ความในใจของใครสักคน : เวทย์


อ่านกลอนลุงเวทย์ (ลุงเวทย์ คือ อดีต
หนึ่งในสี่มือทองนักกลอนธรรมศาสตร์ รุ่นสอง)

  1. กลอน ลำนำเลือด(นักกฎหมาย)
จากหนังสือ ข้างกองไฟ : เวทย์</span></a>
  2. สาวเอย…..(แม้นแผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย) :
เวทย์</span></a>
  3. สาวเอย…..(บทเรียนก่อนวิวาห์) :
เวทย์</span></a> 
  4. สาวเอย…..(ปากเสือ-ปากหมา)
เวทย์</span></a> 
  5. ซอแสนกล : เวทย์ 
  6. ฝันดี : เวทย์ 
  7. กลบท นายโรงลืมกรับ ตอน 2 : เวทย์  
  8. อ่านบันทึก กลบท นายโรงลืมกรับ ตอนที่ 1 : เวทย์+กวิน+ม้าก้านกล้วย+เชษฐภัทร
  9. สาวเอย…..(ราคา-รอยราคี) : เวทย์
10. ดัด : เวทย์
11. ความในใจของใครสักคน : เวทย์
12. พันธะที่ละเลย

กลอน : ความในใจของใครสักคน  หน้า 47-48
แต่งโดย : เพิ่มบุญ (เสริมศักดิ์) เปลี่ยนภู่ (นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,เนติบัณฑิตไทย)
นามปากกา : เวทย์
หนังสือชื่อ : ข้างกองไฟ ( สำนักพิมพ์พรศิวะ, กรุงเทพฯ.พิมพ์ครั้งแรก 2547 . 116 หน้า)

เอาตัวอย่างวางไว้ใช้เป็นแบบ
ความคับแคบของกรอบเอาครอบหัว
สองขานายไว้กอดพารอดตัว
เห็นใครชั่วเฉยไว้ย่อมให้คุณ

แค่เช้าชามเย็นชามตามประสา
ยังก้าวหน้าเลื่อนตำแหน่งเพราะแรงหนุน
ยอมลิ้นสากปากเสริมเพิ่มแรงบุญ
ช่วยค้ำจุนยศศักดิ์ไม่ดักดาน

ต้องพลิกแพลงแสร้งโง่ตามโอกาส
อวดฉลาดเกินนายกลายร้าวฉาน
ควรรู้จักรู้ใจใฝ่ “รู้งาน”
บรรณาการจัดหามาประเคน

หวังนายรักเรียกใช้อยู่ใกล้ชิด
ต้องอุทิศเวลาอย่าล้อเล่น
ตามต้อยต้อยคอยเฝ้าเหมือนเข้าเวร
จึงผ่านเกณฑ์คัดกรอง “คนของนาย”

แม้งานหลวงละเลยเคยผิดพลาด
แต่งานราษฎร์อย่ามีที่เสียหาย
มีปลอกคอคุ้มกันอันตราย
รับสบาย “สองขั้น” กันทุกปี

อุดมการณ์บริสุทธิ์เป็นจุดอ่อน
เก็บไว้ก่อนศรัทธาในหน้าที่
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
ทุกวันนี้รับผิดชอบแค่ครอบครัว

หมายเลขบันทึก: 214266เขียนเมื่อ 6 ตุลาคม 2008 00:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีครับคุณกวิน

ติดตามอ่านตลอด

ประโยคสาวเอย จะบอกให้ สมัยสัก 30ปีร่วม ในหนังสือ พิมพ์สยามรัฐคุณนเรศ นโรปกรณ์ ใช้เป็นหัวคอลัมน์

ประเด็น " แม้แผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย อย่ามีคู่มันเสียเลยจะดีกว่า" วิพากษ์กันมาก

มีประโยคหนึ่ง ไม่ทราบไครแต่ง บอกว่า" แม้นแผ่นดินสิ้นสาวที่พึงสอด จะจำใจจอดกันไปทำกัน "อาจผิดพลาด ขออภัย

ขอร่วมรำลึกเหตการณืด้วย ขอบคุณมากครับท่าน

ขอบคุณครับ  บังหีม กลอนเหล่านี้กวิน ขโมย ลุงเวทย์มาลงน่ะครับ  ขอกับปากลุงเวทย์แค่บทเดียว คือบท ดัด ในครั้งนั้นกวินจะนำมาเขียนประกอบบทความนิดหน่อย แต่เขียนก่อนขอทีหลัง ลุงเวทย์ เลยจำใจ อนุญาต

การที่นำกลอนลุงเวทย์มาลง ณ ที่นี้เพราะเห็นว่า กลอนเหล่านี้ลุงเวทย์เคยโพสไว้ที่เวปไซต์หญิงไทย เวปไทยโพเอ้ม ก่อนที่จะรวบรวมตีพิมพ์เมื่อปี 2547 ปีนั้นแม่น้ำรำลึก ของ เรวัฒน์ ได้ กวีซีไรต์ หลังจากพิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ลุงเวทย์ส่งมาให้ กวิน 1 เล่มพร้อม เขียนไว้ที่หน้าปกใน ความว่า "มอบให้ เต๋า เป็นที่ระลึกกลอนหลายๆ บทของลุงเวทย์ เปรียบเสมือนกองไฟที่จุดส่องสว่างในสังคมอันมืดมืด

ที่นำมาโพสไว้ เจตนาก็เพื่อ ว่าเผื่อมีผู้สนใจศึกษาลีลากลอน เมื่อสมัย 30 กว่าปีก่อน เพราะสมัยนี้ ทางกลอน แตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก จนน่าเป็นห่วง เป็นห่วงว่ากลอนแปดจะกลายเป็นกลอนเปล่า

ขอบคุณ บังหีม  ที่ติดตามอ่านครับ

สวัสดีค่ะคุณกวิน

อ่านความใจในใจ....แล้ว ก็คล้ายความในใจของตัวเองเหมือนกันค่ะ...(^__^)...

ต้องพลิกแพลงแสร้งโง่ตามโอกาส
อวดฉลาดเกินนายกลายร้าวฉาน
ควรรู้จักรู้ใจใฝ่ “รู้งาน”
บรรณาการจัดหามาประเคน

หวังนายรักเรียกใช้อยู่ใกล้ชิด
ต้องอุทิศเวลาอย่าล้อเล่น
ตามต้อยต้อยคอยเฝ้าเหมือนเข้าเวร
จึงผ่านเกณฑ์คัดกรอง “คนของนาย”

มีรุ่นพี่เคยสอนคนไม่มีรากตั้งแต่มาทำงานใหม่ ๆ ว่า...ถ้าอยากรุ่งเรืองในการเป็น "ข้าราชการ" ถึงรู้มากก็ต้องทำเป็นไม่รู้ ห้ามอวดฉลาด ถ้าให้ดีต้องรู้ใจว่านายชอบหรือไม่ชอบอะไร ทำตามที่นายสั่งเท่านั้น และจะต้องมี "นาย" เพื่อจะได้เป็นปากเป็นเสียงให้เราในการขอสองขั้น สามขั้น เลื่อนซี....

ฟังแรก ๆ แล้วทึ่งปนอึ้ง...ขนาดนี้เชียว...ท่าทางเราต้องทำใจแล้ว คงไม่รุ่งแน่ในการเป็นข้าราชการ... 5555....

ชอบกลอนลุงเวทย์จังเลย ชักติดใจแล้ว...

ขอบคุณค่ะ...^_^...

สวัสดีครับคนไม่มีราก กลอนนี้ลุงเวทย์แต่งเอาไว้โดยนำสิ่งที่อยู่ในใจของใครหลายๆ คน มาตีแผ่ ชื่อหนังสือ ข้างกองไฟ นี้ ตั้งไว้ได้อย่างเหมาะสมว่ามั้ยครับ เพราะเนื้อหาในหนังสือกลอน ข้างกองไฟ นี้ส่องสว่าง ให้หลายๆคนได้มองเห็นความเป็นไปในสังคมของเรานั่นเอง ล่ะครับ

...ลุงเวทย์ช่างมีบทกลอนสอนใจ...ทิ่มแทงใจของบางคนที่เป็นนาย.....ความในใจของใครสักคน  ดีจริงๆเหมาะมากๆ  ชัดเจนดีค่ะ........

ขอบคุณพี่นุส nussa-udon มากๆ ครับ กลอนนี้ สะท้อนภาพ บางอย่างของสังคมการทำงานไว้ เอาไว้ประยุกต์ใช้ได้ครับ

+ สวัสดีจ๊ะ..กวินน้องรัก...

+ อ่านกลอนลุงเวทย์แล้วโอ้ย...โดนใจค่ะ...

+ ก็พี่อ๋อยนะ...เถียงเจ้านายประจำ...เถียงด้วยเหตุและผล...เถียงกันบนหลักการนี่แหละ...ว่าแล้วหลักการและเหตุผลชนะ...เจ้านายยอม...เด็ก ๆ ได้ผลประโยชน์ถ้วนทั่ว...กระหยิ่มยิ้มย่อง...สบายใจ...ปรากฎว่าคนทำงานแบพี่ไม่มีอะไรบวกเป็นพิเศษในความดีความชอบ...แต่คนที่คอยตามเจ้านาย..โดยไม่เปลืองเนื้อตัวใด ๆ ในการทำงาน...นอกจากลิ้นที่สากขึ้น...สบายกันไป...

+ อิ อิ...แต่พี่ไม่สนใจ...เออว๊ะ...กรีดยางเอาก็ได้ถ้าแค่อยากได้เงินเยอะๆ ...เอาแค่รู้ว่าประโยชน์ตกที่เด็กก็สบายใจเป็นไหน ๆ ...

+ พี่ว่าพี่รู้ว่าพี่ควรตอบแทนแผ่นดินเกิดนี้ของพี่เช่นไร...พี่ก็สุขใจแล้วค่ะ...

+ อิ อิ...คนทำงานจริงมักไม่รุ่งหรอกค่ะ...แต่ได้ความสุขใจมากกว่าค่ะ..

+ ด้วยความคิดถึงค่ะ...

ครับ พี่อ๋อย ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะครับ สบายดีนะ ครับ :) พี่อ๋อยน่ะคือคนที่มี จิตอาสา อยู่เต็มเปี่ยม ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหนแล้วนะครับ แค่เพียงเราภูมิใจในความเป็นเรา ก็สามารถสร้างประโยชน์สุขให้ผู้อื่นได้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท