อภัยทานคือคำสอนของพระพุทธเจ้า


อ่านทั้งหมด ที่เวป http://khunsamatha.com/

อภัยทานคือคำสอนของพระพุทธเจ้า


ท่านสาธุชนทั้งหลายเมื่อเอ่ยถึงเรื่องทานคนส่วนมากมักจะเข้าใจในทำนองเดียวกันว่าก็คือการให้เงินให้ทองให้ข้าวของสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคเท่านั้น แต่อันที่จริงทานมิได้หมายเอาเพียงเท่านี้ การให้แบบนี้ในพระพุทธศาสนาเรียกว่าอามิสทาน


       ยังมีการให้อย่างที่สองคือการให้ความรู้ความเข้าใจ การให้คำปรึกษา การแนะนำแนะแนวในเรื่องต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตเพราะว่าโดยปกติแล้วคนปกติเราที่จะเก่งไปเสียทุกเรื่องทำได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องอาศัยการชี้แนะให้คำปรึกษาจากคนอื่นนั้นคงจะมีน้อยเพราะโดยที่จริงแล้วคนเราจะถนัดบางอย่างหรือเก่งบางอย่างแต่บางอย่างก็ไม่ได้เก่งไม่ถนัดเลยต้องอาศัยคนอื่นจะทำงานหรือเรื่องนั้น ๆ ให้เสร็จลงได้ การให้ความรู้นี้ ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่าธรรมทาน


      อามิสทานช่วยแก้ปัญหาเรื่องความขัดสนยากจนในด้านของกินของใช้ได้ ธรรมทานช่วยแก้ปัญหาได้หลายด้านยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือแก้ปัญหาเรื่องภพชาติการเวียนว่ายตายเกิดได้  


       แต่ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีอยู่ในสังคมมนุษย์ปัจจุบันก็คือปัญหาการทะเลาะแก่งแย่งแบ่งพรรคแบ่งพวกขาดความสามัคคีจะเอาแพ้เอาชนะกันจนอีกฝ่ายหนึ่งสูญพันธุ์ไปจากโลกจึงจะยอมเลิกราปัญหาแบบนี้ต้องใช้อภัยทานจึงจะแก้ไขได้

จะขอยกตัวอย่างเรื่องราวในพระพุทธศาสนาที่มีการทะเลาะแก่งแย่งกันจนด่าทอกันและเตรียมพร้อมที่จะรบราฆ่าฟันกันในหมู่พระประยูรญาติของพระพุทธองค์ในเรื่องการแย่งน้ำในแม่น้ำโรหิณีเพื่อทำการเกษตร


พระพุทธเจ้าเสด็จมาตรัสห้ามโดยสรุปก็คือทั้งสองฝ่ายคิดถึงเหตุผลแล้วรู้ว่าถ้าการเกิดฆ่ากันก็จะทำให้เกิดความเสียหายมากในที่สุดแล้วก็ยอมอภัยให้กันได้ เหตุการณ์ก็จบลงด้วยดีไม่มีใครต้องเดือดร้อนล้มหายตายจาก

มีทานอีกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นทานที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ทานทั้งสองข้างต้นนั้นก็คืออภัยทานหมายถึงการให้อภัยไม่ถือโทษโกรธเคืองไม่จองเวรจองกรรมต่อใครๆบางครั้งบางเหตุการณ์อภัยทานนี้อาจจะมีความยิ่งใหญ่และสำคัญมากกว่าทานทั้งสองเสียด้วยซ้ำ เพราะเป็นที่มาแห่งทานทั้งสองนั้นได้  


ถ้าไม่ให้อภัยแล้วไหนเลยจะให้ข้าวของเงินทองช่วยเหลือพวกศัตรูหรือผู้ที่ตนเกลียดได้ถ้าไม่ให้อภัยแล้วไหนเลยจะให้ความรู้ให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์แก่พวกคนที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับตนเองได้


       แต่ที่กล่าวอย่างนี้มิใช่จะต้องการไปขัดแย้งกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่าสพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ แปลว่าการให้ธรรมคือความรู้ย่อมชนะการให้สิ่งทั้งปวง  และมิใช่ว่าทานทั้งสองนั้นจะไม่มีประโยชน์ 


       ที่จริงแล้วการให้อภัยเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปสำหรับกัลยาณชนคนดีงามทั้งหลาย แต่การให้อภัยนั้นต้องมีเหมือนกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คือถ้าฝ่ายหนึ่งให้อภัยแล้วอีกฝ่ายหนึ่งยังจ้องที่จะทำลายล้างผลาญกันอยู่การให้อภัยมันก็เกิดไม่ได้

มีเรื่องแปลกอยู่สำหรับมนุษย์ปุถุชนทั่วไปที่ต้องการให้คนอื่นให้อภัยแก่ตนเองไม่ต้องมาโกรธไม่ต้องเกลียดไม่ต้องคิดทำร้ายไม่ต้องมาเบียดเบียนตนถึงแม้ตนจะไปฆ่าเขาก่อนทำร้ายทำลายไปด่าไปว่าเขาก่อนก็ตามหรือแม้เรื่องที่ตนทำผิดต่าง ๆ ก็ตามจะมากน้อยอย่างไรก็ต้องการให้คนอื่นอภัยให้ แต่ถึงคราวที่ตนจะต้องให้อภัยคนอื่นบ้างกลับทำไม่ได้ คือจะคิดว่าตนเองถูกหมดคนอื่นผิดหมดแล้วอภัยทานจะเกิดได้อย่างไร

แต่อีกเรื่องคือเรื่องที่พระเจ้าวิทูฑภะฆ่าล้างเผ่าเจ้าศากยะสาเหตุมาจากการถูกดูหมิ่นเหยียดหยามจากเจ้าศากยะในเรื่องชาติกำเนิดเรื่องนี้พระพุทธเจ้าเสด็จมาทรงห้ามกองทัพพระเจ้าวิทูฑภะถึงสองครั้งสองครา แต่เมื่อถึงครั้งที่สามทรงเห็นว่ามันเป็นเรื่องของกรรมเก่าของพวกเจ้าศากยะไม่อาจจะทรงห้ามได้ จำเป็นต้องที่จะให้เป็นไปตามกรรม สุดท้ายแล้วเพราะไม่มีอภัยทานจึงเกิดการนองเลือดต้องล้มหายตายจากกันจำนวนมาก


       ผู้ที่เป็นตัวอย่างในเรื่องอภัยทานคงไม่มีใครเกินพระพุทธเจ้า แม้อดีตชาติที่ผ่านมาจะกี่ร้อยกี่พันชาติก็ตามถึงจะถูกพระเทวทัตจองเวรทำร้ายขนาดไหนก็ตาม แม้ในปัจจุบันที่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วพระเทวทัตก็คงตามทำร้ายทำลายพระพุทธเจ้าเหมือนเดิมจนวาระสุดท้ายพระเทวทัตก็ถูกแผ่นดินสูบ ก็ไม่ปรากฏแม้แต่นิดเดียวว่า พระพุทธเจ้าทรงผูกเวรจองเวรกับพระเทวทัต ทรงให้อภัยได้เสมอ


ถ้าจะคิดง่าย ๆ ในเรื่องอภัยทาน เราในฐานะเป็นชาวพุทธนับถือพระพุทธเจ้าศึกษาเรียนรู้ธรรมมามาก


การอภัยทานเป็นความประพฤติที่คนประเสริฐที่สุดในโลกคือพระพุทธเจ้าทรงประพฤติเป็นแบบอย่างมาแล้ว


พวกเราจะให้อภัยเพราะถือว่าได้ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเราก็จะเป็นคนประเสริฐเหมือนอย่างพระองค์ท่านได้


      หรือเราจะมาคิดถึงส่วนรวมที่จะต้องมาเสียหายเพราะการทะเลาะวิวาทกันของพวกเราก็พอจะให้อภัยหยุดทะเลาะกันได้  


      หรือไม่ก็มาคิดถึงเรื่องเวรกรรม เมื่อเราทำกรรมกับเขาสักวันหนึ่งเขาก็ต้องทำกับเราคืนบ้างซึ่งมันอาจจะแรงกว่าที่เราทำกับเขาก็ได้ หรือต้องไปตามใช้เวรกรรมกันอย่างไมมีที่สิ้นสุด



      หรือมาคิดถึงมรณะคือความตาย ซึ่งต่างคนก็ต่างจะตายอยู่แล้วทำไมต้องมาทะเลาะกันชิงกันทำเรื่องไม่ดี  ไม่ใช่การแข่งกันทำความดี ก็พอที่จะให้อภัยกันได้


       ท่านสาธุชนอภัยทานเป็นเรื่องดีเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่กำจัดเวรภัยได้จริง ถ้าท่านไม่อยากมีเวรมีภัยต่อไปทั้งในชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไป ท่านต้องรู้จักการให้อภัย ด้วยความคิดว่า บุญบาปมีจริง ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ทำกรรมได้กรรมทำเวรได้เวร



ขอกราบขอบพระคุณ  พระศรีรัชมงคลบัณฑิต  ผู้เขียนบทความ

อาจารย์ประจำสังกัดคณะศาสนาและปรัชญา มมร.

 

.............................................

 

อ่านบทความทั้งหมดได้ที่ http://khunsamatha.com/

พุดคุยสนทนาธรรมในประเด็นต่างๆ กันได้ที่ห้องสนทนา  http://forums.212cafe.com/samatha/

หมายเลขบันทึก: 216031เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2008 15:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขาพเจ้าจะนำไปน้อมปฎิบัติในเรื่อง อภัยทาน ขอร่วมอณุโมทณาสาธุ

เรื่อง อภัยทาน ในปัจจุบันนี้คงหายากในจิตใจของมนุษย์ในยุคนี้ นับไว้จะเสื่อมทรามลง โดย

เฉพาะการเมืองที่หาแต่สิ่งมาหักล้างกัน ต่อไปก็คงจะหักล้างกันด้วยความรุนแรงถึงฆ่าล้างกันทั้งที่เป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน ตัวอย่างมีให้เห็นกันในหลายๆประเทศ อนิจจังมนุษย์

ขอกราบคาระวะที่พระคุณท่านมาโปรด

ทำได้ต้องใช้เวลา

อภัยทานก็อยู่ในธรรมทาน แต่ให้ธรรมเป็นทานจะให้กุศลมากกว่า เช่นผิดศีลฐานพูดปดหรือประพฤติผิดในกาม มีชู้ เป็นต้นให้อภัยทานแล้ว ผู้กระัทำก็อาจทำผิดต่อไปอีก เพราะทำแล้วก็ได้รับการอภัยและจะต้องรับกรรมตกนรกอีก แต่ถ้าให้ธรรมเป็นทานให้รู้ผิดชอบชั่วดี ก็จะเลิกกระัทำผิดและได้อานิสงค์ที่ได้เลิกกระทำผิดด้วยคนที่ให้ธรรมก็ได้กุศลที่ให้ธรรมเป็นทาน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท