"เราควรทำให้ทุกวันเป็นเหมือนวันสุดท้ายของชีวิต เพราะนั่นแปลว่าเราต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพราะไม่มีวันพรุ่งนี้ให้แก้ตัวอีกต่อไปแล้ว" ได้อ่านประโยคนี้ซึ่งแนวคิดในการทำงานอุทิศตนของท่านผู้นี้แล้ว ความทดท้อ ความรู้สึกว่า "เราทำเกือบตายไม่เห็นได้อะไรเลย" หายไป เกือบจะทันที เพราะสิ่งที่เธอทำมาก ๆ ๆ มิใช่เพื่อตัวเองเลย ความสามารถของเธอหรือ หากเธอขายความรู้ความสามารถ เธอน่าจะมีโอกาสเป็นมหาเศรษฐีได้นะ นี่คือความประทับใจจากการได้มีโอกาสการเรื่องราวของเธอ เภสัชกรหญิง ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์
อเมริกานำชีวิตเภสัชกรหญิงไทยสร้างเป็นละครบรอดเวย์ (แต่คนไทยไม่รู้จัก)
เภสัชกรยิปซีไทย ผู้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ที่เร่ร่อนไปทั่วแอฟริกา
ชีวิตการทำงานของเธอถูกเยอรมนี ฝรั่งเศสนำมาสร้างหนังและอเมริกานำไปสร้างเป็นละครบรอดเวย์
มียาตัวหนึ่ง จากเดิมบริษัทอื่นเขาขาย แคมซูลละ 284 บาท แต่ดิฉันผลิตออกมาขายได้ในราคาแคปซูลละ 8 บาท
ที่ไนจีเรีย คืนเดียว ดิฉันถูกจี้ถึง 5 ครั้งระยะทาง 20 กม. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชม. เพราะมัวแต่โดนจี้
มีคนยิงระเบิด โดยเป้าหมายคือบ้านพักของดิฉันแต่เขากะพลาดไปหน่อย เลยไปตกข้าง ๆ บ้าน
นั่นคือข้อความที่จั่วหัวบนหน้าปกและหัวกระดาษแต่ละหน้าเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ เภสัชกรหญิง ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ จากหนังสือคู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 565 ประจำวันที่ 1- 10 พฤษภาคม พ.ศ.2550 จากการจั่วหัวดังกล่าวทำให้เกิดความสนใจเลือกอ่านเรื่องของเธอเป็นอันดับ 2 ต่อจากคำทำนายทายทักที่ติดนิสัยที่จะต้องเหลือบดูสักนิดก่อนจะไปหน้าอื่น ๆ
เธอเป็นชาวเกาะสมุย แต่เรียนระดับมัธยมศึกษาที่กรุงเทพ จบเภสัชศาสตร์จาก ม.เชียงใหม่ ปริญญาโท เภสัชวิเคราะห์ที่ Strahclyde ปริญญาเอก เภสัชเคมี มหาวิทยาลัย Bath ประเทศอังกฤษ
ตำแหน่งหน้าที่การงานของเธอเริ่มจากอาจารย์มหาวิทยาลัย สู่ตำแหน่งสุดท้ายในเมืองไทยคือผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา
เธอเริ่มศึกษาทดลองผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ 2535-2538
ผลคือ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลก ที่ผลิตยาชื่อสามัญว่า "ยาเอดส์"ในปี 2538
แต่ผลผลิตของเธอกลับส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์มหาศาลของผูผลิตยารายอื่น ๆ ชื่อของเธอจึงถูกบรรจุอยู่ในแบล็กลิสต์ของบริษัทยาทั่วโลก (เพราะราคายาของเธอถูกมาก ๆ นั่นเอง) ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลหลายครั้ง แต่เธอรอดมาด้วยพันธมิตรทั่วดลกเช่นกัน
แต่เพราะเธอเก่งและดี จึงไม่พร้อมที่จะเรียกร้องผลประโยชน์หรือนำผลงานไปต่อรองแลกเปลี่ยนอะไร เพราะเป้าหมายของเธอคือช่วยเหลือมนุษย์โลกผู้ยากไร้โดยไม่หวังผลตอบแทน สุดท้ายเธอจึงเลือกที่จะไปถ่ายทอดความรู้ในการผลิตาต้านไวรัสเอดส์ให้กับกลุ่มประเทศยากจนในแอฟริกา โดยเริ่มจากคองโก แทนซาเนีย ซูดาน และประเทศอื่น ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งในการดำเนินการ การเดินทางเป็นเงินส่วนตัวของเธอ
เธอเป็นหญิง เธอเป็นคนเก่ง เธอเป็นคนดี
เธอเข้มแข็ง แกร่ง และมุ่งมั่น
ขอชื่นชมเธอ ด้วยใจศรัทธา ได้แต่เพียงชื่นชมศรัทธา
แต่มิอาจเลียนแบบ
ขอบคุณ
ถูกล่อให้แวะมาน่ะค่ะ
ชอบข้อความนี้เช่นกันค่ะเมืองไทยของเรามีคนที่ดีๆอีกมากที่ทำงาน
และไม่หวังสิ่งตอบแทนทำเหมือนปิดทองหลังพระขอยกย่องทุกๆท่านค่ะ
สวัสดีค่ะ muemai ว่างๆ แวะมาอีกนะคะ