ใครจะเป็น โมเด็ม ระหว่างรัฐกับชุมชน ชุมชนกับชุมชน


สวัสดีครับทุกท่าน

          สบายดีกันนะครับ ทุกท่านคงรู้จักโมเด็มกันเป็นอย่างไรดีนะครับ โมเด็มจะทำหน้าที่ในการแปลงสัญญาณเพื่อให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตหรือคอมพิวเตอร์อีกหลายๆ ตัวได้

          เนื่องจากคอมพิวเตอร์จะใช้สัญญาณปิดเปิด หรือศูนย์หนึ่ง หรือว่า มีและไม่มี หรือที่เรียกว่าระบบดิจิตอล แต่การส่งข้อมูลไปตามสายสัญญาณทางโทรศัพท์จะเป็นสัญญาณอนาล็อก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ต่อเนื่อง ไ่ม่เป็นแบบปิดเปิด แต่จะเป็นสัญญาณต่อเนื่องเหมือนรูปคลื่นนั่นเอง

 

http://www.student.chula.ac.th/~47801940/images/modem_external1.gif
ภาพจาก http://www.student.chula.ac.th/~47801940/images/modem_external1.gif  

 

         โมเด็ม MODEM จะทำหน้าที่รับสัญญาณจากคอมพ์ ที่เป็นดิจิตอล และแปลงให้เป็นระบบอนาล็อกแล้วส่งไปตามสายสัญญาณ จากนั้น โมเด็มอีกตัวในฝั่งที่รับ จะทำหน้าที่แปลงอนาล็อกให้เป็นดิจิตอลเพื่อส่งต่อให้คอมพ์ อีกตัวหนึ่งเข้าใจได้ตรงกัน นั่นคือ ใน โมเด็มจะมี โม Mo (Modulator) และ Dem  (Demodulator) อยู่ด้วยกัน จึงเรียกรวมกันว่า โมเด็ม MODEM นั่นเอง

 

http://yourmicrosoft.msnth.com/athome/getmoredone/images/4stepstosetupyourhomewirelessnetwork/wireless_chart.jpg
ภาพจาก http://yourmicrosoft.msnth.com/athome/getmoredone/images/4stepstosetupyourhomewirelessnetwork/wireless_chart.jpg  

 

        จะเห็นว่าระหว่างคอมพ์สองเครื่องแม้ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติพื้นฐานที่ต่างๆ กัน ก็สามารถคุยกันได้ และคุยกันได้รู้เรื่องครับ  หากเรามองไปยังสังคม เราจะมองคอมพ์เป็นชุมชน หรือครอบครัว หรือว่าในระดับบุคคล ที่จะสื่อสารต่อกัน นั่นคือจะต้องมีการแปลงสัญญาณของชุมชนนั้นๆ ให้เป็นระบบที่จะสามารถส่งไปยังชุมชนอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันโดยมีมาตรฐานที่สามารถจะทำงานร่วมกันได้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ ถ่ายเทข้อมูลระหว่างกันได้

        ในระดับการทำงานของรัฐหรือระดับนโยบาย ก็เช่นกัน การจะสื่อสารถึงชุมชน ก็จำเป็นต้องมี โมเด็มในการสื่อสารด้วย และในการส่งข้อมูลจากชุมชนถึงรัฐหรือนโยบายรัฐก็จำเป็นต้องมีโมเด็มเชื่อมโยงเช่นกัน ดังนั้น รัฐไม่สามารถจะมี โม โดยไม่มีเด็ม ไ่ม่ได้  ชุมชนจะมีแต่เด็มอย่างเดียวก็ไม่ได้ครับ ต้องมีโม ในชุมชนด้วย

        ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและชุมชนต้องมี โมเด็มที่เป็นสื่อกลางในการพูดคุยกันและในข้อมูลที่ส่งผ่านนั้น ไม่ควรจะเป็นข้อมูลที่ขัดแย้ง..... ไม่ใช่ว่ารัฐกำหนดนโยบาย และแผนไว้แล้วให้ชุมชนทำตามแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่มีโอกาสรับฟังความคิดเห็นเลย การที่จะมีนโยบายอะไรจำเป็นมากๆ ที่รัฐจะต้องมีโมเด็มคือมีทั้งส่งแนวทางและรับฟังความคิดเห็นด้วย ชุมชนก็เช่นเดียวกัน นอกจากจะรับแล้วต้องมีการนำเสนอด้วยเช่นกัน เพื่อปรับสภาพให้ข้อมูลหรือแนวทางการปฏิบัติและการสร้างนโยบายให้กับชุมชนของตนเองได้ด้วย ชุมชนก็มีนโยบายของตัวเองในการบริหารจัดการภายใน โดยรัฐอาจจะต้องเป็นผู้เอื้ออำนวยและดูแลให้สภาพทุกอย่างเดินไปในแนวทางที่ดีได้

         การสื่อสารระหว่างชุมชนกับชุมชนก็เช่นกัน มีความจำเป็นที่จะต้องมีโมเด็มติดตั้งไว้ในชุมชน โมเด็มนั้นจะเป็นใคร จะเป็นตัวแทนหรือสมาชิก หรือว่าปราชญ์ชุมชน ก็ล้้วนมีความสำคัญแม้กระทั่ง คุณครูนักเรียนเองก็สามารถจะเป็นโมเด็มในการถ่ายเทรับฟังนำไปปฏิบัติได้เช่นกัน 

 

The image “http://www.rmuti.ac.th/user/thanyaphak/Web%20EMR/Web%20IS%20Environment%20gr.1/picture/sa4.gif” cannot be displayed, because it contains errors.
ภาพจาก http://www.rmuti.ac.th/user/thanyaphak/Web%20EMR/Web%20IS%20Environment%20gr.1/picture/sa4.gif  

 

         คุณคิดว่าระหว่างชุมชน กับชุมชน หรือชุมชนกับรัฐ หรือระดับนโยบาย ใคร...ควรจะทำหน้าที่เป็นโมเด็ม....ได้บ้างครับ...บ้านเรามีโมเด็มหรือไม่.....อย่างไร....เชิญคุณบรรเลงครับ

         การจัดการความรู้ในชุมชนสังคม...ก็จะเป็นจะต้องมีโมเด็มด้วยเช่นกัน แต่ไม่ใช่มีไว้เพื่อแปลงข้อมูลอย่างเดียว...จำเป็นต้องมีสมองในการคิดได้ด้วย...มากกว่าโมเด็มสำหรับคอมพิวเตอร์ครับ

ขอบคุณมากครับ  ด้วยมิตรภาพ

เม้ง 

หมายเลขบันทึก: 131035เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2007 22:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 19:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดีค่ะ

  กำลังพิจารณาว่าตนเอง พอจะเป็นโมเด็ม ของชุมชนได้บ้างไหม ก็พบว่า พอได้บ้าง แต่ถ้าคลื่นส่งมา จนแปลงสัญญาณไม่ทัน ก็คงเป็นแค่เครื่องที่หมดสภาพเหมือนกัน

สวัสดีค่ะคุณเม้ง

อธิบายได้ละเอียด อ่านแล้วเข้าใจเลยค่ะ  จริง ๆ เราจะหาตัวแปลงสัญญานเข้าสู่ชุมชน พูดง่าย  คือตัวกลางที่จะเข้าถึงชุมชนนั้น บางคร้้งราณีว่ามันมีนะค่ะ  แต่ขึ้นอยู่ว่าจะใช้หรือไม่  เท่านั้น อยากเขียนอีกมากมาย แต่ไม่รู้ว่าจะโดนแบนด์หรือไม่

อยากถามคุณเม้งว่าทำไมต้องเชิญคุณบรรเลงค่ะ  ทำไม ไม่เชิญราณีค่ะ  อิ อิ อะล้อเล่นค่ะ หุ หุ

P
1. ตันติราพันธ์

 

สวัสดีครับคุณตันติราพันธ์ (เรียกสกุลเลยนะครับ อิๆๆ)

  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ
  • การพิจารณาตัวเองพอจะช่วยได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ เลยนะครับ และเป็นสิ่งที่คุณเข้าใจได้ดีมากๆ เลยครับ เพราะเรื่องความเร็วนี่หล่ะครับ อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาได้ครับ
  • ตัวรับกับตัวส่งมีความจำเป็นที่ต้องทำงานสอดคล้องกันครับ เพราะว่าบริบทของสังคมแต่ละชุมชนนั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
  • แต่ละพื้นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่แตกต่างจากที่อื่นๆมีการเรียนรู้และปรับประยุกต์ได้ต่างๆ กัน
  • ตามหลักของโมเด็มคือ หากตัวส่งเร็วกว่าตัวรับ ข้อมูลก็จะถูกรอจนกว่าตัวรักจะรับได้หมด คือเอาใจผู้รับมาใส่ไว้พิจารณาเป็นเรื่องสำคัญครับ
  • ว่าไปแล้วเรื่องนี้ นำไปใช้การสอนได้เลยนะครับ ระหว่างเด็กกับครูนะครับ เป็นหลักของการสื่อสารครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ คุณครู สนุกในการทำงานนะครับ
P
2. Ranee

 

สวัสดีครับคุณราณี

  • ห้าๆๆๆๆๆ ขออนุญาตหัวเราะก่อนนะครับ
  • ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมครับ
  • หากคุณราณีกลัวเขียนแล้วโดนแบบก็เข้ารหัสไว้แบบโมเด็มซิครับ อิๆๆๆ แล้วมีการ Encode, Decode  เข้ารหัสและถอดรหัสก่อนอีกหนึ่งหรือสองรอบครับผม รับรองไม่โดนแบนแน่นอนครับผม แถมท้าทายอีกด้วยครับผม วันก่อนเข้าไปถอดรหัสจากบทความของพี่บางทรายสนุกดีครับผม
  • ที่ถามว่าทำไมต้องเชิญคุณบรรเลง...ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่สงสัย... คุณบรรเลง นี่เป็นญาติของ คุณต่างๆ ของ สคส. นะครับ ในระบบของ KM ที่มีคุณลิขิต คุณประสาน คุณอำนวจ คุณกิจ และอีกหลายๆ คุณนะครับ
  • ดังนั้นผู้่ร่วมเสนอทุกคนในแต่ละบทความ ทุกคนจะเป็นคุณบรรเลงครับผม คุณราณีก็เป็นคุณบรรเลงด้วยเช่นกันครับผม อิๆๆ คุริ คุริ ชิชิ..
  • ขอบคุณมากครับ

หวัดดีน้องชาย สบายดีนะ พี่ชื่นชมเม้งมากเลยนะดีใจที่วิทยาเขตเรามีคนเก่งอย่างน้อง พี่เพิ่งมาเป็นสมาชิกที่นี่ไม่นานคงต้องศึกษาจากน้องแล้วล่ะ 

บางครั้งโมเด็มก็ต้องการการดูแลรักษาเหมือนกันนะน้อง ใช้งานไปนานๆเริ่มฝืด อาจต้องเพิ่มบางอย่างที่ทำให้โมเด็มตัวนั้นมีกำลังในการส่งสัญญาณต่อไปก่อนที่มันจะหมดแรงเสียก่อน

อยากให้ทุกคนเป็นโมเด็มคอยส่งสัญาณต่อกันและกันตลอดเวลา ปัญหาจะได้ไม่มี ...

P
5. รัช

 

สวัสดีครับพี่สาว

  • สบายดีไหมครับ ดีใจจังครับ ได้เจอพี่รัชที่นี่
  • ผมเขียนๆ เอาไว้ปรับตัว ฝึกแนวคิดด้วยครับ เข้าใจสังคมให้มากๆ ขึ้นและปรับแนวคิดด้วยครับ
  • วันหนึ่งก็ค่อยกลับมาลองอ่านในสิ่งที่เขียนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับตัวเองด้วย นอกจากแลกเปลี่ยนกับญาติมิตรในนี้แล้วนะครับ เพราะความคิดบางครั้งจะเกิดได้ในช่วงเวลาหนึ่งและจะคิดแบบรายละเอียดได้เท่าเดิมอาจจะไม่ได้แล้วหรือบางทีอาจจะดีกว่าที่เคยเขียนไว้ หมายถึงรอบคอบมากขึ้นครับ
  • เห็นด้วยกับพี่มากๆ เลยครับ ว่าการดูแลรักษาโมเด็มนี่สำคัญมากๆ เลยครับ เพราะโมเด็มที่ออกจากเมืองไปบนยอดดอย หรือไปอยู่ไกลปืนเที่ยง เป็นการเสียสละมากๆ ครับ
  • โมเด็มที่ทำงานเพื่อสังคม ชุมชน แต่ตอนที่เจ็บป่วยกลับไม่มีใครสนใจ อะไรทำนองนี้นะครับ การดูแลให้สวัสดิภาพกับโมเด็มนั้นสำคัญมากๆ ครับ
  • ขอบคุณพี่รัชมากๆ เลยนะครับผม
  • รักษาสุขภาพนะครับ

สะกดคำว่าอินเทอร์เน็ตผิดอีกแล้วครับ อย่าว่าผมเรื่องมากเลย ภาษไทยของเรา ถ้าเราไม่ช่วยกันรักษา ก็ไม่รู้จะให้ใครมารักษาแล้วล่ะครับ

โมเด็มเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร แต่การสื่อสารจะไม่เกิดขึ้นหากผู้ส่งและผู้รับไม่ได้ต้องการสื่อสารถึงกันนะครับ อันนี้เริ่มต้นที่ทัศนคติ

 

P
7. Conductor

 

สวัสดีครับพี่ Conductor

  • ว้าาาวววว... ขอบคุณมากครับผม พลาดอีกจนได้ครับ ทั้งๆ ที่ผมพิมพ์คำนี้ทีไรผมต้องนึกถึงพี่ทุกครั้งเลยนะครับเนี่ย วันนี้พลาดอีกแล้วครับผม
  • ผมเลยต้องกาสีน้ำเงินเน้นเอาไว้ในข้อความครับ เอาไว้ปักธงรำลึกเตือนตัวผมอีกรอบครับ อิๆๆๆ
  • วันก่อนคุยกับเพื่อนเรื่อง มุกตลก กับ มุขตลก กันว่าใช้คำไหนครับ เพราะเราถูกสอนให้ใช้  ข.ไข่ กันมาตลอดครับ แต่จริงๆ เป็น ก.ไก่ ครับผม
  • จริงๆ ดีมากๆ เลยครับ หากคำในภาษาไทยสร้างเครือข่ายที่ดีให้กับผม เช่น คำว่าิอินเทอร์เน็ต ทำให้ผมนึกถึงพี่  คำว่า มุกตลก ทำให้ผมนึกถึงพี่อีกคนหนึ่ง พอผมจำได้แม่นแล้ว ใช้ได้ถูกแล้ว ไปเจอเด็กคนอื่นเขียนอินเทอร์์เน็ตผิดอีก ก็บอกเค้าต่อไปอีก เค้าก็จะจำได้อีกว่าหากจะเขียนอินเทอร์เน็ต ต้องเขียนอย่างนี้ แล้วเค้าก็จะคิดถึงผมอีก ถ่ายทอดไปเรื่อยๆ
  • จนในที่สุด ก็เป็นเครือข่าย อินเทอร์เน็ตที่แท้จริงด้วยครับ
  • ขอบคุณมากครับสำหรับส่วนเติมเต็มในส่วนของโมเด็มครับ  ผมหวังว่าวันหนึ่งหากมีโมเด็มของชุมชนที่ทำหน้าที่สื่อสารและร่วมกันประสานชุมชนให้ไปในแนวทางที่ควรเป็นอยู่บนพื้นฐานของสิ่งดีๆ ร่วมกัน ก็คงดีมากๆ เลยครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ

มุก = หอยทะเล
มุก(ตลก) = วิธีทำให้ขบขัน
มุข = หน้า ปาก; ทาง; หัวหน้า; ส่วนของตึกที่ยื่นออกมา มักอยู่ทางด้านหน้า
มุคธ์ = เขลา ไม่รู้เดียวสา

เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายของความแตกต่าง แต่ทำงานร่วมกัน และอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขครับ

ยากครับ

เพราะระบบการให้รางวัลไม่อยู่ตรงนี้ครับ

การเป็นโมเด็ม จะมองว่า

ไม่มีผลงานของตัวเอง

คอยแต่อ้างงานคนอื่น

ที่คนอื่นทำสำเร็จ

แบบที่นักการเมืองอ้างนั้น

มีกี่คนที่เชื่อ(อย่างสนิทใจ) ว่าจริง

 

ฉะนั้นตอนนี้ใครจะทำอะไรต้องมีเป็นโมเด็มเอง

แบบ Internal Modem

 

และคอมส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้น มี "Built in" มาให้เกือบทุกเรื่อง

หรือคนเราก็ต้องเป็นอย่างนั้น

แล้วสมองเราจะโตทันไหม

สมัยก่อน HDD ๑๐๐ M ก็เยี่ยมแล้ว

เดี๋ยวนี้ ๑๐๐GB ก็ยังว่าเล็กไป

มันจึงเทียบกันยากครับ

แต่ยังไงก็ยังใช้ Built in ครับ

ยังหา External Modem ไม่ได้ครับ

จึงกลับมาบูรณาการที่คุณตั้งคำถามไว้

เหมือนเดิม

 P

9. Conductor

สวัสดีครับพี่ 

  • ขอบคุณมากครับผม สำหรับข้อมูลเติมเต็มนะครับ
  • ได้ประโยชน์ร่วมกันเยอะครับ
  • ตอนเด็กๆ ผมชอบการเขียนตามคำบอกมากๆ นะครับ ผมว่าเป็นการท้าทายมากๆ เลย ทำให้รู้สึกอยากจะเพิ่มเติมคำศัพท์ให้กับตัวเองอยู่เรื่อยๆ
  • มีอยู่คำหนึ่งที่ผมจำได้ตอนนั้นผมอยู่ ป.หก ครับ แล้วมีเจ้าหน้าที่การศึกษาจากภายนอกมาทดสอบนักเรียน มีการทดสอบให้เขียนตามคำบอก และมีอยู่คำหนึ่งที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนตามประสาเด็กบ้านนอกครับ คือคำว่า พสกนิกร
  • สิ่งที่ผมเขียนไปในวันนั้นคือ พระศกนิกร เพราะได้ยินแล้วคิดพร้อมจินตนาการตาม และไม่รู้ด้วยครับว่าความหมายมันจะเป็นยังไง คิดว่าต้องเป็นพระแน่ๆ ครับ
  • เลยทำให้จำได้ถึงทุกวันนี้ และจำเหตุการณ์นั้นได้ชัดเจนครับ
  • ขอบคุณมากครับ 

สวัสดีค่ะ เม้ง สมพร ช่วยอารีย์

ต้องมีการแปลงสัญญาณของชุมชนนั้นๆ ให้เป็นระบบที่จะสามารถส่งไปยังชุมชนอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

  • ใครจะเป็น MODEM ...
  • ควรมีโมเด็มในทุกระดับค่ะ...บน..กลาง..ต่ำ (ไม่ได้ชวนเล่นการพนันนะคะ)
  • ระดับบน..กำหนดนโยบายบนฐาน "ภูมิสังคม" ควรต้องสามารถอธิบายนโยบายให้ระดับล่างถัดไป เข้าใจเป็นแนวเดียวกัน
  • ระดับกลาง...นำนโยบายไปปฏิบัติ...เข้าใจแนวนโยบาย...สื่อสารกันเข้าใจ...ปฏิบัติถูกต้อง....บรรลุวัตถุประสงค์ (สอบผ่าน)
  • ระดับล่าง....ผู้รับนโยบาย....ได้รับผล/เสพประโยชน์ของนโยบาย....และสามารถขยายผลเป็นวงกว้างได้
  • ซึ่งในทุกระดับ....ต้องมีทั้ง Give+Take
  • แต่ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าหนักไปทาง Take เกินไปหรือเปล่า...สังคมจึงได้เอียงกะเท่เร่ขนาดนี้ค่ะ

......!!.....

......!!!!......

P
10. ดร. แสวง รวยสูงเนิน

 

สวัสดีครับท่านอาจารย์แสวง

  • สบายดีไหมครับ
  • ขอบคุณมากๆเลยนะครับ สำหรับแนวคิดเรื่อง โมเด็มภายในนะครับ
  • จริงๆ แล้วจะว่าไม่มีผลงานผมว่าก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะครับ หากมองภาพรวมคืองานใหญ่ และเราไม่ยึดติดกับผลงานในระดับตัวบุคคล
  • นักการเมืองเองก็เช่นกัน ไม่สามารถที่จะอ้างว่านี่คือผลงานตัวเองเพราะไม่ได้ทำคนเดียวนะครับ
  • แม้แต่หนังสือที่เราเขียนแล้วแปลงสารลงในหนังสือเราก็ไม่ได้เป็นผลงานของเราคนเดียวครับ เพราะมันมีที่มาของรากเหง้าของความรู้ทั้งสิ้น
  • ดังนั้นผมคิดว่า การเป็นโมเด็มจำเป็นทั้งสองส่วนคือ เป็นทั้งภายในและภายนอกครับ โมเด็มภายในแบบเสียบการ์ดลงไปก็ถอดออกเปลี่ยนใหม่ได้ แต่แบบออนบอร์ด หรือ Built In มาแล้วนั้น เป็นอย่างไรก็อย่างนั้น ทำได้คือ enable, disable ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ใช่ไหมครับหากมีโมเด็มตัวใหม่มาติดตั้งเพิ่ม
  • ผมคิดว่าคนเราจำเป็นต้องมีโมเด็มทั้งสองส่วน และโมเด็มภายในอย่างที่อาจารย์ว่าก็สำคัญเสียด้วยครับ เพราะโมเด็มภายในนี้ จะต้องเชื่อมโยงองค์ความรู้ภายใน ซึ่งจะเกี่ยวข้อกับการบูรณาการอย่างที่ว่ามาในบทความก่อนหน้านี้ การบูรณาการในธรรมชาติเกิดมานานแล้ว เมื่อไหร่ถึงเวลาบูรณาการนโยบาย
  • เพราะวิวัฒนาการเกิด พัฒนาการเกิด สรรพสิ่งล้านเปลี่ยนแปลง เลยทำให้เราต้องรู้เท่าทันการสื่อสาร และการเข้าใจผู้ส่งและรู้รับ อย่างเท่าทัน และการรู้เท่าทันในระบบคิดด้วยเช่นกันครับ
  • บางครั้งต้องใช้ built in บางครั้งต้องใช้ external หรือบางครั้งใ้ช้ทั้งสองตัวพร้อมกันครับ คงแล้วแต่ว่าอยู่ตรงไหนใช่ไหมครับ หากอาจารย์อยู่ในรถตู้ internal model ก็สะดวกกว่าเยอะครับ แต่หากเสียบกับมือถือ ก็เป็น external เช่นกัน
  • ขอบคุณท่านอาจารย์มากครับ ทำให้เกิดประเด็นได้ร่วมคิดกันต่อไปครับ
P
12. Gutjang

 

สวัสดีครับคุณครูกั๊ต

  • อิๆๆๆ ขอบคุณมากๆ นะครับ ทำให้นึกถึงการพนันก็เพราะในวงเล็บนี่หล่ะครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยครับที่ช่วยต่อยอดระบบโมเด็มระดับบน กลาง ล่าง
  • เป็นทั้งสองแบบคือ ให้และรับ แบบว่า คนให้ก็สุขใจ คนรับก็สุขใจ สังคมก็ชื่นใจ
  • เพราะสังคมเรากำลังต้องปรับสู่ภาวะสมดุล ดังนั้นเลยต้องช่วยกันปรับครับ หากเอามากกว่าให้ ในเมื่อสิ่งที่มีจำกัด ภาวะการอดก็จะเกิดขึ้นจากนั้นจะมีภาวะการตายตามมา จนปรับเข้าสู่ภาวะสมดุลใหม่ครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ โมเด็มเริ่มสมบูรณ์มากขึ้นครับผม
วันนี้คุณเป็น โมเด็มแล้วหรือยังครับ
อ่านงานที่พี่เม้งเขียนแล้ว ผมมีความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นทุกครั้งเลยครับพี่

จากโมเด็ม สู่ ชุมชน

คุณเม้งนำเสนอและเปรียบเทียบได้เห็นภาพดีจริงๆ

 

ใครจะเป็นโมเด็มระหว่างรัฐกับชุมชน?

ก็ สส. ไงครับ แต่โมเด็มที่ชื่อ สส นี้คงต้องปรับจูนกันยกใหญ่

 

ใครจะเป็นโมเด็มระหว่างชุมชนกับชุมชน?

ก็ อบต. กับเทศบาล ไงครับ แต่โมเด็มที่ชื่อว่า อบต. ก็คงต้องปรับจูนกันมากทีเดียว

 

^_^ 

ตัวแปลงสัญญาณ

ขอมองในส่วน  "รัฐ กับ ชุมชน"

ผมมองว่ามีหลายกลุ่มครับ

กลุ่มแรก  เป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่นที่กระจายอำนาจให้คนท้องถิ่นได้บริหารชุมชนตนเอง ภายใต้กฏเกณฑ์ที่ควบคุมโดยรัฐ เช่น อปท,ผญบ,กำนัน 

กลุ่มที่สอง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเองที่ทำงานปฏิบัติแปลงนโยบายสู่ชุมชน กลุ่มนี้ ได้แก่ ครู ,จนท.สถานีอนามัย,และเจ้าหน้าที่อื่นๆที่ทำงานกับพื้นที่ 

กลุ่มที่สาม เป็นนักพัฒนาที่เป็นนักพัฒนาจากองค์กรภาคเอกชน และ นักวิชาการภายนอก

ทั้งสามกลุ่มมีการแปลงสัญญาณต่างความถี่กัน กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่แปลงสัญญาณจากชุมชนขึ้นมาสู่รัฐ กลุ่มที่สองดูเหมือนว่าแปลงสัญญาณจากรัฐสู่ชุมชนมากกว่า ส่วนกลุ่มที่สามกลางๆครับแปลงสัญญาณที่คาบเกี่ยวสัมพันธ์ร่วมกับสองกลุ่มแรก

ปัญหาอยู่ที่ว่า มีการแปลงสัญญาณที่ผิดพลาด เนื่องด้วยวิธีคิดการพัฒนา เพราะอาจไม่เข้าถึง เข้าใจชุมชนที่เพียงพอ รวมถึงปัจจัยต่างๆ

กลุ่มที่ หนึ่ง เป็นเรื่อง คอรัปชั่น และ พรรคพวก ตามน้ำ

กลุ่มที่สอง ทำตามนโยบาย ตามหน้าที่ ไม่ผูกพัน

กลุ่มที่สาม  อาจแฝงมาด้วยผลประโยชน์บางอย่าง

ที่เขียนเชิงลบออกมาอย่างนี้ สะท้อนให้เห็นความเป็นจริงว่า ชนบทไทยนับวันปัญหาซับซ้อน ซ้ำซากไปทุกที เพราะตัวเชื่อม (แปลง)สัญญาณที่ไม่มีประสิทธิภาพ และคุณภาพเพียงพอนั่นเองครับ

 

 

 

เม้งครับ (ขอต่ออีกนิดครับ)

ในส่วนการเชื่อม ชุมชน ต่อ ชุมชน นั้น  เราเรียก "เครือข่าย" นั่นเอง

การทำเครือข่าย "ตัวช่วย" สำคัญครับ

ตัวช่วย-ตัวเชื่อม  คือ องค์กรภาครัฐ เอกชน รวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้อง

แนวคิดของการเชื่อม เน้นที่ การสร้าง "กระบวนการเรียนรู้" ให้เชื่อมกันให้ได้ มีจุดมุ่งหมายร่วม,สร้างความรู้สึกร่วม,ระบบข้อมูลข่าวสาร,ยุทธศาสตร์

ผมคิดว่าแนวคิดเหล่านี้ เรานำมาประยุกต์พัฒนาเครือข่ายปราชญ์ชุมชนได้

 

 

 

P
16. Narongrit Boonyarit

 

สวัสดีครับน้องณรงฤทธิ์

  • ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมนะครับ
  • เขียนไว้ตามช่วงเวลาที่พร้อมๆ และรู้สึกอยากจะให้มันไหลๆ ออกมานะครับ แล้วจะเข้าไปเยี่ยมของน้องตามโอกาสเช่นกันนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ

 P

17. bunpot

สวัสดีครับคุณบรรพต

  • สบายดีไหมครับ ขอบคุณมากครับ ที่แวะมาฝากความเห็นไว้บ่อยๆ นะครับผม
  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ สำหรับคำตอบแต่ละข้อ พร้อมข้อเสนอแนะครับ ต้องปรับจูนโมเด็มอย่างที่ว่าจริงๆ ด้วยหล่ะครับ
  • เรื่องการ รับฟัง รับเอาไปคิด รับเอาไปแก้ปัญหา รับเอาไปพิจารณา เพื่อสร้างปัญญาร่วมกัน
  • ไม่งั้นมันก็เป็นการทำแบบแยกส่วนนี่หล่ะครับ บูรณาการก็ไม่เกิด เพราะโมเด็มเองก็บูรณาการในการแปลงสัญญาณเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะส่งภาษาอะไรผ่านทางสาย หรือเป็นข้อมูล ภาพ วีดีโอ ข้อความ เสียง ตัวอักษร หรืออะไร โมเด็มก็ต้องจัดการแปลงแล้วส่ง รับแล้วส่ง เพื่อให้เข้ากันกับชุมชนต่างๆ
  • อีกอย่างโมเด็มควรจะเป็นผู้ที่รับรู้เรื่องจากอย่างน้อยทั้งสองฝ่าย เพื่อจะเชื่อมโยงแบบสหสาขา สหชุมชนได้นะครับ
  • ขอบคุณมากครับ
P
18. จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

 

สวัสดีครับเอก

  • ขอบคุณมากๆ นะครับ ที่มาร่วมขยายสัญญาณตัวแปลงสัญญาณนะครับ ทั้งรัฐและชุมชน ชุมชนและชุมชน  และระดับอื่นๆ พร้อมแบบกลุ่มต่างๆ ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นนะครับ
  • สำหรับปัญหา ก็อย่างที่เอกว่านะครับ เรื่องการแปลงสัญญาณที่ผิดพลาด นั่นคือ โมเด็มมีความเห็นอื่นเพิ่มเข้าไปเจือปนด้วย ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่หวังดีหรือว่าหวังลบก็แล้วแต่นะครับ
  • เราถึงจำเป็นต้องมีการตั้งมาตรฐานของการสื่อสาร ของโมเด็มนะครับ การเลือกตัวแทน ก็เป็นการตั้งคัดกรองคุณสมบัติของโมเด็มด้วยอีกแบบหนึ่งครับ
  • นอกจากนั้น โมเด็มภายในของสมาชิกในสังคม ชุมชน ก็ต้องทำหน้าที่ประสานกับสมองด้วยครับ เพื่อตรวจสอบเช่นกัน เราต้องตรวจสอบโมเด็มอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นโมเด็มภายใน(ตัวเรา) หรือโมเด็มภายนอก(ผู้ประสาน ตัวกลาง) ในชุมชนด้วย เพื่อดูว่าการรับส่งข้อมูล มันไปเจอคอขวด ติดท่อน้ำอุดตันอยู่ตรงไหนบ้างครับ ถึงจะทำให้น้ำ อากาศ ไหลเวียนโลหิตได้ดีครับ
  • สำหรับเครือข่าย เป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญมากๆ นะครับ หากไร้เครือข่ายแล้ว ก็ไม่ต้องมีโมเด็มนะครับ เพราะไม่ต้องสื่อสารภายนอกเลย เพราะโมเด็มใช้สื่อสารระหว่างภายนอก ส่วนภายในก็ีมีตัวสื่อสารอย่างไร ในระบบร่างกายตัวเองที่ต้องประสานงานกัน จะเรียกว่าโมเด็มด้วยก็ได้ครับ
  • หากไม่มีเครือข่าย ก็เรียกว่า ยืนเอกา สแตนอะโลน นั่นเองครับผม
  • แต่หากมีเครือข่าย กระบวนการเรียนรู้ การปรับตัวมันก็จะเกิดครับ
  • น้ำสีสองชนิดที่เราเทใส่ในอ่างกระจก เค้ายังปรับตัวเข้าหากันได้เลย ทั้งๆ ที่ไม่มีชีวิตนะครับ แล้วคนเรามีชีวิต ไม่น่าจะยากมากที่จะปรับตัวเข้าหากันเพื่อเจริญเป็นเครือข่าย
  • ขอบคุณเอกมากนะครับ ที่มาช่วยกันต่อเติม
  • คุณเม้งขา..ไม่มีโมเด็มคะ
  • ป่าว...กวนนะคุณ..ก็ที่ทำงานเชื่อมต่อเครือข่าย..ผ่านสายแลนไงคะ...
  • แต่โอ้โหคุณ มันก็ไม่ได้เรื่องเหมือนกัน เน็ตช้าเป็นเต่าคลานเลย เพราะทั้ง sever และ hub ไม่สมานไมตรีกัน...มัน overload ค่า
  • อิอิ..หนทางไปสู่ดวงดาว..บางคนขึ้นบันไดไปทีละขั้น แต่บางคนใช้สะพานสายรุ้ง ข้ามหัวคนอื่นไป...คนไทยชอบใช้ทางลัดคะคุณ..แถมมีถอนทุนคืนด้วยนะ..ว่าแต่ว่ามันเรื่องเดียวกับโมเด็มไหมคะนี่ ฮ่าๆ
P
23. naree suwan

 

สวัสดีครับคุณนารี

  •  ขอบคุณมากครับผม
  • อิๆๆ ไม่มีโมเด็มเลยหรือครับ
  • ใช้แลนกับฮับหรือครับ จะเขียนว่า ฮับหรืองับดีครับ ห้าาาๆๆๆ หรือว่า งาบดีครับ
  • อุปกรณ์การสื่อสารนี่สำคัญนะครับ ไม่ว่าจะเป็น ตาหูจมูกปากกายใจมือผิวหนัง หากทำงานไม่ประสานกันนี่เกิดปัญหาได้จริงๆเลยครับ
  • ยิ่งนวัตกรรมก็เช่นกันครับ บางทีมีปัญหาใช้เหตุผลไม่ได้ก็ต้องมานั่งใช้หลักการลองผิดลองถูกนะครับ กลายเป็นขึ้นกับลมฟ้าอากาศหรือเปล่าหนอ
  • การใช้ทางลัดก็มีโอกาสโดนสอยได้ง่ายๆ เหมือนกันนะครับ  ถอนทุนคืนหรือว่าทั้งกลางคืนกลางวันก็เช่นกันนะครับ อาจจะโดนสอยร่วงมาเยอะแล้วครับ
  • ว่าไปแล้วก็คือเรื่องเดียวกับโมเด็มนะครับ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กัน
  • อิๆๆๆ ขอบคุณมากครับผม ที่มาทำให้ได้ทั้งสาระและรอยยิ้มครับผม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท