ฤๅ..จะปล่อยประโยชน์มหาศาลให้ห่างไกล


ทำไมถึงต้องฝึกสติ

บันทึกนี้เป็นบันทึกแรกของผม อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลย ถ้ามีเวลาที่จะอ่านเพียงบันทึกเดียว อยากให้ได้อ่านบันทึกนี้ บางทีอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนอ่าน จึงนำมาเสนออีกครั้งเนื่องในวันปีใหม่นี้ครับ

ทุกปัญหามีทางออก ถ้าคิดเป็น

ลูกสาวคนโตของผมกำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย คณะเภสัชศาสตร์ ปีที่ ๔ มาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเรียน เนื่องจากได้คะแนนไม่ดีในบางวิชาที่อาจจะทำให้ต้องเรียนซ้ำเวลาในภาคฤดูร้อน ซึ่งเป็นเวลาช่วงนั้นจะต้องไปเป็นนักศึกษาฝึกงานกับบริษัทขายยาในสหรัฐ อเมริกา ตอนนั้นผมได้มีโอกาศดูวีซีดีของ ดร.สนอง วรอุไร เรื่องชีวิตหลังความตายซึ่งได้รับเป็นธรรมทานมาจากวัดป่าชิคาโก ความตอนหนึ่งได้บรรยาย ว่าการทำสติเพียงวันละ ๑๕ นาทีได้ช่วยเหลือการเรียนของลูกศิษยท่าน สมัยที่ท่านยังเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เรียนสำเร็จ

 

 

ทำให้ผมนึกถึงเมื่อตอนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตรปี ๓ เป็นเวลาปิดภาคฤดูร้อน ผมได้มีโอกาสบวชกับพี่ชายที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญเป็นเวลา ๔๕ วัน และพี่ชายไม่ขัดข้อง เพราะได้เตรียมของทุกอย่างไว้หมดแล้ว คุณแม่มีความสุขมาก ที่มีโอกาสเห็นลูกชายสองคนได้บวชเรียนและปฏิบัติสมถะกรรมฐาน อันเป็นบุญสุงสุดของพุทธศาสนา พร้อมกัน หลังจากบวชได้ ๑๕ วัน มหาวิทยาลัยก็เปิดเทอมพอดี ผมต้องขาดเรียนต่ออีก ๓๐ วัน และในเทอมนั้นผมได้ลงทะเบียนเรียนวิชากฎหมายของคณะนิติศาสตร์ ๔ วิชา คณะรัฐศาสตร์ การปกครอง ๑ วิชา ซึ่งก่อนบวชผมได้เตรียมซื้อหนังสือเรียนเพื่อจะนำไปเรียนด้วยตัวเองที่วัด แต่พอบวชเข้าจริงๆก็ไม่ได้อ่านเลย ตำรากฏหมายที่เตรียมไว้ก็วางกองอยู่บนพื้นกุฐิ ตลอด ๔๕ วันได้ปฎิบัติวิชาธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ โดยในระหว่างนั้นได้ใช้เวลา ๗ วันผลัดกันกับพระพี่ชายเข้ากรรมฐานคนเดียวในกุฎิ ไม่มีการพูดคุย ปิดกุฎิอยู่คนเดียว พิจารนาแต่องค์พระให้อยู่ศูนย์กลางกาย บวชครบ ๔๕ วันก็ลาสิกขาบท เช้าวันแรกหลังจากสึกได้ฟังเสียงเพลงวิทยุของเพื่อนบ้าน เสียงเพลงช่างเพราะจริงๆ คงเป็นเพราะฝึกสมถะมานาน อารมณ์คงเป็นหนึ่งเดียว

เมื่อไปเรียนวิชากฎหมาย ของคณะนิติศาสตร์ กับอาจารย์ไตรรงค์ไม่ว่าอาจารย์พูดอะไรมาดูเหมือนเสียงจะเข้าในจิต เข้าใจและจำได้ดี ผลการเรียนเทอมนั้นผมได้ A สี่วิชาของคณะนิติศาสตร์ ได้ B หนึ่ง วิชาของวิชารัฐศาสตร์ รู้สึกแปลกใจว่าทำไมได้คะแนนดีเช่นนั้น คิดไปเองว่าเรียนนิติศาสตร์คงง่าย และเราก็ชอบเป็นทุนอยู่แล้ว หลังจากฟัง ดร.สนองจึงได้คิดว่า การฝึกสติเท่านั้นน่าจะเป็นทางออกของลูกสาวได้

ด้วยความคิดนี้ ได้ให้ลูกสาวติดต่อกับอาจารย์ไตรพิตราทางอีเมล์ ขอให้ท่านช่วยสอนกรรมฐานให้ในช่วง เดือนธันวาคม และอยากให้ลูกได้ปฏิบัติธรรม ๖–๗ วัน ซึ่งน่าจะได้ผลมากกว่า และวัดต่างๆในชิคาโกก็ ไม่มีวัดใดที่มีการบฏิบัติกรรมฐานเกิน ๓ วันเลย แต่ขณะนั้นอาจารย์ไตรพิตราไม่ว่าง จะต้องรอเป็นเดือนเมษายน

Spring Break เมษายน ลูกสาวได้ไปปฏิบัติธรรม ๖ คืน ๗ วัน พออยู่ได้ ๓ วัน ก็โทรมาขอกลับเร็วขึ้น เพราะเบื่อมาก ผมบอกให้ลูกอดทน ลูกตอบว่า You are mean to me. แต่ก็มีความอุตสาหะอยู่จนครบกำหนด แล้วก็กลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย ผลการเรียนเทอมนั้น ลูกสาวดีใจมากเพราะวิชาที่เธอคิดว่าจะได้ D ก็ได้ C, และวิชาที่คิดว่าจะได้ C ก็ได้ B เพื่อน ที่ช่วยติวก็ประหลาดใจ บอกเธอว่าเมื่อก่อนสอนอะไรหลายครั้งถึงจึงจะเข้าใจ แต่ตอนนี้พูดครั้งเดียวก็รู้เรื่อง และลูกยังได้คะแนนสูงกว่าคนช่วยติวด้วยในบางวิชา  ลูกสาวซึ่งไม่เคยเชื่อว่าการปฏิบัติกรรมฐานจะช่วยได้ แต่ผลออกมาดีเกินเหลือเกินคาด เลยมีความศรัทธาไปปฏิบัติในปีที่สองอีกครั้ง ฤดูร้อนในปีนั้น ลูกสาวไม่ต้องเรียนซ้ำชั้น ได้ไปทำงานเป็น Pharmacy Intern สมใจ

* ตอนนี้เรียนจบปีห้าแล้ว  กำลังจะฝึกงานปีสุดท้าย ตามโรงพยาบาลและตามบริษัทร้านขายยา ได้ไปเรียนกรรมฐานกับอาจารย์ไตรพิตราเป็นครั้งที่สามในปีนี้

** จบปริญญา Pharm D เดือนธันวาคม ๒๕๕๔

** Passed the Pharmacy License  02/20212

** Passed the Pharmacy Illionois State Law 05/18/2012

** Got the first Pharmacy Job 05/21/2012

** Donated the first Check to Wat Luangta Maha Buo Colorado 

อ่านข้อเขียนของเธอ ไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นธรรม  

จดหมายของลูกสาวคนโต เขียนขอบพระคุณอาจารย์ไตรพิตรา

Dearest P’Dtuk,

Thank you for bringing Buddhism back into my life. I was in a bad place when I first met you, and you cleared all my questions up and put be back into a calmer place. Even though, I was only with you for only a week, I changed and saw the world in a different way. You taught me to look at Buddhism from your teachings in a clear manner that was SIMPLE. Yes you may have had to tell me about a million times, the same thing over and over, but in the end every time I needed to hear it THAT much more. I will also agree with the rest, you are the greatest teacher, and the most important part is that you’re MY teacher. I believe fate brought us together, and when I was younger I wrote my name in your book for a reason. We talk on the phone for DAYS and even SEVERAL times per day. You’re always there to hear my stories and I can trust you. Buddhism is a way of life….and you’ve brought it back into my life. I am grateful for meeting you and am very grateful for being your student. I NEVER in a million years thought I could connect with someone so much older than me, but I can and always will. Happy Birthday. I Love You and ONLY wish you the very best. Thank you for all you have taught me…..and being the best friend anyone could ever have.

Love
Your student 2
Feb 21,2010

ป้าตุ๊กที่รัก

ขอบพระคุณที่ได้แนะนำดิฉันให้กลับมา รู้จักศาสนาพุทธอีกคะ ชีวิตมีแต่ความทุกข์ที่ตอนดิฉันได้พบกับป้าครั้งแรกป้าสามารถอธิบายคำถาม ต่างๆที่ดิฉันสงสัยมานาน คำตอบของป้าทำให้จิตใจของดิฉันสงบ มีความสุขมากขึ้น ความคิดของดิฉันเปลี่ยนไป แม้ว่าดิฉันได้พบกับป้าเพียงแค่อาทิตย์เดียว ป้าสอนให้ดิฉันได้รู้จักศาสนาพุทธด้วยคำพูดง่ายๆแต่ฟังแล้วเข้าใจแจ่มแจ้ง ถึงแม้ป้าต้องอธิบายให้ดิฉันฟัง อธิบายแล้วอธิบายอีกเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง ดิฉันก็อยากจะฟังอีก ต้องการฟังจริงๆคะ

บุญคงนำให้ป้าและดิฉันมาพบกัน ตอนเด็กๆดิฉันเขียนชื่อตัวเองด้วยลายมือโย้เย้ในหนังสือกรรมฐานที่ป้าเขียน ราวกับว่าได้รู้เรื่องหน้าว่าป้าจะต้องมาสอนดิฉันในอนาคต เขียนไว้ล่วงหน้าเลยคะ เราคุยกันทางโทรศัพท์เป็นวัน วันละหลายๆครั้ง ป้าเป็นกำลังใจให้ดิฉันเสมอเมื่อยามที่ดิฉันต้องการธรรมนำทางชีวิตคะ ป้าเป็นคนนำทางให้ดิฉัน

ชิวีตของดิฉันได้พบแสง สว่างของพระธรรม ดิฉันดีใจที่พบป้าและดีใจที่ได้เป็นลูกศิษย์ของป้า สุขสันต์วันเกิดนะคะ ขอให้ป้าพบแต่ความสุขคะ

รักป้า

ลูกศิย์ป้าคนหนึ่ง

วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

 

ต่อมาได้ส่งลูกสาวคนที่สองไป หลังจากกลับจากกรรมฐาน ดูลูกจะมีความรู้เรื่องศาสนาพุทธมากขึ้น บอกว่าพ่อควรจะไปลองดู วันกลับพาเธอไปทานไอสครีมที่ Daily Queen เธอ บอกว่าเห็นอะไรช้าไปหมด รถก็วิ่งช้า พอกลับมาถึงบ้านเห็นดอกไม้หน้าบ้าน บอกว่าดอกไม้สวยจริงพ่อ ซึ่งเมื่อก่อนนั้นไม่เคยสนใจเลย ผมรู้สึกดีใจ คิดว่าลูกคงจะมีสติดีขึ้น ผลการสอบ  Medical College Admission Test (MCAT) เพิ่มขึ้นจาก ๒๗ เป็น ๓๑

ดอกไม้หน้าบ้าน

 

* ขณะนี้(12 มกราคม 2554) มหาวิทยาลัยแพทย์ ๗ แห่งในอเมริกาตอบรับเธอให้เข้ามาเป็นนักศึกษาในปีการศึกษาหน้าแล้ว เชิญอ่านเรื่องผลานิสงส์แห่งบุญ เกี่ยวกับการสอบสัมภาษณ์ของเธอ

** เป็นนักศึกษาแพทย์ปีที่หนึ่ง ๒๕๕๔ ที่รัฐอิลลินอยส์

อ่านบันทึกล่าสุด กรรมฐานเปลี่ยนชีวิต  ที่เธอเพิ่งไปหาป้าตุ๊กเป็นครั้งที่สอง เมื่อวันที่ ๑ - ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๔

 

ลูกสาวคนที่สามได้มีโอกาสไปในตอนปิดเทอมภาคฤดูร้อน ๒๐๐๙ ก่อนมหาวิทยาลัยจะเปิดสามอาทิตย์ วันแรกลูกสาวร้องไห้เพราะเธอเจอแมงมุมในห้อง อาจารย์ถามว่าถูกพ่อบังคับมาหรือ ลูกตอบว่าไม่ แต่มีความทุกข์ในใจ แต่ลูกอยากจะมาเอง เพราะพี่สาวสองคนมาแล้วเธอต้องมาให้ได้ ด้วยความกรุณาของอาจารย์ไตรพิตรา จึงชวนไปดูหนัง กินข้าวข้างนอก แล้วพาไปเดินในสวนสาธารณะเพื่อสงบสติอารมณ์ พอลูกเริ่มดีขึ้น อาจารย์เริ่มสอนวิชาพุทธศาสนาให้เป็นการปูพื้นฐาน จากนั้นก็เริ่มต้นสอนกรรมฐาน ลูกอยู่ครบ ๗ วัน โดยมีข้อแม้ว่าขอนอนบนพื้น ข้างเตียงในห้องนอนอาจารย์ เพราะกลัวแมงมุมจับใจ เป็นนิวรณ์ที่อาจารย์ไม่เคยเห็น พอไปรับกลับลูกก็ไม่พูดอะไรเลยเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม นอกจากบอกผมว่า พ่อดีแต่พูดทำไมไม่มาปฏิบัติด้วยตัวเองหละ ผมบอกลูกว่า จะพยายาม ผลจากการที่ได้ปฏิบัติธรรมครั้งนี้ เมื่อผมบอกให้ลูกสาวปฏิบัติธรรมทุกวัน วันละ ๕ นาทีที่ห้องพักในมหาวิทยาลัย เธอเชื่อผมและพยายามทำ ผลการเรียนในเทอมแรก ได้ ๓.๕ ลูกบอกว่าในเทอมหน้าจะพยายามทำให้ดีกว่านี้ 

* ลูกสาวเพิ่งมาบอกเช้านี้(12 มกราคม 2554) ด้วยความตื่นเต้น เทอมนี้ได้ ๔.๐/๔.๐ เป็นครั้งแรก เธอดีใจมากๆ เกรดเฉลี่ยขึ้นมาเป็น ๓.๗๒ ลูกสาวคนที่สามเรียนมหาวิทยาลัยปีที่สอง เมเจอร์ เตรียมเภสัช 

** เป็นนักเรียนปีที่สาม ของหลักสูตรหกปี Pharm D ที่รัฐไอโอวา

จดหมายของลูกสาวคนที่สาม เขียนขอบพระคุณอาจารย์ไตรพิตรา

August 9th,2009

Dear PaaDtuk

How are you? I miss you already! I especially miss the tranquility of being at your home. I am very grateful to have had the opportunity to experience a seven day meditation retreat with you. You were a great mentor to me, and I’ve learned so much about my Thai culture and myself as a Buddhist. Your explanations were insightful and clear, unlike some explanations I have heard at the temple. Your work as a meditation teacher has inspired me to make meditation a part of my daily life. I cannot thank you enough.

I also cannot wait for you to come to Chicago so you can share your wisdom with my parents. I will try to come home from Iowa that weekend so that I can see you. Now more than ever, I find myself very interest in Buddhism. I plan to get a hold of that Buddhist Psychology book and learn more for myself. Thank you again for believing in me and teaching me. I cherish our week together and I hope that we keep in t ouch. May you have all the merits I have given you.

Love

Your Student

She is 18 years old was born in the US , has Thai Parents.
She did a week mediation retreat with me Aug, Sunday 2 - Saturday 8, 2009

 

๙ สิงหาคม ๒๕๕๒

ป้าตุ๊ก ที่เคารพ

ป้าสบายดีหรือเปล่าค่ะ
หนูคิดถึงป้าเสมอค่ะ
โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงความสงบและความสุขทีี่ได้รับ
เมื่อครั้งที่อยุ่ที่บ้านของป้าที่มิชิแกน
หนูรู้สึกว่าโชคดีมากได้มีโอกาศปฏิบัติกรรมฐาน ๗วันกับป้า
ป้าเป็นสุดยอดของกัลยาณมิตรของหนูคะ
หนูได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยและหน้าที่ของพุทธศาสนิกชน
ป้าอธิบายเรื่องพุทธศาสนาให้หนูได้เข้าใจอย่างชัดเจนและแจ่มแจ้งจริงๆ
ไม่เหมือนกับที่เคยได้ฟังจากวัด
การสอนกรรมฐานของป้าทำให้หนูอยากจะปฏิบัติธรรมให้ได้ทุกวัน
กราบขอบพระคุณป้าอีกครั้งคะ
อยากให้ป้าสอนธรรมให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่ชิ คาโก
ถ้าป้ามาชิคาโก ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ หนูจะพยายามกลับบ้านเพื่อมาพบป้าคะ
หนูอยากเจอป้ามากมากคะ
ตอนนี้หนูเรียนมหาวิทยาลัยที่ไอโอวาคะ
หนูมีความสนใจในพุทธศาสนาและจะหาหนังสือธรรมมาศึก ษาด้วยดัวเอง
ขอบคุณสำหรับกำลังใจและสั่งสอนหนู และเชื่อว่าหนูจะต้องทำได้
ขอบคุณที่ดูแลและเอาใจใส่หนูมาตลอดอาทิตย์ที่ได้อยู่กับป้า
หวังว่าหนูคงได้มีโอกาสติดต่อกับป้าอีก
ขอให้ป้าได้รับผลบุญทั้งหมดจากการปฏิบัติครั้งนี้ของหนู ร่วมกันนะคะ


ธรรมรักษาค่ะ
ลูกศิษย์ของป้า

 

ถึงคราวของพ่อ

การปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน ด้วยการเจริญสติต่อเนื่อง 7 วัน 7 คืน
At Colombiere Center, Clarkton, Michigan
วันที่ ๑๑ ตุลาคม - ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๒

เดือนตุลาคม ๒๐๐๙ พระอาจารย์ ดร.พระมหาถนัด อัตถจารี (Ven. Dr. Thanat Inthisan) เลขาธิการสมัชชาสงฆ์ในอเมริกา จาก ดีชี ได้มาเรียนกรรมฐานกับอาจารย์ไตรพิตรา และอาจารย์ได้ชวนนผมให้มาปฏิบัติด้วยกัน เพราะมีการปฏิบัติที่โบสถ์ซึ่งผู้ชายมีโอกาสมาเรียนได้ ตามปกติอาจารย์จะให้แต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ปฏิบัติที่บ้านของอาจารย์

วันแรกผมกับพี่สาว มาก่อนพระอาจารย์ ดร.มหาถนัด หนึ่งวัน อาจารย์ไตรพิตราจึ่งได้เริ่มต้นสอนกรรมฐานล่วงหน้าก่อน หลังจากไปไปรับพระอาจารย์ ดร.มหา ถนัด ตอนเย็นเริ่มต้นปฏิบัติกรรมฐาน เนื่องสถานทีนี้เดิมเคยใช้เป็นที่พักพื้นของพวกติดยาเสพติดด้วย พอผมเข้าไปใช้ห้องน้ำ เห็นกล่องใช้เข็มฉีดยาที่มีเข็มที่ใช้แล้วอยู่ ก็เกิดความกลัวว่าเราจะไปติดเชื้อจากผู้ที่มาพักก่อน ใจไม่ค่อยดี มารเริ่มมารังคานว่าอย่าปฏิบัติที่นี้เลย เพราะสถานที่ไม่สอาด แต่เนื่อง จากมีความศรัทธาหลวงพ่อจรัญ ฐิตะธัมโม วัดสิงห์บุรีมาก ผมจึงอธิฐานขอให้หลวงพ่อช่วยมาบอกหน่อยว่าผมควรจะปฏิบัติ ณ สถานที่นี้ไหม

กรรมฐานสำนึกบาป ร้องไห้คิดถึงแม่

วันรุ่งขึ้น เริ่มปฏิบัติกรรมฐานตั้งแต่ตี ๔ เดินจงกรม และนั่งสลับกัน จนถึงเวลาอาหารเช้า ซึ่งต้องกินอาหารด้วยความสำรวม มีสติทุกขณะ ตอนยกอาหารใส่ปาก ต้องวางช้อนที่จาน แล้วเอามือวางที่ตักก่อน แล้วจึงเริ่มเคี้ยว พอเริ่มมีสติ เห็นชายแก่ที่อาศัยอยู่ในโบสถ์ บางคนต้องนั่งรถเข็น คิดถึงแม่มาทันที เริ่มร้องไห้ แม่ผมเสียไปสามปีที่แล้ว ก่อนตายแม่มาอยู่กับผมที่อเมริกา ได้หกล้มสะโพกหัก ต้องเข้าผ่าตัด เมื่อออกจากโรงพยาบาล ต้องทำกายภาพบำบัดต่ออีกเดือน ผมติดต่อสถานที่พักพื้นคนชราที่มีพยาบาลคนไทยทำงานอยู่ ซึ่งเห็นว่าน่าจะดีที่สุดสำหรับแม่ เพราะมีการบริการดี พาแม่ไปดูสถานที่ ขณะนั้นมีเสียงเอะอะจากคนแก่ดังมาก ถามแม่ว่าอยู่ได้ไหม แม่ยิ้มตอบว่าได้ ทั้งที่แม่คงกลัวเพราะแม่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และจะต้องอยู่ที่นี้อีก ๓๐ วัน ผมให้แม่อยู่ที่นั่นหนี่งคืน ตอนกลางคืนผมนอนไม่หลับ เพราะสงสารแม่ วันรุ่งจึงตัดสินใจไปรับกลับบ้านเพราะพี่สาวจะหยุดหนึ่งเดือนเพื่อมาพยาบาล แม่ แม่จึงได้มาพักพื้นที่บ้านผมตลอด พอกลับเมืองไทยแล้ว แม่จะพูดอยู่เสมอๆว่า ลูกชายมันเอาแม่ไปอยู่บ้านคนแก่ ก็ไม่รู้ว่าแม่โกรธผมหรือเปล่า

