Praepattra
ผู้ช่วยศาตราจารย์ Praepattra Kiaochaoum

เริ่มต้นแห่งศรัทธา


แพรมีโอกาสเข้าไปทำบุญถวายอาหารเพลและเข้าร่วมกิจกรรมงานบุญที่วัดป่าเจริญราชบ่อยๆ  ได้เห็นโรงอุโบสถของวัดที่กำลังก่อสร้างอยู่และเห็นประกาศโครงการทอดกฐินสามัคคีของวัดป่าเจริญราช ปี 2553

 http://gotoknow.org/blog/veeranon/351995

   ขอเรียนเชิญญาติธรรมทุกท่าน

 

ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้ากฐินสามัคคี

 

ณ วัดป่าเจริญราช ประจำปี พ.ศ.๒๕๕๓ 

 

ในวันอาทิตย์ที่ ๑๔  พฤศจิกายน  ๒๕๕๓

 

images เพื่อนำจตุปัจจัยไปใช้ในการสร้างโรงอุโบสถสถาปัตยกรรมแบบไทยโบราณ  จำนวน  ๙๙๙  กอง 

 

 กองละ  ๙,๙๙๙  บาท

 

 

 ปีนี้แพรเกิดความรู้สึกศรัทธาในการทำบุญสร้างอุโบสถมาก  ก็สนใจอยากจะรับเป็นเจ้าภาพกฐินสักกองหนึ่ง  เพื่อช่วยหลวงพ่อหาปัจจัยในการสร้างโรงอุโบสถของวัดให้เสร็จเร็วๆ  ดูจากจำนวนเงินแล้วก็มากอยู่นะคะ  สำหรับคนทำงานหาเงินเดือนชนเดือนอย่างแพร  แล้วแพรจะทำได้ไหมเนี่ย

 แพรก็ตั้งคำถามกับตัวเองนะคะว่า  เราจะหาเงินจากไหน  จะบอกบุญยังไง  จะบอกบุญกับใคร  จะเก็บเงินได้ไหม  แล้วจะได้เงินถึง 10,000 บาทหรือเปล่า   คิดๆแล้วก็ยากมากนะคะ  ไม่เคยค่ะ  ไม่เคยรับเป็นเจ้าภาพกฐิน  เคยแต่ร่วมเอาปัจจัยใส่ซองกฐินตามวัดต่างๆ 20 บาท 100 บาท  ตามกำลัง แต่ก็คิดว่าเราน่าจะทำได้  เราน่าจะลองดู  สะสมบุญ  สร้างบุญบารมี  ลองพยายามบอกบุญ  และหางานพิเศษทำเพิ่ม  เพื่อทอดกฐินโดยเฉพาะ  น่าจะได้เงินไปทอดกฐินถึง 10,000  บาท  เราทำได้  เราทำได้  (ต้องเชื่อมั่น  และให้กำลังใจตัวเองสุดๆค่ะ)

 หลังจากถวายผ้าป่าสร้างกุฎิกรรมฐานที่วัดป่าเจริญราชแล้ว  เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2553 http://gotoknow.org/blog/veeranon/322167  แพรก็ตัดสินใจลงชื่อขอรับเป็นเจ้าภาพกฐิน 1 กอง ด้วยความศรัทธาอย่างยิ่ง  คุณต้น (สามี)ก็สนับสนุนอนุโมทนาบุญด้วย  แพรก็สบายใจนะคะ  วันงาน   ก็เอาซองกฐินมา 3 ปึก  ให้คุณแม่ช่วยบอกบุญชาวบ้าน  2 ปึก ให้คุณต้น 1 ปึก  แล้วแพรก็เริ่มวางแผนเก็บเงินเพื่อบุญกฐินโดยเฉพาะค่ะ

 แพรไม่คาดหวังว่าจะได้เงินทำบุญจากการใส่ซองเยอะ  เพราะญาติๆ เพื่อนๆ หรือคนที่รู้จัก ก็เป็นผู้มีศรัทธาแต่รายได้น้อยกันทั้งนั้นค่ะ  แค่บอกบุญให้เค้าได้ทำบุญกฐิน 10 บาท 20 บาท ก็ดีแล้วค่ะ  เงินทำบุญส่วนใหญ่จะมาจากการทำงานพิเศษและการเก็บเงินของแพรค่ะ เริ่มตั้งแต่วันนี้ (4 ก.ค.) ตอนนี้  ยังมีเวลาอีกตั้ง 5 เดือนแน่ะ  ไม่ลองก็ไม่รู้ค่ะ  ว่าแล้วแพรก็เริ่มอธิฐานจิตขอให้ได้งานพิเศษทำ  เพื่อจะได้เอาเงินไปทอดกฐินตามเป้าหมาย

icon เพื่อนๆ รู้ไหมค่ะ  กฐินคืออะไร  ทำไมต้องทอดกฐิน  กฐินมีความสำคัญอย่างไร  และอานิสงฆ์ของการถวายกฐินมีอะไรบ้าง  แพรได้ศึกษาค้นคว้า  หาความรู้มาเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ  เพื่อนจะได้อนุโมทนาบุญไปกับแพรด้วย icon

 

 

 กฐิน คืออะไร ?

กฐิน มีความหมาย 4 ประการ ดังนี้

 (1) กฐินที่เป็นชื่อของกรอบไม้แบบชนิดหนึ่งสำหรับขึงผ้าให้ตึง

“กฐิน” หมายถึง ไม้สะดึง คือ กรอบไม้แบบชนิดหนึ่งสำหรับขึงผ้าให้ตึง เพื่อเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้เป็นเครื่องมือเย็บจีวร ซึ่งมีลักษณะเป็นวงกลม เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ในสมัยก่อน การเย็บจีวรต้องใช้ไม้สะดึงขึงให้ตึงก่อนแล้วจึงเย็บ เพราะช่างยังไม่มีความชำนาญเหมือนสมัยปัจจุบันนี้ และเครื่องมือในการเย็บก็ยังไม่เพียงพอเหมือนจักรเย็บผ้าในปัจจุบัน การทำจีวรในสมัยโบราณจะเป็นผ้ากฐิน หรือแม้แต่จีวรอันมิใช่ผ้ากฐิน ถ้าภิกษุทำเอง ก็จัดเป็นงานเอิกเกริกทีเดียว

การทำผ้าโดยอาศัยแม่แบบเช่นนี้ คือ ทาบผ้าลงไปกับแม่แบบ ตัด เย็บ ย้อม ตากให้แห้ง ควรแก่การใช้ได้ให้เสร็จภายในวันเดียว ด้วยความสามัคคีของพระสงฆ์ เป็นการร่วมแรงร่วมใจกันทำกิจที่เกิดขึ้น เมื่อทำเสร็จหรือพ้นกำหนดกาลแล้ว แม่แบบหรือกฐินนั้น ก็รื้อเก็บไว้ใช้ในการทำผ้าเช่นนั้นอีกในปีต่อๆ ไป การรื้อแบบไว้เรียกว่า เดาะ ฉะนั้นคำว่า กฐินเดาะหรือเดาะกฐิน จึงหมายถึง การรื้อไม้แม่แบบเพื่อเก็บไว้ใช้ในโอกาสต่อไป          

ตำนานกล่าวไว้ว่า การเย็บจีวรนั้น พระเถรานุเถระ 80 รูป ต่างมาช่วยพระอนุรุทธะเย็บจีวร พระมหากัสสปะนั่งหัวแถว พระสารีบุตรนั่งกลาง พระอานนท์นั่งท้ายสุด ภิกษุรูปอื่นๆ ช่วยกรอด้าย พระพุทธเจ้าทรงร้อยด้าย ส่วนพระโมคคัลลานะจัดหาเสบียงมาถวายพระเถระผู้ร่วมทำจีวร ภิกษุสามเณรอื่นๆ ก็ช่วยขวนขวายในการเย็บจีวร อุบาสกอุบาสิกาก็จัดหาน้ำดื่ม เป็นต้น มาถวายพระภิกษุสงฆ์ มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน โดยนัยนี้ การเย็บจีวรแม้โดยธรรมดา ก็เป็นการต้องช่วยกันทำหลายผู้หลายองค์ (ต่างจากปัจจุบัน มีจีวรสำเร็จรูปขายแล้วค่ะ)

 

 (2) กฐินที่เป็นชื่อของผ้าที่ถวายใช้เป็นกฐินภายในกำหนดกาล

“กฐิน” หมายถึง ผ้าที่ถวายใช้เป็นกฐินภายในกำหนดกาล 1 เดือน นับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ผ้าที่จะถวายนั้นจะเป็นผ้าใหม่ หรือผ้าเทียมใหม่ เช่น ผ้าฟอกสะอาด หรือผ้าเก่า หรือผ้าบังสุกุล คือผ้าที่เขาทิ้งแล้ว และเป็นผ้าเปื้อนฝุ่นหรือผ้าตกตามร้านก็ได้ ผู้ถวายจะเป็นคฤหัสถ์ก็ได้ เป็นพระภิกษุหรือสามเณรก็ได้ ถวายแก่พระสงฆ์แล้วก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ

 

 (3) กฐินที่เป็นชื่อของบุญกิริยา

“กฐิน” คือ การทำบุญถวายผ้ากฐินเป็นทานแก่พระสงฆ์ ผู้จำพรรษาอยู่ในวัดใดวันหนึ่งครบ 3 เดือน เพื่อสงเคราะห์พระสงฆ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ให้มีผ้านุ่งหรือผ้าห่มใหม่ จะได้ใช้ผลัดเปลี่ยนผ้าเก่าที่จะขาดหรือชำรุด

การทำบุญถวายผ้ากฐินหรือที่เรียกว่า การทอดกฐิน คือ การนำผ้ากฐินไปทอดหรือไปวางไว้ต่อหน้าพระสงฆ์อย่างต่ำห้ารูป กล่าวคำถวายในท่ามกลางสงฆ์ แล้วให้พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง ที่ได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ทั้งนั้นเป็นเอกฉันท์ ให้เป็นผู้รับกฐินนั้น เรียกได้ว่าเป็นกาลทาน คือ การถวายทานที่ทำได้เฉพาะกาล 1 เดือน จึงถือว่าเป็นบุญที่หาโอกาสทำได้ยากค่ะ  ต้องรอกันเป็นปีค่ะ  ถึงจะทำบุญได้

 

 (4) กฐินที่เป็นชื่อของสังฆกรรม

“กฐิน” คือ กิจกรรมของสงฆ์ ก็จะต้องมีการสวดประกาศขอรับความเห็นชอบจากที่ประชุมสงฆ์ ในการมอบผ้ากฐินให้แก่พระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เมื่อทำจีวรสำเร็จแล้วด้วยความร่วมมือของพระภิกษุทั้งหลาย ก็จะได้เป็นโอกาสให้ได้ช่วยกันทำจีวรของพระภิกษุรูปอื่น ขยายเวลาทำจีวรได้อีก 4 เดือน ทั้งนี้เพราะในสมัยพุทธกาลการหาผ้า การทำจีวรทำได้โดยยาก ไม่ทรงอนุญาตให้เก็บสะสมผ้าไว้เกิน 10 วัน แต่เมื่อได้ช่วยกันทำสังฆกรรมเรื่องกฐินแล้ว อนุญาตให้แสวงหาผ้า และเก็บผ้าไว้ทำเป็นจีวรได้จนตลอดฤดูหนาว คือจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4

จากความหมายของคำว่ากฐิน จะเห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกันทั้ง 4 ประการ เมื่อสงฆ์ทำสังฆกรรมเรื่องกฐินเสร็จแล้ว และประชุมกันอนุโมทนากฐิน คือ แสดงความพอใจว่าได้กรานกฐินเสร็จแล้ว ก็เป็นอันเสร็จพิธี

กฐินในปัจจุบัน มีผู้ถวายผ้ามากขึ้น มีการตัดเย็บย้อมผ้าที่จะทำเป็นจีวรสำเร็จรูปขายได้แพร่หลายขึ้น การใช้กรอบไม้แม่แบบอย่างเก่าจึงเลิกไป เพียงแต่รักษาชื่อประเพณีไว้โดยไม่ต้องใช้กรอบไม้แม่แบบ เพียงถวายผ้าขาวให้ตัด เย็บ ย้อม ตากให้แห้ง ควรแก่การใช้ได้ให้เสร็จภายในวันเดียว หรืออีกอย่างหนึ่งคือ นำผ้าสำเร็จรูปมาถวายก็เรียกว่า “ถวายผ้ากฐิน” เหมือนกันค่ะ

นอกจากนั้น  ประเพณีนิยมการถวายผ้ากฐินได้แพร่หลายไปทั่วประเทศไทย จึงนับว่าเป็นประเพณีนิยมในการบำเพ็ญกุศลที่ดีงามเป็นสาธารณะประโยชน์ ร่วมกับการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามไปในขณะเดียวกัน

 

 เหตุที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตกฐิน

ในสมัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ ณ วัดพระเชตวัน เขตพระนครสาวัตถี มีพระภิกษุชาวเมืองปาฐา (อยู่ด้านทิศปัจฉิม ในแคว้นโกศล) ประมาณ 30 รูป ล้วนถือธุดงควัตรทั้ง 13 ข้อ อาทิเช่น อารัญญิกังคธุดงค์ คือถือการอยู่ป่าเป็นวัตร, ปิณฑปาติกังคธุดงค์ คือถือการบิณฑบาตเป็นวัตร, และเตจจีวริกังคธุดงค์ คือถือผ้า 3 ผืน (ไตรจีวร) เป็นวัตร เป็นต้น อันมีปฏิปทาน่าเลื่อมใส ปฏิบัติเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีความตั้งใจจะพากันไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ซึ่งจำพรรษาในเมืองสาวัตถี  แต่ต้องเดินทางไกล

พอไปถึงเมืองสาเกต ซึ่งมีระยะทางห่างจากเมืองสาวัตถีประมาณ 6 โยชน์ ก็เผอิญถึงฤดูกาลเข้าพรรษาเสียก่อน เดินทางต่อไปไม่ได้ พระภิกษุเหล่านั้นจึงตกลงกันอธิษฐานใจอยู่จำพรรษา ณ เมืองสาเกต ตลอดไตรมาส ภิกษุเหล่านั้นจำพรรษาด้วยมีใจรัญจวนว่า พระพุทธเจ้าประทับอยู่ใกล้ๆ ระยะทางห่างเพียง 6 โยชน์ แต่ก็ไม่ได้เฝ้าพระองค์ ครั้นล่วง 3 เดือน ออกพรรษาทำปวารณาเสร็จแล้ว ก็เดินทางไปเมืองสาวัตถีโดยเร็ว

การที่พระผู้มีพระภาคทั้งหลายทรงปราศรัยกับพระอาคันตุกะทั้งหลายนั้น เป็นพุทธประเพณี ครั้งนั้นพระพุทธองค์ได้ตรัสถามถึงสุขทุกข์และความก้าวหน้าแห่งการปฏิบัติธรรม ด้วยพระสุรเสียงที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา พระภิกษุเหล่านั้นต่างพากันกราบทูลให้ทรงทราบถึงความลำบากตรากตรำในระหว่างเดินทางของตน เพราะอยู่ในช่วงฤดูฝน มีจีวรเก่า พากันเดินเหยียบย่ำโคลนตม จีวรเปรอะเปื้อนโคลนเปียกชุ่มด้วยน้ำฝน

พระพุทธองค์ทรงทราบความลำบากของพระภิกษุเหล่านั้น และเห็นว่า “กฐินตฺถาโร จ นาเมส สพฺพพุทฺเธหิ อนุญฺญาโต” การกรานกฐินนี้ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ได้ทรงอนุญาตมา ดังนั้น จึงทรงอนุญาตให้พระภิกษุผู้ที่อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนแล้ว รับผ้ากฐินของผู้มีจิตศรัทธาถวายได้ เมื่อได้รับแล้วมีความสามัคคีร่วมกันทำให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย จะได้รับอานิสงส์หรือความยกเว้นในการผิดพระธรรมวินัย 5 ประการ นางวิสาขามหาอุบาสิกาได้ทราบพระบรมพุทธานุญาต และได้ถวายผ้ากฐินเป็นบุคคลแรก

 

 ผ้ากฐิน

ผ้าที่พระบรมพุทธานุญาตให้ใช้เป็นผ้ากฐินได้นั้น มีดังนี้คือ ผ้าใหม่ ๑ ผ้ากลางเก่ากลางใหม่ ๑ ผ้าเก่า ๑ ผ้าบังสุกุล ๑ ผ้าที่มีขายอยู่ตามร้านตลาด ๑ ซึ่งผ้าเหล่านี้เอามาทำเป็นผ้ากฐินได้

ส่วนผ้าที่เอามาทำเป็นผ้ากฐินไม่ได้ คือ ผ้าที่ยืมเขามา ๑ ผ้าที่ทำนิมิตได้มา ๑ ผ้าที่พูดเลียบเคียงได้มา ๑ ผ้าเป็นนิสัคคีย์ ๑ ผ้าที่ขโมยมา ๑

เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว ผ้าที่เอามาทำเป็นผ้ากฐินได้คือ ผ้าที่ได้มาโดยชอบหรือโดยสุจริต ส่วนผ้าที่เอามาทำเป็นผ้ากฐินไม่ได้คือ ผ้าที่ได้มาโดยมิชอบหรือโดยทุจริต

 

 การทอดกฐินเป็นบุญพิเศษ

- พิเศษเพราะเป็นสังฆทาน มิได้เฉพาะเจาะจงแก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง

- พิเศษเพราะเป็นการถวายทานตามกาล ไม่มีทั่วไป เรียกว่า “กาลทาน” ตามพระธรรมวินัยกำหนดกาลไว้ คือ มีกำหนดเวลาถวายที่จำกัดเพียงหนึ่งเดือนหลังจากออกพรรษาแล้ว ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 โดยแต่ละวัดสามารถรับกฐินได้ปีละครั้งเดียว และจะต้องมีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาครบ 5 รูป หากวัดใดมีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาไม่ถึง 5 รูป จะต้องนิมนต์พระสงฆ์จากวัดอื่นๆ มาร่วมพิธีกรรมให้ครบ 5 รูปเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ครบองค์สงฆ์ตามพระวินัยบัญญัติ องค์สงฆ์ 5 รูป ตามพระวินัยบัญญัติดังกล่าวนั้น มี 4 รูป เป็นองค์พยาน และอีก 1 รูปเป็นองค์ครองผ้ากฐิน ภาษาสังฆกรรมของพระเรียกว่า “ปัญจวรรค”

ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสใคร่จะทอดกฐิน ก็ให้ทอดได้ในระหว่างระยะเวลานี้ ถ้าทอดก่อนหรือทอดหลังกำหนดนี้ก็ไม่เป็นการทอดกฐิน แต่มีข้อยกเว้นพิเศษว่า ถ้าทายกทายิกาผู้จะทอดกฐินนั้น มีกิจจำเป็นเช่นจะต้องไปในทัพ ไม่สามารถจะอยู่ทอดกฐินตามกำหนดนั้นได้ จะทอดกฐินก่อนกำหนดดังกล่าวแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุรับไว้ก่อนได้

- พิเศษเพราะมีอานิสงส์ทั้งสองฝ่าย คือ อานิสงส์สำหรับพระภิกษุผู้รับกฐิน และอานิสงส์สำหรับผู้ถวายกฐิน

 

 

  อานิสงส์สำหรับพระภิกษุผู้รับกฐิน

พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้พระภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือน รับผ้ากฐินได้ เมื่อได้รับแล้วมีความสามัคคีร่วมกันทำให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย จะได้รับอานิสงส์หรือความยกเว้นในการผิดพระธรรมวินัย 5 ประการ คือ

1. จาริกไปที่อื่นได้โดยไม่ต้องบอกลาเพื่อนสหธัมมิกด้วยกัน หมายความว่า พระภิกษุรับนิมนต์ไว้ในที่แห่งหนึ่ง สามารถไปที่เรือนอื่นได้ในเวลาก่อนฉันหรือหลังฉัน โดยมิต้องบอกลาพระภิกษุอื่น

2. จาริกไปที่อื่นได้โดยไม่ต้องนำผ้าไตรจีวรไปครบชุด หมายความว่า พระภิกษุสามารถอยู่ปราศจากผ้าผืนใดผืนหนึ่งที่อธิษฐานเป็นผ้าไตรจีวรได้

3. ฉันคณโภชน์ได้ หมายความว่า ทายกทายิกานิมนต์รับอาหารโดยระบุชื่ออาหาร พระภิกษุตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปรับแล้วนำมาฉันรวมกันเป็นหมู่คณะและฉันพร่ำเพรื่อ (ในเวลา) ได้

4. เก็บอดิเรกจีวรไว้ได้ตามต้องการ หมายความว่า พระภิกษุสามารถเก็บผ้าจีวรนอกจากผ้าไตรได้

5. จีวรเกิดขึ้นในวัดนั้น เธอมีสิทธิได้รับส่วนแบ่ง หมายความว่า ผู้มีจิตศรัทธาน้อมนำจีวรมาถวาย เธอจะได้รับสิทธิเท่าเทียมกับพระภิกษุในวัดนั้น กล่าวคือ มีส่วนได้ “อดิเรกลาภ” (ลาภพิเศษ) ที่เกิดขึ้นในวัดนั้น

พระภิกษุผู้ได้รับกฐินแล้วจะได้รับอานิสงส์นี้ เป็นเวลา 4 เดือน ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4

 

 อานิสงส์สำหรับผู้ถวายกฐิน

        อานิสงส์กฐิน จากพระสูตรที่กล่าวไว้ในบาลี ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ในสมัยที่พระองค์เกิด เป็นมหาทุคคตะ ในสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระปทุมมุตระ เวลานั้นถอยหลังจากนี้ไป ๙๑ กัป พระพุทธเจ้าท่านทรงเกิดเป็นคนจนอย่างยิ่ง เป็นทาสของคหบดี

       วันหนึ่งมหาทุคคตะไปดูงานทอดกฐินเขา เมื่อเขาทอดกฐินเสร็จ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า บุคคลใดเคยทอดกฐินแล้วในชีวิตหนึ่ง ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพกฐินก็ดี และเป็นบริวารกฐินก็ดี (แต่ว่ากฐินวันนี้ไม่มีบริวาร มีแต่เจ้าภาพ เพราะเป็นกฐินสามัคคี) จะทำบุญน้อยจะทำบุญมาก มีอานิสงส์เสมอกัน แต่ทว่าปริมาณอาจจะแตกต่างกัน ซึ่งอานิสงส์ของกฐิน พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า...

 
      "โภ ปุริสะ ดูกรท่านผู้เจริญ บุคคลใดเคยทอดกฐินไว้ในพระพุทธศาสนา แม้ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าตายจากความเป็นคน ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ท่านผู้นั้นจะไปเกิดเป็นเทวดา หรือนางฟ้า ๕๐๐ ชาติ" นั่นหมายความว่า ถ้าหมดอายุเทวดา หรือนางฟ้าจุติแล้วก็เกิดทันที ๕๐๐ ครั้ง เมื่อบุญหย่อนลงมานิดหน่อย เกิดเป็นเทวดาเกิดเป็นนางฟ้าไม่ได้ ลงมาเป็นมนุษย์ จะเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิปกครองโลก ๕๐๐ ชาติ เมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๐๐ ชาติแล้ว บุญก็หย่อนลงมา ก็จะเป็นพระมหากษัตริย์ ๕๐๐ ชาติ หลังจากนั้น จะเป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ

     คำว่ามหาเศรษฐีนี่ มีเงินตั้งแต่ ๘๐ โกฏิ ขึ้นไปเขาเรียกว่า มหาเศรษฐี แต่ว่าตั้งแต่ ๔๐ โกฏิ ขึ้นไปเขาเรียก อนุเศรษฐี

     เมื่อเป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติแล้ว ก็เป็นอนุเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ หลังจากเป็นอนุเศรษฐี ๕๐๐ ชาติแล้ว ก็เป็นคหบดี ๕๐๐ ชาติ
 
     สรุปว่า การทอดกฐินครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านบอกว่านอกจากจะเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีแล้วบุคคลที่ทอดกฐินครั้งหนึ่งในชีวิต จะปรารถนาพระโพธิญานก็ย่อมได้ นั่นหมายความว่า จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ จะปรารถนา เป็นอัครสาวกก็ได้ จะปรารถนาเป็นมหาสาวกก็ได้ จะปรารถนานิพพาน เป็นพระอรหันต์ปกติก็ได้ ฉะนั้นการทอดกฐินแต่ละคราว ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทโปรดทราบถึงอานิสงส์คนที่เคยทอดกฐินแล้วแต่ละครั้ง รวมความว่า
ถ้ายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด คำว่า ยากจนเข็ญใจจะไม่มีแก่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกชาติ

 การทอดกฐินเป็นกาลทาน ปีหนึ่งทำได้ครั้งเดียว วัดหนึ่งทำได้ครั้งเดียวในปีหนึ่งๆ ต้องทำภายในกำหนดเวลา และผู้ทอดก็ต้องตระเตรียมจัดทำเป็นงานใหญ่ ต้องมีผู้ช่วยเหลือหลายคน จึงนิยมกันว่าเป็นพิธีบุญที่อานิสงส์แรงมากค่ะ

 ที่สำคัญ การทอดกฐินนี้ ผู้เข้าใจจึงปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง จะได้รับผลคือสมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติเพราะเราให้ทานเอง และสมบูรณ์ด้วยบริวารสมบัติเพราะชักชวนผู้อื่น บอกบุญแก่ญาติมิตรให้มาร่วมการกุศลอีกด้วยค่ะ กาลทานเช่นนี้ ก็เรียกว่า ทานทางพระธรรมวินัย

 

 

 

  เป็นไงค่ะเพื่อน อ่านแล้วเริ่มศรัทธาจะรับเป็นเจ้าภาพร่วมทอดกฐินสามัคคีที่วัดป่าเจริญราช สักกองไหมค่ะ  หรือจะมาร่วมบุญกับแพรก็ได้ค่ะ  ยินดีเสมอค่ะ

 

  ผลของการอธิฐานจิตขอให้ได้งานพิเศษทำ  เพื่อจะได้เอาเงินไปทำบุญทอดกฐินตามเป้าหมายนั้น  แพรจะเป็นยังไง  จะทำได้หรือไม่  จะต้องฟันผ่าอุปสรรคอะไรและจะมีอะไรสนุกๆบ้าง  แพรจะเล่าให้ฟังในตอนต่อไปค่ะ

 

 โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ

 อ่านบันทึกการสะสมบุญตอนต่อไปได้ที่นี่ค่ะ

 

 บัญชีบุญ

http://gotoknow.org/blog/kathinceremony/386630

 บุญพิเศษกับงานพิเศษ

http://gotoknow.org/blog/kathinceremony/386848

  ญาติธรรมใจบุญ

http://gotoknow.org/blog/kathinceremony/387458

 มารไม่มี บารมีไม่เกิด

http://gotoknow.org/blog/kathinceremony/388815 

 บำเพ็ญบารมี 10 ทัศ

http://gotoknow.org/blog/kathinceremony/389697

 อานิสงส์ของการถวายผ้า

http://gotoknow.org/blog/kathinceremony/390329

 สะสมเงิน เป็นทุนชีวิต

http://gotoknow.org/blog/kathinceremony/391824

 ปาฏิหาริย์แห่งการอธิฐานจิต

http://gotoknow.org/blog/kathinceremony/394853

หมายเลขบันทึก: 386592เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2010 15:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ดีมากค่ะ ขอให้บุณรักษานะคะ

ขอบคุณทุกคนค่ะ

แพรได้เขียนเล่าความพยายามสะสมบุญกับความพยายามบอกบุญเอาไว้ในตอนต่อไป

พี่ๆ เพื่อนๆอย่าลืมตามไปอ่านให้กำลังใจแพรหน่อยนะคะ

ของคุณมากๆค่ะ

บุญรักษา ธรรมคุ้มครองค่ะ

เข้ามาอ่านแล้วค่ะ น่ารักดี

ขออนุโมทนาในความตั้งใจนะคะ

ขอบคุณนะคะ สำหรับคำชมและกำลังใจดีๆจากคุณแอร์ค่ะ

ขอให้คุณแอร์สู้ๆเหมือนกันนะคะ

ขได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลย

ขออนุโมทนาครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท