วิจัย...เป็นงานที่เข้ามาอยู่ในระบบการทำงานของครูแล้ว  เพราะความเชื่อว่า.....  งานวิจัยในชั้นเรียนของครูท่านนั้นจะนำแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียนของตนเอง 

นั่น หมายความว่า.....ต้องการให้ครูรู้จักการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระว่างการสอน  ซึ่งครูผู้สอนหลายๆท่านได้ทำอยู่แล้วล่ะกับการแก้ปัญหานั้นๆ   แต่นำมาจัดกระทำให้เป็นระบบ  

ที่บอกว่า....ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยในการสอน   เห็นว่า...ไม่จริงกระมัง  หากท่านสอนนักเรียน ไม่ใช่สอนหนังสือ  ท่านต้องพบกับปัญหา  โดยเฉพาะ....การสอนภาษา  เกิดขึ้นกับนักเรียนแน่นอน 

มองเผินๆ  ก็พบแล้วว่า....นักเรียนแต่ละคนมีศักยภาพทางการเรียนรู้  เจตคติ  และพฤติกรรมที่แสดงออก  แตกต่างกันแน่นอน  

จะเริ่มงานวิจัยในชั้นเรียนอย่างไรหรือ  เป็นคำถามที่มีมาหาครูอ้อยบ่อยมากในระยะนี้  เพราะงานวิจัยในชั้นเรียน  เริ่มเข้ามาแทรกแซงในชีวิตของการเป็นครูเสียแล้ว   จะปฏิเสธไม่ได้เสียแล้ว  

หลายๆคนมองงานวิจัยในชั้นเรียนจะต้องเหมือนๆกับวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาปริญญาโทเล่มหนาๆ เหล่านั้น   ครูบางคนถามว่าต้องทำ 5 บทด้วยหรือ  ครูหลายๆคนถามว่า..ทำวิจัยหน้าเดียวได้หรือไม่  

เรามาทำความเข้าใจไปพร้อมๆกันเสียก่อนว่า...จะเริ่มอย่างไร  ให้ชัดเจนที่สุด  และไม่หลงทางด้วย   

ครูอ้อยก็ไม่ใช่ปรมาจารย์อะไรมาจากไหน ที่จะเก่งเลิศเลอ  หรือวิเศษ พิเศษ อะไรปานนั้น  เพียงแต่ ชอบ และสนใจมานาน เล่า และบอก เพื่อนตามประสบการณ์ที่ได้พบ ได้ทำ  ได้เป็นที่ปรึกษา และพบกับความสำเร็จ ....ก็เท่านั้นเอง 

หลายๆวันผ่านมานี้  ครูอ้อย ปวดศีรษะกับการทำงาน และช่วยเพื่อนมากๆ  จะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธก็ไม่ได้เสียแล้ว ....เพราะใจ...ใจชอบที่จะช่วยเพื่อน เท่าที่จะทำได้ 

เมื่อวานนี้  เพื่อนก็นำงานอาจารย์ 3 เชิงประจักษ์ที่ผ่านแล้วมาคืน บอกว่า  ได้ดู และเลียนแบบพร้อมกับนำสิ่งที่ได้ทำมาให้ครูอ้อยดูด้วย....ชื่นใจจัง 

ตอนกลางวันก็มีพี่ครูมาหา  มาแอบดูว่า  ครูอ้อยทำอะไร เปิดดูนั่น ดูนี่ และ พูดออกมาว่า...แวะมาหา  ไม่เสียดายเวลาเลย  ได้รู้ได้เห็นได้เข้าใจ...เท่านี้ครูอ้อย ก็ชื่นใจ

ถึงแม้ว่า จะทำกาแฟหกเปรอะผลงานก็ตาม...ช่างมัน  

สำหรับเมื่อเช้านี้ พี่ครูที่กำลังทำผลงาน ก็เดินมาขอความช่วยเหลือ สายๆ จะมาหาอีก  ...ทั้งๆ ที่ งานของครูอ้อย ก็รอคิวจะต้องทำ  แต่ก็ต้อง ปลีกเวลา พูดคุย และให้ความรู้ เท่าที่มีอยู่..ก่อนจะจากไป ก็แบ่งน้ำส้มคั้นให้ครูอ้อย 1 แก้ว  น้ำใจดีจริงๆเชียว 

เห็นไหม  ครูกำลัง หมุนเวียน เดินหน้า วิ่งเหยาะ  ไม่มีใครนิ่งนอนใจอีกแล้ว...ทำไม  หน่วยงานอื่น  เขาไม่ต้องวุ่นวายอะไรมากนัก ถึงเวลาก็ได้ เลยเงินประจำตำแหน่งนี่.....

*****

สำหรับบันทึกนี้จะแนะนำ  สำหรับครูผู้สอนที่กำลังจะเริ่ม ที่จะทำวิจัยในชั้นเรียน  

ท่านต้องเริ่ม...ที่...แผนการจัดการเรียนรู้  ที่ท่านสอน และบันทึกหลังสอนว่าเกิดปัญหาอะไร   และแก้ปัญหาอย่างไร   กับใคร  เนื้อหาอะไร   ท่านนำตรงนี้ล่ะ มาคิด..คิด..คิด 

เห็นไหม  มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ทีเดียว  แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะ  ...แผนการจัดการเรียนรู้ของท่านก็มีอยู่แล้ว  

หากท่านจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริงกับนักเรียนของท่าน  นำปัญหา  หลายๆ ปัญหา ที่มีแนวการจัดการเรียนรู้ เนื้อหาคล้ายๆกันมาแก้ปัญหา...สร้างนวัตกรรม  หาประสิทธิภาพของนวัตกรรมนั้น  โดยมีเครื่องมือ ข้อสอบทดสอบนักเรียน ก่อนและหลังเรียน  ตามขั้นตอนวิธีวิจัยของเรื่องนวัตกรรม 

ยกตัวอย่าง ง่ายๆ  ครูอ้อยสอนให้นักเรียนออกเสียงคำ แล้วเกิดปัญหา คือ การออกเสียงตัวพยัญชนะ....  ครูอ้อยก็คิด นวัตกรรม ที่เป็นชุดฝึก ให้นักเรียนออกเสียง  เครื่องมือของครูอ้อยก็จะมี ชุดฝึก แบบทดสอบก่อนและหลัง  แบบประเมินพฤติกรรมการอ่านของนักเรียน  ...แล้วเก็บข้อมูล  กับกลุ่มนักเรียน

ท่านต้องอ่านหนังสือ  อ่านเรื่องวิจัยในชั้นเรียน  มาประกอบการทำวิจัยในชั้นเรียนของท่าน   ท่านจะนำงานวิจัยของท่านอื่นๆมาเทียบเคียง  สำหรับวรรณกรรมที่ต้องศึกษานั้น ก็เป็นเรื่องสำคัญ  ที่จะส่งเสริมให้งานของท่านมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น...

เริ่มเลยค่ะ...ไปพร้อมๆกับครูอ้อยนี่ล่ะค่ะ...

เป็นกำลังใจให้เสมอ 

โปรดรออ่านบันทึกต่อไป