เนื่องจากท่านอาจารย์ JJ มาทวงสัญญาในบันทึกคนดอยค่ะ
JJ
เมื่อ พฤ. 18 ต.ค. 2550 @
16:25
ต้องกราบขอประทานโทษท่านอาจารย์ JJ เป็นอย่างสูง ที่ได้สัญญาว่าจะบอกวิธีการทำแกงกระหรี่ญี่ปุ่น (คะเร...Karei) แต่ยุ่งๆ วุ่นวายกับเรื่องอื่น เลยยังไม่ได้เขียน วันนี้ขอเขียนเลยนะค่ะ...เข้ากับบรรยากาศที่จะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นพอดีค่ะ
อาหารอย่างหนึ่งที่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น คือ แกงกระหรี่ Japanese Curry ซึ่งเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า カレー karē, หรือ カリー karī หรือ คะเร ซึ่งดัดแปลงมาจากแกงกระหรี่ของชาวอินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน แถบโน้นค่ะ ...
วิธีการที่ญี่ปุ่น ก็มีหลากหลายสูตร ทั้งแบบกลิ่นเครื่องเทศแรง และรสเผ็ด คล้ายต้นตำรับ สำหรับผู้ใหญ่ ไปถึงแบบไม่มีกลิ่นเครื่องเทศแรงๆ และไม่มีความเผ็ดเลยสำหรับเด็กๆ
หน้าตาของอาหารเป็นอย่างนี้ค่ะ
สำหรับเราที่ชอบก็สามารถปรุงและทำรับประทานเองได้ที่บ้านง่ายๆ ค่ะเนื่องจากมีเครื่องแกงสำเร็จรูปวางขาย หลากหลายยี่ห้อ และรสชาด ก็เลือกซื้อกันตามชอบค่ะ คราวที่ ท่านอาจารย์ JJ ไป Okinawa เพื่อดูงานที่มหาวิทยาลัยริวกิว (University of the Ryukyus) ดิฉันได้ซื้อเครื่องแกงสำเร็จรูป และแนะนำให้ อ.JJ ซื้อด้วยค่ะ
การทำแกงคะเร มีหลากหลายสูตรนะค่ะ แต่ที่ดิฉันชอบและเพื่อนสอนมา และพอมาทำที่บ้านก็ปรับไปเรื่อยๆ ตามแต่มีวัตถุดิบ ก็มีสูตรและวิธีดังนี้ค่ะ
เครื่องปรุง
1. ก้อนเครื่องแกงคะเร สำเร็จรูป
2. กระดูกซี่โครงหมูอ่อน (ปกติญี่ปุ่นใช้ เนื้อวัว หรือ หมู หรือ ไก่่่ ตามแต่ชอบค่ะ) บางครั้งเราใช้กุ้ง หอย ปลาหมึก ค่ะ ปนๆ กันไป
3. ผัก ที่เป็นมาตรฐานเลยก็มี หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง แครอท (หั่นเป็นชิ้นๆ หากชอบให้เปื่อยเนียนไปกับแกงก็หั่นชิ้นเล็กๆ แต่หากชอบเคี้ยวก็หั่นชื้นพอคำก็ดีค่ะ ... ดิฉันชอบทานเป็นชิ้นๆ ...ฟันดีค่ะ)
4. ผักเสริม ที่ญี่ปุ่นมีผักต้มเป็นถุงที่หั่นเป็นชิ้นๆ แล้ว ประกอบด้วยหน่อไม้ ผักกูด เห็นหูหนู เห็ดเข็มทอง เห็นสีน้ำตาลคล้ายๆ เยลลี่) แต่บ้านเรายังไม่มีสำเร็จแบบนี้ เราก็ใช้ที่สดๆ มาหั่นค่ะ ปกติจะมี หน่อไม้หวาน เห็นหูหนู (สีดำ) ข้าวโพดอ่อน เห็นกระด้างดอกเล็กๆ บางคราวเคยมีแปะก้วย ด้วยค่ะ
5. น้ำตาล ซีอิ๋วขาว
วิธีการ
1. ใส่น้ำครึ่งหม้อ ต้มจนร้อนเกือบเดือด
2. ใส่ กระดูกหมูอ่อน หรือ เนื้อสัตว์ตามชอบ
3. ต้มจนเนื้อสุก
4. ใส่ผัก ทุกชนิด ลงทั้งหมด ต้มจนผักสุก
5. บิเครื่องแกงคะเร สำเร็จรูปลงไป แล้วคน เบาๆ ให้เครื่องแกงละลายตลอด มิฉะนั้น เครื่องแกงอาจตกลงไปกองที่ก้นหมอ แล้วไหม้ค่ะ
6. เติมเครื่องแกง และคน จนกระทั่ง น้ำแกงมีลักษณะ ข้นๆ ชิมดูแล้วมีรสชาด ของแกง
7. ปรุงแกงด้วย น้ำตาลและซีอิ้วขาวตามชอบ
การรับประทาน
ตักข้าวสวยใส่จานครึ่งจาน และตักแกงลงไปอีกครึ่งจาน ทานกับเครื่องเคียงพวกผักดอง (Fukujinzuke หรือ Rakkyo)
แต่ถ้าไม่มี ดิฉันใช้หัวไชโป้ว สุรินทร์แทนค่ะ
แค่นี้ ก็อร่อยแล้วค่ะ... ท่าน อ.JJ ทำแล้ว ได้ผลประการใด มาเล่าสูกันฟังด้วยนะค่ะ
ท่านใดมีสูตรอื่นเอามาแลกกันนะค่ะ....ขอบคุณค่ะ
ขอขอบคุณอาจารย์ Paew...
สวัสดีค่ะ อ.แป๋ว
อ.แป๋ว ดูหน้าตาน่าทานมากเลย อยากชิมซะแล้วกำลังหิวซะด้วย
เรียน อ.แป๋ว ผู้หวานแหว๋ว ไปกับงาน
สวัสดีค่ะ
เวลาทำอาหารญี่ปุ่นทานที่บ้าน บางทีไม่มีเครื่องเคียง
ได้ไอเดียแล้ว ว่าใช้หัวไชโป๊วหวานยำค่ะ
รอบันทึก Tour JAPAN ค่ะ
สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าท่านใดได้ลองทำกันบ้างแล้วค่ะ
คนละรสชาดกับบ้านเราค่ะ และคนละรสชาดกับต้นกำเนิดแกงกะหรี่ด้วยค่ะ
ไม่น่าจะเกี่ยวกันนะค่ะ คนละรสชาดเลยครับ ...แต่อาจจะเกี่ยวที่เป็นอาหารญี่ปุ่นเหมือนกันก็ได้จ้ะ
ขอบคุณมากค่ะอาจารย์หมอ อาจารย์ทำทานดูนะค่ะ น่าจะเป็นอาหารสุขภาพได้ค่ะ
ตอนนี้กลับมาแล้วค่ะพี่ติ๋ว ขอบคุณมากค่ะ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพตามคำอวยพรของพี่ติ๋วแล้วค่ะ
อาจได้ชิมที่ดงหลวงนะค่ะ
อาจารย์ลองทำดูยังค่ะ กลับมามีอีกเมนูให้อาจารย์ลองทำดูด้วยค่ะ
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ นั่งชั้นธุรกิจจากขอนแก่น-กรุงเทพฯ เท่านั้นค่ะ ใช้ไมล์สะสมไปแลกค่ะ ... สนุก และสุขภาพดีตลอด trip เลยค่ะ ...ทานข้าวได้เยอะมากๆ น้ำหนักเพิ่มมา 1 Kg ค่ะ
พี่ศศินันท์ลองแล้วยังค่ะ อร่อยมั้ยค่ะ
กลับมาแล้วจ้า ยังไม่ได้คุยกันเลยนะค่ะ คิดถึงเช่นกันค่ะ
รอคุณทวีสินส่งภาพที่พี่เอาไปรวมไว้ใน โน๊ตบุ๊คของน้องที่หอบเครื่องคอมไปค่ะ เพราะแผ่นความจำกล้องเต็ม จึงต้องไปโหลดลงเครื่องไว้ค่ะ
คุณ nun ลองทำดูแล้วอร่อยยังไงมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะค่ะ
น้องซูซานก็ชอบเหมือนกันหรอค่ะ พี่ก็ชอบทานค่ะ เคยทานที่เพื่อนบังคลาเทศทำให้ทานด้วย แต่รสชาดก็ต่างไปค่ะ แต่สรุปว่าก็อร่อยกันคนละแบบค่ะ เหมือนญี่ปุ่นก็นำมาปรับปรุงให้ได้รสชาดที่ถูกลิ้นคนญี่ปุ่นอ่ะค่ะ
คิดถึงน้องซูซานเหมือนกันค่ะ...มาดงหลวงได้มั้ยค่ะ...พี่จะทำแกงคะเรให้ทาน นะ นะ
กำลังคิดค่ะว่า จะทำแกงสูตรนี้ที่เฮฮาศาสตร์ 3 ที่ดงหลวงค่ะ สนใจ มาร่วมงานที่ดงหลวงนะค่ะ