พอเริ่มมีสติอย่างที่หลวงพ่อจรัญพูดไว้ว่าความดีมันจะซิ้งใจ ซิ้งใจมันจะใฝ่ดี ใฝ่ดี มันจะมีสัจจะ สัจจะจะมีเมตตากตัญญูกตเวทตาธรรมทันที.... ร้องไห้เลย ไม่อายใครด้วย รู้สึกเสียใจมากทีทิ้งแม่ไว้คนเดียว ลูกขอทำกรรมฐานเพื่อขออโหสิกรรม ทดแทนพระคุณแม่ แม่จ๋า ลูกขอโทษ

หลวงพ่อจรัญพูดอีกว่าการเจริญกรรมฐาน ต้องระลึกถึงแม่ได้ ระลึกถึงพ่อได้ ถ้าหากสร้างความชั่ว ไม่มีสติ มันก็จะไม่ระลึกถึงความดีอันนี้ นี่อย่างนี้เรียกว่าระลึกชาติ และก็รู้กฏแห่งกรรมที่ทำเอาไว้จากเวทนานี้ด้วย

คำอธิฐานเป็นจริงแล้ว หลวงพ่อคงมาเตือนสติให้อยู่ปฏิบัติ เพื่อทดแทนพระคุณแม่ แม่จ๋าลูกขออภัย จะตั้งใจปฏิบัติเพื่อแม่นะ

ความง่วง เป็นมาร

พอเริ่มปฏิบัติก็เริ่มเจอมาร มันเริ่มมาที่ละตัว ผมเจอตัวแรก ถีนมิทธะ ความง่วงเหงาหาวนอน สองวันแรก มันจะหลับตลอดเวลา หลับแล้วหลับอีก ถามอาจารย์ว่าจะแก้อย่างไร อาจารย์ก็บอกว่าต้องอดทน ต้องฝืนทน พยายามอย่าให้หลับ เพราะผมก็นอนมากพอสมควรแล้วแต่ละวัน อาจารย์เล่าว่าลูกศิษย์ท่านบางคน เดินจงกรมยังหลับได้ ทั้งๆทีเดินอยู่ จึงต้องใช้ความพยายามสุดๆที่จะไม่หลับ บางครั้งแพ้มารก็เผลอหลับไป

วิจิกิฉา ความสงสัย เป็นมาร

วันที่สาม วิจิกิฉามารมาปรากฏ เริ่มมีความสงสัยในการสอนของอาจารย์ เพราะผมเคยทำสมถะมาก่อนไม่ได้ฝึกสติ สมถะจะได้ความสงบ พอได้ความสงบเราก็จะติดเพราะมันความสุขชั่วขณะ ครั้นฝึกสติตอนแรก มันยังไม่ได้ความสงบ จึงต้องเข้าในเรียนถามอาจารย์ เพราะมีความสงสัยในตอนสอบอารมณ์ วันที่สามนี้สติเริ่มดีข้น ความง่วงหายไป

 

ผมขออนุญาตอาจารย์ไปเดินจงกรมในโบสถ์(Main Chapel) อาจารย์ยิ้มๆ และอนุญาต ตามปรกติผู้ปฏิบัติจะออกจากห้องขังเดี่ยวไม่ได้ นอกจากไปห้องน้ำหรือไปรับประทานอาหาร โบสถ์นี้สวยงามมาก กระจกเป็นสีน้ำเงินและสีฟ้า เวลาอยู่ในโบสถ์จะมีความรู้สึกเหมือนอยู่ใต้ท้องทะเลลึก สลัวๆ สงบ เงียบ และวังเวง ผนังกระเบื้องที่ประดิษฐานของพระเยซู ส่งโดยตรงจากอิตาลี สวยสุดจะบรรยาย ผมเลือกทา งเดินข้างๆ ระยะทางในการเดินประมาณ ๒๐ ก้าว จากข้างหลังโบสถ์จนไปหยุดหน้าพระแม่มารี เดินไปเดินมา ประมาณหนึ่งชั่วโมง จึงเดินกลับห้อง ทำอย่างนี้ทั้งวันรู้สึกไม่ได้ผล เพราะจะต้องระวังคนเดินเข้ามาใช้หรือเข้าชมในโบสถ์ตลอด ทำให้เสียสมาธิ สติไม่ต่อเนื่อง

สี่วันได้ญาณม้วนเสื่อ

วันที่สี่เจ็บขามาก เพราะต้องเดินช้า เดินมากก็ต้องห้องน้ำมาก เกิดความสงสัยเพราะได้เคยได้ยินว่า ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วต้องมานวดมาบีบ มันผิด ไปเรียนถามอาจารย์ อาจารย์ตอบว่าไม่เคยได้ยิน ได้ยินแต่ว่าปฏิบัติแล้วจะมีสุขภาพดีขึ้น อาจารย์เองเคยปวดหัวเป็นประจำ แต่เมื่อปฏิบัติธรรมแล้วความปวดหายไป อาจารย์แนะนำให้เอามือเกาะผนังหรือขอบเตียง เพราะอาจารย์เคยบอกลูกสาวคนโตว่า ถ้าเดินไม่ไหวให้เกาะผนังแทนไม้เท้าช่วยพยุงน้ำหนัก หลังจากการสอบอารมณ์ เริ่มเบื่อมาก เพราะเจ็บขา เก็บที่นอนเก็บกระเป๋า กลับบ้านดีกว่า พอจะกลับจริงๆ ความละอายใจยังมีอยู่ ว่าเราจะแพ้มารอีกแล้ว เลยอยู่สู้ต่อ

 

 

ห้องขังเดี่ยว ๗ วัน มองออกไปเห็นแต่ต้นสน

เดินจงกรมระหว่างเตียง หรือระหว่างหัวเตียงเดินประมาณ ๕ ก้าวก็ต้องหยุดแล้ว

เดินกลับ ทำอย่างนี้ประมาณ ๔๕ นาที เสร็จแล้วมานั่งดูการยุบหนอพองหนอของท้อง อีก ๔๕ นาที

สุดท้ายนอนดูลมหายใจ และการพองยุบของท้องอีก ๔๕ นาที

ทำอย่างนี้ สลับไปมา วันละ ๑๐ ชั่วโมง

จากหยดน้ำหยดน้อยหลายร้อยหยด รวมกำหนดเป็นมหาชลาศัย

ตอนนั้นเจ็บขามาก จึงใช้วิธีการเดินจงกรมพร้อมกับเกาะขอบผนังหน้าต่าง ก็สามารถเดินช้าๆได้ เมื่อเดินช้านานๆ ก็เกิดปิติในการเดิน รู้สึกว่าเวลาเดินช้าหรือเกิน เผลอนิดเดียวเดินไปหนึ่งชั่วโมง เกิดปิติ นึกว่าคิดเอาเอง เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วกลับมาเดินจงกรมอีก ความรู้สึกช้าก็ยังคงมีอยู่ ดีใจหนอ หลังจากนั้นนั่งยกมือทำสติ ยกมือช้าๆ ง่ายๆ สบายๆ แบบไม่คิดอะไร เนื่องจากเริ่มมีสติจากการเดินจงกรม สติเริ่มต่อเนื่อง จากหยดน้ำกลายเป็นสายน้ำแห่งสติ เห็นมือตัวเองค่อยๆลอยอยู่บนอากาศ ลอยช้าๆเช่นเดียวกับการเดินจงกรม พร้อมเริ่มหลับตานั่งกรรมฐาน ดูการหยุบนอ พองหนอ ของท้อง เกิดนิมิตรขึ้นมาราวกับเป็นภาพยนต์ มากันเป็นฉากๆ เป็นภาพของเมฆหมอกและแสงอาทิตย์ นึกว่าเป็นสวรรค์เสียเอง กำหนดรู้ว่าเห็นหนอๆ ก็ไม่หาย ผมก็เลยนั่งดูในนิมิตรต่อไปเรื่อยๆ ตอนจะจบได้เห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ พระอาจารย์ผม ลอยมาปรากฏในนิมิต

ดูจนภาพนิมิตรนั้นหายไป บอกผลการปฏิบัติกับอาจารย์ อาจารย์บอกว่าตอนนั้นคุณสติอ่อน ให้ลืมนิมิตรเสีย แล้วกลับมาทำสติใหม่

 เมื่อไรจะได้มีโอกาศทำดีอีก

วันสุดท้ายของกรรมฐาน รู้สึกเสียดายว่าคงอีกนานคงจะโอกาศดีที่จะความดีอีก เพราะครั้งสุดท้ายที่ทำกรรมฐานนั้นเป็นเวลานานมากเกือบ ๓๔ ปีแล้ว เวลาของเราก็เหลือน้อยแล้ว ตื่นเช้าตอนตีสี่ เดินจงกรมจนได้สติและจิตเริ่มโอนโยน จากนั้นจึงนั่งกรรมฐานพิจารณายุบหนอ พองหนอ ด้วยสติ วันสุดท้ายขอเป็นวันแผ่ความดีและส่วนบุญ

หลวงพ่อจรัญสอนว่า ให้อโหสิกรรมก่อนค่อยแผ่เมตตา อย่าโกรธกัน อย่าเกลียดกัน อย่าผูกใจโกรธใคร เราอธิฐานว่า หาก ผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความอาฆาต ความพยาบาท และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาบแช่งของปวงชนของเจ้ากรรม ขอให้พ้นจากนรกภูมิ และพบแสงสว่างทั้งทางโลกและทางธรรม

แผ่เมตตาด้วยใจ

จากนั้นเราก็เริ่มแผ่เมตตา เป็นการแผ่ด้วยใจ รู้สึกถึงความสงบเย็นความสุขได้แผ่ออกจากร่างกาย เรา พอพนมมือขึ้น มื่อเริ่มสั่น รู้สึกตัวสั่นด้วยความปิติสุข สุขจริงหนอ ใจเราอ่อนโยนมาก และรับรู้ได้ว่าเราต้องแผ่เมตตาด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยคำพูดหรือคำสวด สมจริงดังที่หลวงพ่อจรัญได้สอนไว้.

ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ไตรพิตรา สารเศรษฐศิริ(วิสิษฐ์ยุทธศาสตร์) ที่ได้กรุณาให้การสั่งสอนแก่ตัวผมเองและลูกสาวทั้งสามคน

จบการปฏิบัติที่มิชิแกนแต่เพียงเท่านี้

ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลที่เกิดจากการบันทึกเรื่องนี้ แด่มารดา บิดา ครูบาอาจารย์ และ ผู้มีพระคุณทั้งในปัจจุบันชาติและอดีตอนันตชาติ แก่เทพยดาและอมนุษย์ทั้งหลาย ขอจงมีจิตโสมนัสยินดี อนุโมทนาในส่วนกุศล โดยทั่วถึงกันเทอญ 

 

 


                                                  อ้างอิง

 

Website – ของอาจารย์ไตรพิตรา สารเศรษฐศิริ http://dhammaweb.blogsome.com/

ประวัติอาจารย์ไตรพิตรา 

คุณไตรพิตรา วิสิษฐยุทธศาสตร์ เกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๑ เป็นธิดาคนเดียวของพลตรีหลวงวิสิษฐยุทธศาสตร์ และ ม.ร.ว. หญิง เพยีย (นวรัตน) วิ สิษฐยุทธศาสตร์ ได้รับการศึกษาชั้นประถมและมัธยมจากโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย จบการศึกษาขั้นเตรียมอุดมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และจบปริญญาตรีบัญชีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คุณไตรพิตรา สมรสกับนายแพทย์ไพรัช สารเศรษฐศิริ และเดินทางไปประกอบอาชีพ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา มลรัฐมิชิแกน ตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๐๙ มีบุตรี ๒ คนคือ นางสาวพราวรัตน์และนางสาวนริพรรณ สารเศรษฐศิริ

ก่อนปี ๒๕๑๗ คุณไตรพิตรามีโรคปวดศีรษะเป็นโรคประจำตัว มีอาการติดต่อกันมานานหลายปี จนได้รับคำแนะนำจากเพื่อนว่าควรจะหาโอกาสไปศึกษาธรรมะและปฎิบัติกรรมฐาน อาจจะช่วยอาการดังกล่าวให้ทุเลาลงได้บ้าง คุณไตรพิตราจึงได้เริ่มอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับวิปัสสนากรรมฐานจำนวนหลาย เล่ม และนอกจากนี้ยังได้กลับเมืองไทยไปฝึกเจริญกรรมฐานจากสำนักกรรมฐานและวัด ต่างๆ หลายแห่งทุกปี จนอาการโรคปวดศีรษะได้หายไป พบกับความสุขสงบเข้าแทนที่

Website – ชีวิตหลังความตาย ของ อาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร


อ่านหนังสือ ชีวิตหลังความตาย

http://www.kanlayanatam.com/voice/drsanong/clip15_1.htm

ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องของความจริง

ในขณะเรามีชีวิตอยู่เวลามีค่ายิ่ง อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย เร่งสร้างความดีกันเถิด
ฟังท่าน ดร. สนอง บอกวิธีเลือกทำสิ่งที่คุ้มค่ากับการ เกิดมาเป็นมนุษย์
และวิธีเตรียมตัวตาย เพื่อเลือกเกิดในภพ ภูมิที่ดีก ว่า

คำสำคัญ (Tags): #กรรมฐาน#happy ba
หมายเลขบันทึก: 417459เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2010 23:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 03:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

อรุณสวัสดิ์วันส่งท้ายปีเก่าค่ะคุณคนบ้านไกล

มาอ่านบันทึกดีๆ และน้อมรับธรรมะยามเช้าค่ะ

อ่านจดหมายด้วยความอิ่มเอมพุทธศาสนาเราแพร่หลายในเชิงปฏิบัติอย่างแท้จริง

ขอบพระคุณมากมายนะคะ และขอส่งความสุข สงบ ดั่งใจปรารถนาทุกวี่วันค่ะ

สวัสดีค่ะ

เป็นบุญมากค่ะที่ได้อ่านในวันส่งท้ายปีเก่า  ขออนุญาตพิมพ์ออกไปให้คนอื่นได้อ่านบ้างนะคะ  ขอขอบพระคุณค่ะ

ขอให้มีความสุข สดชื่นในวันปีใหม่ด้วยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ สุขสันต์วันปีใหม่ ๒๕๕๔ค่ะ

สวัสดีค่ะ

     ขอบคุณบันทึกดีๆนี้ค่ะ

     สวัสดีปีใหม่2554ค่ะ

            

สวัสดีปีใหม่ค่ะ สุข สดชื่น สดใส ตลอดปีนะคะ

มาสวัสดีปีใหม่ค่ะคุณคนบ้านไกล

ขอชื่นชมในตัวคุณพ่อก่อนเลยค่ะ

เหตุปัจจัยที่ลูกสาว ๓ คนเรียนเก่งและเป็นคนดี มีธรรม

ดิฉันเป็นรุ่นน้องธรรมศาสตร์ ต่างคณะค่ะ ดิฉันจบจากคณะศิลปศาสตร์

ยินดีที่ได้อ่านบันทึกดีๆจากคุณพ่อคนดีที่หนึ่งของสามสาวนะคะ

  • ส่งความสุข ๒๕๕๔ สวัสดีปีใหม่ค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 ขออนุโมทนากับบันทึกนี้

วันนี้ได้ไปกราบหลวงพ่อวัดปากน้ำมา

เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต

นำพรปีใหม่มาฝากค่ะ


บันทึกนี้มีขึ้นได้ เพราะจากการฟังวีซีดีของอาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร
ปีใหม่นี้ จึงอยากจะนำพรปีใหม่ของอาจารย์มาให้พวกเราทุกคนได้อ่านครับ

ผู้มีสติมองเห็นว่า กาลเวลาไม่เคยหยุดหมุน สัตว์บุคคลจะหลับหรือตื่น กาลเวลาย่อมกลืนกินชีวิตให้หดสั้นลง ผู้ขาดสติดีใจที่กาลเวลาใหม่จะเวียนมาถึง ตนจะได้อ้างเอาโอกาสนี้มาประพฤติทุศีลไร้ธรรมได้มากยิ่งขึ้น แต่ละบุคคลมีเวลาเป็นของตัวเอง มีเวลาของชีวิตไม่เท่ากัน ตามกรรมที่บุคคลทำไว้ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความสิ้นสุดของชีวิต เมื่อเวลานั้นมาถึง บุคคลจำเป็นต้องทิ้งขันธ์ลาโลก เพื่อไปหาร่างใหม่อยู่อาศัย แม้เนื้อเทียนจะหมดสิ้นเปลืองไปในที่สุด หากพวกเราใช้สติสัมปชัญญะที่ถูกตรงตามธรรม ส่องดูชีวิตของตัวเอง จะเห็นว่า วาระสุดท้ายของชีวิตย่อมเวียนบรรจบ แต่ชีวิตของชาวกัลยาณธรรมมิได้สูญเปล่าดังเช่นคนทั่วไป ที่นำพาชีวิตไหลตามกระแสกิเลส เป็นการเวียนบรรจบที่มากด้วยคุณค่า เพราะชาวกัลยาณธรรมไม่ท้อแท้ในการทำความดีให้กับชีวิต และยิ่งเป็นความดีสูงสุดที่บุคคลผู้มาเกิดอยู่ในห้วงเวลานี้ทำได้ยาก      
ดังนั้นปีใหม่ที่จะเวียนมาถึงนี้ ขออวยพรให้ชาวกัลยาณธรรมทุกคน จงมีสติสัมปชัญญะถูกตรงตามธรรม ส่องนำพาชีวิตไปสู่ความสวัสดี มีความอุตสาหะในการทำความดี มีความอดทนต่อการทำความดี และผลแห่งความดีจงอำนวยประโยชน์ให้กับชีวิต ในห้วงเวลาที่จะเวียนมาถึงข้างหน้า จงทุกท่านทุกคน เทอญ.
พรปีใหม่จาก อาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร

สวัสดีปีใหม่ค่ะคนบ้านไกล

  • สวัสดีค่ะ
  • ขอบพระคุณที่ไปทักทาย
  • มาอ่านเรื่องราวดี ๆ "จิตที่ฝึกไว้ดีแล้วนำสุขมาให้"
  • ชื่นชมและอนุโมทนาบุญกับคุณพ่อที่นำพาลูกสู่เส้นทางธรรมเพื่อแก้ปัญหาใน
    ชีวิตได้อย่างงดงามค่ะ

สวัสดีค่ะ..คุณคนบ้านไกล

ได้อ่านบันทึกของคุณเป็นครั้งที่ 2 แล้วค่ะ

ขอบคุณสำหรับหลักการใช้ชีวิตที่ดีและมีคุณค่า

สวัสดีปีใหม่ 2554 พรใดที่ประเสริฐ

จงบังเกิดแก่เพื่อนพ้องน้องพี่ สุขภาพดีตลอดปีและตลอดไป

สวัสดีค่ะ คุณคนบ้านไกล

ขอบคุณสำหรับบันทึกเรื่องเล่าที่สร้างพลังให้กับผู้อ่าน ก่อให้เกิดจิตใจที่สงบและมีสติคิด

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณคนบ้านไกล

ขอบคุณมากค่ะสำหรับการแนะนำให้แวะมาอ่าน รู้สึกโชคดีที่ได้มาอ่านและได้ทราบว่าจริงๆแล้วเรามีเส้นทางที่เดินขนานกัน (ในที่นี้คือไปด้วยกัน แต่คนละโอกาสและเวลา) จะกลับไปเขียนตอบต่อในเก็บเกี่ยว...ของmeepole ค่ะ

สวัสดีครับคุณ mee_pole

กำลังรออ่าน เสร็จเมื่อไรช่วยกรุณาบอกด้วย

ธรรมรักษาครับ

สวัสดีค่ะ

ตอนนี้กำลังสนใจอ่านที่อ.ไตรพิตราเขียน และตามอ่านตอนอื่นๆที่ link กัน วันนี้ต้องแบ่งเวลาตรวจข้อสอบ สลับกับแวะมาอ่านค่ะ โชคดีมากที่ได้แวะมาอ่านค่ะ

http://dhammaweb.blogsome.com/2007/04/24/p42/

สวัสดีครับ

อาจารย์ไตรพิตรา(ป้าตุ๊ก) จะกลับเมืองไทยปีละครั้ง (สอนด้วย)

ท่านจะไปสอนที่ยุโรบประมาณปีละสองครั้ง

ถ้าคุณ meepole สนใจในข้อธรรม e-mail ไปถามอาจารย์ได้ ที่บล็อกของอาจารย์

อาจารย์จะตอบเสมอ

ธรรมสวัสดีครับ

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ  

หลวงพ่อจรัญเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้สนใจพุทธศาสนาทำให้อ่านกฏแห่งกรรมของท่านเกือบทุกเล่มค่ะ

ขอบคุนที่เเนะนำนะค่ะหนูจะลองเอาไปปฏิบัติดู หนูจำได้ว่าคุณเเม่ก็เคยบอกให้ทำแต่หนูก็ยังไม่ได้ทำ เหอๆ แต่หนูเห็นเเเล้วว่ามันเห็นผลจริงในเรื่องนี้ อย่างนั้นหนูจะเอาไปทดสอบนะคร้า ขอบคุนที่เอาเรื่องดีดีแบบนี้มาให้อ่านค่ะ

อ่านแล้วชื่นใจจังเลยค่ะ...สาธุ สาธุ สาธุ

อ่านแล้ว อยากปฏิบัติเพียรมากขึ้น และอยากให้ลูกสาวอ่านการปฏิบัติว่าได้ผลจริง

อนุโมทนาในความตั้งใจของคุณ พ ด้วยครับ

ลูกสาวน่าจะได้อ่านบันทึกนี้  เพราะเป็นคนสมัยเดียวกันกับลูกสาวผม

Ico48

 

 

เรียน  คุณ.....คนบ้านไกล

 

   - อ่านงานของท่านแล้ว A++ ...... อีกแล้ว...เพราะของดีต้อง Share & Show...  ตอนนี้ได้ Copy...ด้วยนะคะ + และ Printer....ใน Paper แยก เำื่พื่อนไว้อ่านด้วคะ

 

  - ขอบคุณ ..... ท่านมาก..... ให้.. P'Ple จบ Ph.d ... (ด้าน Innovention Management) เืดือนนี้ผ่าน...คงมีเวลาสนทนาธรรมะ  กลับท่านมากขึ้น  นะค

 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท