อ้างอิง
(1) วิธีโค้ชแบบโสคราติส .โพสต์ ทูเดย์ - ไลฟ์สไตล์ [cited 2009 june่ีืำ 19]. Available from: http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=10761
(2) ปีเตอร์ ครีฟท์ (Peter Kreeft).วิธีแสวงหาสัจจะแบบโสคราติส. กรุงเทพฯ : มูลนิธิเด็ก, 2546 อ้างใน วิธีแสวงหาสัจจะแบบโสคราติส .Kidsquare [cited 2009 june่ีืำ 19]. Available from: http://www.kidsquare.com/show.php?pid=7056
(3) พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). วิชชา 3. พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม [cited 2009 june่ีืำ 19]. Available from: http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=106
(4) โสฬส ศิริไสย์ .Bohmian Dialogue “สุนทรียสนทนา” เพื่อการคิดร่วมกันอย่างเป็นธรรมชาติ: แนวคิดและวิธีการจัดการ .สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา [cited 2009 june่ีืำ 19]. Available from: http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=transteam&topic=10&page=2
(5) ศิวกานท์ ปทุมสูติ. ร้อยกรองจากต้นธารวจนะ เดวิด โบห์ม อ้างใน ชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์,ปาริชาต สถาปิตานนท์ .ไดอะล็อก: การสนทนาอย่างมีสมาธิ . ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล [cited 2009 june่ีืำ 19]. Available from: http://www.ce.mahidol.ac.th/web/ce_download/trianing/%E0%CD%A1%CA%D2%C3%20%CD.%AA%D1%C2%C7%D1%B2%B9%EC%20%A4%C3%D1%E9%A7%B7%D5%E81/Dialogue.ppt
สวัสดีครับคุณกวิน
น่าสนใจมาก ๆ ครับ เรื่องนี้กำลัง เป็นที่่สนใจ หรือ เห่อกันมากมายกว้างขวาง ใครไม่พูดเรื่องนี้ เชยไปเลย
แต่ที่่กำลังสนใจคือ เรารู้จริงกันแค่ไหน บางคนพูดมากทั้งที่ยังเข้าใจไม่หมดแต่พูดเพราะรู้มาบ้าง
ทำให้คิดถึง ปาโล แฟร์ ซึ่งกล่าวไว้ถึงเรื่อง วัฒนธรรมเงียบ บางคนไม่มีพื้นที่ในสังคม จึงไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่เงียบ
พูดไปกลัวไม่เป็น ภาษาเดียวกับกลุ่ม พวก ที่เขาคุยกันอยู่
ผมก็ต้องศึกษาบ้าง เพราะมีเพื่อนหลายคนคุยกันเรื่องนี้
ส่วนเรื่องเปาโล แฟร์รรี่นี้ ถ้าสนใจคุยกับคุณคนไม่มีรากได้ เธอศึกษาจนคนเรียกว่า "เจ้าแม่เปาโล แฟร์รี่" ครับ
ขอบคุณครับ :)
ปากจัดจังเลย จัดว่าดีค่ะ คุณกวิน
เมื่อไหร่ ฉันจะได้ กลอนไม่สุภาพของทานค่ะ
ต้องหมั้นก่อนถึงจะแต่งได้ครับ
คือต้องมุ่งมั่นก่อนจึงจะแต่งกลอนได้อยากได้กลอนเพราะๆต้องใจร่มๆครับ(เล่นตัวนั่นเอง)
สวัสดีค่ะคุณกวิน
บันทึกนี้ให้ความรู้มากมายและวิเคราะห์ไว้ดีมาก ๆ เลยค่ะ....
ไม่เชื่อหรอกว่าสิ่งที่เขาเรียกว่า dialogue นั้น จะเป็นคำตอบสุดท้ายของการแก้ปัญหาอันสลับซับซ้อนบนโลกใบนี้ได้ทุกเรื่อง แต่เขาคิดว่าสุนทรียสนทนาเป็นเพียงการเริ่มต้นของการแก้ปัญหาที่มนุษย์สร้างขึ้นนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
คนมักเข้าใจเรื่องของ "สุนทรียสนทนา" ตามแบบที่ได้รับการอบรมมาและบ้างก็อธิบายเพิ่มเติมตามความเห็นของตนเพิ่มไปอีก ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่... รากฐานของ dialogue มีมาตั้งแต่สมัย โสคราติส (Socrates) นักปราชญ์ชาวกรีก นั่นแล้ว และมีนักปราชญ์ นักคิดที่สืบทอดต่อกันมา โดยเฉพาะนำมาใช้กับงาน "การพัฒนาชุมชน" ค่ะ
คนที่ทำงานพัฒนาเพื่อให้ชาวบ้านเกิดความตระหนักรู้ กล้าที่จะ "พูด" ในสิ่งที่ตัวเองรู้ แม้จะไม่ได้พูด "ภาษาเดียวกันกับนักวิชาการ" ก็คือ เปาโล แฟร์รี่ นักปฏิวัติสังคมชาวบราซิล คนนี้เองค่ะ
(มาเจอคนวางยาไว้...โห...พี่คนตัดไม้ ยกให้คนไม่มีรากเป็น "เจ้าแม่เปาโล แฟร์รี่" เลยหรือคะ...ออกจะเขินเล็กน้อยค่ะ)
dialogue เป็นกระบวนการ วิธีการหนึ่งที่ใช้กระตุ้นให้มนุษย์รับรู้ถึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัว เมื่อมนุษย์ตระหนักถึงศักยภาพของตนแล้ว ก็จะกล้าพูด กล้าแสดงความรู้สึก กล้าคิดต่าง ... จึงหลุดพ้นจาก "วัฒนธรรมเงียบ" (Silence culture)
ซึ่งเปาโล แฟร์รี่ กล่าวไว้ว่า เจ้า "วัฒนธรรมเงียบ" (Silence culture) นี้ เป็นสิ่งที่ทำลายคุณค่าของความเป็นมนุษย์ (Dehumanization) อย่างแท้จริงค่ะ
แล้วอะไรจะน่าเศร้ามากไปกว่า...การที่มนุษย์ดูถูกมนุษย์ ด้วยกันอีกเล่า?
ชักอยากเล่าเรื่องของ เปาโล แฟร์รี หนุ่มในดวงใจเสียแล้วค่ะ
(^___^)
ขอบคุณคนไม่มีราก ครับ ได้ความรู้มากมายเลยครับ
บันทึกนี้อ่านสนุกและได้ความรู้ดีค่ะคุณกวิน ชอบค่ะ ชอบ
แถมด้วยคุณคนไม่มีรากที่มาต่อยอดเรื่องของเปาโล แฟร์รี ด้วย ฮ่า ๆ
เสร็จเรา.. สักวันหนึ่งอาจได้เอาไปใช้ อิ..อิ..
ขอบคุณนะคะคุณกวินที่เขียนบันทึกนี้ ..^__^..
กิตติกรรมประกาศ
ขอบคุณ ศ.ดร. กู เกิ้ล ด้วยนะครับ
ตามมาจากบันทึกนี้ค่ะ ชอบค่ะ แถมได้รู้จักวัฒนธรรมเงียบด้วย อิอิ ชอบๆ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณกวิน
แวะมาทักทายค่ะ...^_^...
มาส่งข่าวว่า หาหนังสือ เกี่ยวกับ แฟร์ให้ไม่ได้
เลยส่งบทความที่เคยเขียนส่งอาจารย์ไปให้อ่านพลาง ๆ ค่ะ
ไม่ค่อยสมบูรณ์นักนะคะ...ตอนนั้นมือใหม่ค่ะ
กำลังจะเขียนเป็นบันทึกลงใน G2K ค่ะ
ส่งให้ทางเมลแล้วนะคะ
(^___^)
ขอบคุณครับได้รับบทความแล้วครับ
เข้ามาอ่าน..ขอบคุณค่ะฝากขอบคุณคนไม่มีรากอีกคนนะคะที่ให้ความหมายซึ่งเปาโล แฟร์รี่ กล่าวไว้ว่า เจ้า "วัฒนธรรมเงียบ" (Silence culture) นี้ เป็นสิ่งที่ทำลายคุณค่าของความเป็นมนุษย์ อย่างแท้จริงค่ะ....
ขอบคุณพี่นุส ครับ ดอกไม้อะไรครับเนี่ย สวยดีเหมือนดอกดาหลา หรือพุทธรักษา
สวัสดีค่ะ
เข้ามาอ่าน และขอแก้ จากดอก ดาหลา เป็นกาหลาค่ะ
ขอบคุณๆ พี่ Sasinand และคุณพี่ Sila Phu-Chaya ครับ
สวัสดีค่ะ ไม่ได้พบกันนานแล้ว สบายดีนะคะ มาแวะทักทายเลยได้ความรู้กลับไปด้วย น่าสนใจและเป็นประโยชน์มากค่ะ