกต้องตามหลักการทางวิทยาศาสตร์)
ข่าวฟ้าผ่าจาก นสพ.ข่าวสด ซึ่งมีผู้สรุปว่า นักฟุตบอลถูกฟ้าผ่ากลางสนามขณะฝนตกเนื่องจากเข็มกลัดที่ติดอยู่เป็นสื่อล่อ
(ซึ่งเป็นการสรุปที่ไม่ถูกต้องตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน)
ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่?
ลองไปทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับฟ้าผ่าน ในเรื่อง คุณควรทำตัวอย่างไรเพื่อไม่ให้ถูก 'ฟ้าผ่า' ? กันก่อน เพื่อให้เข้าใจการวิเคราะห์ต่อไปนี้
วิเคราะห์กรณี
“ยกทรงมรณะ”
แหล่งข่าวจากรอยเตอร์ (27 ตุลาคม 2542) กล่าวว่า สาวไทย 2 คน
ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตใต้ต้นไม้ในสวนสาธารณะไฮด์พาร์ค (Hyde Park)
กลางกรุงลอนดอน
แพทย์และเจ้าหน้าที่ของอังกฤษ ได้พบรอยไหม้เป็นแนวเดียวกับขอบเสื้อชั้นในซึ่งมีโครงเป็นโลหะของสองสาวไทยผู้โชคร้าย และได้สรุปว่า โครงโลหะของยกทรงนี้เองเป็นตัวล่อกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกายทำให้สาวไทยทั้งสองคนถึงแก่ความตาย …
ฟังการวิเคราะห์แบบนี้แล้ว รู้สึกทะแม่ง ๆ ไหมละครับ เพราะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ใครสวมสร้อยโลหะ หรือใส่ลวดจัดฟันแล้วไปยืนยิ้มกลางสายฝน ก็น่าจะเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าด้วยเช่นกัน ถ้า “คำอธิบาย” ข้างต้นเป็นความจริง
ผมขอให้ข้อคิดเห็นจากมุมมองทางวิทยาศาสต์ว่า
เส้นลวดโลหะในสายไฟไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่สองสาวผู้เคราะห์ร้ายถูกฟ้าผ่าในกรณีนี้
ทั้งนี้ลำดับเหตุการณ์ที่เป็นไปได้มากกว่าน่าจะเป็นอย่างนี้ครับ
กรณี Side Flash และ Step Voltage
ได้อธิบายไว้แล้วในเรื่อง คุณควรทำตัวอย่างไรเพื่อไม่ให้ถูก 'ฟ้าผ่า' ?
แล้วเจ้า “รอยไหม้” ที่พบล่ะ จะอธิบายได้อย่างไร?
มีคำอธิบายอย่างน้อย 2 แบบที่เป็นไปตามหลักการทางฟิสิกส์ครับ
คำอธิบายแบบที่ 1 :
กระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่าทำให้เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแผ่ออกไปโดยรอบ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้สามารถเหนี่ยวนำลวดโลหะที่เป็นโครงของยกทรงให้เกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ (induced current)
กระแสไฟฟ้านี้เองที่ทำให้เส้นลวดร้อนขึ้นจนทำให้ผิวหนังที่สัมผัสกับลวดเกิดเป็นรอยไหม้
คำอธิบายแบบที่ 2 :
ในกรณีของกระแสที่ไหลมาตามพื้น (ground current) อันเนื่องมาจากแรงดันช่วงก้าว (step voltage) กระแสนี้เมื่อวิ่งเข้าสู่ตัวคนนั้นมีทางเลือกหลายทาง เช่น
ในบรรดาทางเลือกเหล่านี้ โลหะมีความต้านทานไฟฟ้าต่ำที่สุด
ดังนั้น จึงได้รับส่วนแบ่งกระแสไฟฟ้าไปในปริมาณมาก
เส้นลวดที่ไฟฟ้าวิ่งผ่านนั้นจะร้อนขึ้นตามหลักทางฟิสิกส์
ส่งผลให้เกิดรอยไหม้ตามข่าวนั่นเอง!
ในทางปฏิบัติ การเกิดได้ทั้งสองกรณีพร้อมๆ กัน
ประวัติของบทความ
แต่เดี๋ยวนี้บราเซีย เขาใส่โครงแบบไม่ล่อฟ้าแล้วค่ะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. ห้ามสาบาน
2. ปฎิบัติตน ให้ถูกต้องตามคำแนะนำของพี่ชิว เมื่อฟ้าผ่า
ขอขอบคุณอาจารย์บัญชา...
อ่านเป็นประจำครับ และเห็นที่ผิดด้วย(ไม่ได้ตั้งใจหาเรื่องนะครับ คนอื่นก็คงเห็นเหมือนกัน)
คุณควรทำตำอย่างไรเพื่อไม่ให้ถูก 'ฟ้าผ่า' ?
ทั้งสองตำแหน่งเลยครับ (คัดลอกมาแน่ ๆ เลย)
ขอบคุณครับ สำหรับความรู้ดี (สำหรับหนังสือด้วย)
โอ - อุทัย : ขอบคุณมากครับ พี่แก้ไขแล้ว :-)
อาจารย์หมอวัลลภ : ใช่แล้วครับ ปัจจัยสำคัญคือ ความสูง ส่วนโลหะชิ้นเล็กๆ ที่ติดกับร่างกายนี่แทบไม่มีผลเลย แต่เรื่องนี้เราเข้าใจผิด และสอนผิดๆ กันมาตลอดครับ
เดอ - นักลงทุนเงินน้อย : หากเราอยู่ในรถ หรือกรงโลหะ (เรียกว่า Faraday Cage) กระแสไฟฟ้าจะไหลไปตามโลหะเกือบทั้งหมด (ในกรณีของรถคือตัวถัง) ทำให้เราไม่ได้รับอันตรายครับ
แต่น่าสนใจเหมือนกัน หากมีคนถามว่า อ้าว! แต่ล้อที่สัมผัสพื้นเป็นยางไม่ใช่เรอะ? ตอบไงดีเนี่ย...ช่วยคิดหน่อย :-)
สุขสันต์วันสงกรานต์ and สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