ไม่ว่าเราจะเคยเป็นอะไร สุดท้ายก็แค่นั้น ... (ท่านชุติปัญโญ)


ชีวิตเป็นสมบัติอันล้ำค่า เป็นสิ่งที่เราควรทะนุถนอมด้วยความใส่ใจ แม้วันหนึ่งจะยุติลงตามบทบาทสมมุติของโลกก็ตามที แต่เราก็รู้วาได้ฝากอะไรไว้เป็นรอยจารึกในประวัติศาสตร์ของการเกิดนี้

สถานการณ์ช่วงนี้ทำให้ผมนึกถึง ข้อเขียนของท่านชุติปัญโญ เรื่อง "ไม่ว่าเราจะเคยเป็นอะไร สุดท้ายก็แค่นั้น" ... อ้างจากหนังสือ ชื่อ "ความสุขที่หายไป ตามกลับคืนได้หรือยัง ?"

 

**********************************************************************

การเกิดมาของคนเรามักพ่วงมาด้วยความคาดหวังว่า ชีวิตจะดีขึ้น ทุกความคิดและการกระทำจึงทุ่มเต็มที่กับสิ่งที่หมายปองนั้น เราจึงได้เห็นปรากฏการณ์ที่เคลือบด้วยความฝันของคนเราอยู่มิขาดสาย ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็ฟ้องให้รู้ว่า ทุกสิ่งที่ได้มาย่อมแตกต่างกันออกไป อยู่ที่ว่าใครจะมีวิธีเกี่ยวข้องกับสิ่งที่แสวงหานั้นอย่างไร

แต่ผู้อ่านเชื่อไหมว่า ขณะที่วิ่งตามสิ่งที่คิดว่าจะทำให้เรามีความสุขสุดแรงเกิดขึ้นนั้น มักมีสิ่งที่คอยชะลอการเติบโตของความสมหวังเสมอ นั่นก็คือ "ความไม่แน่นอน" ซึ่งเป็นตัวแปรที่ทำให้เราสมหวังและผิดหวังในคราเดียวกัน ขึ้นอยู่ที่จังหวะที่เกี่ยวข้องในขณะนั้น

 

แต่ก็น่าแปลกใจที่ดูเหมือนว่า เรากลับไม่เคยสนใจความไม่แน่นอนนั้น จึงตะบึงไปตามความฝันด้วยความหวังที่เกินร้อยจนลืมเผื่อใจเจ็บเวลาที่พลาดจากเป้าหมายที่ต้องการ ด้วยเหตุนี้ จึงได้เห็นคนที่เจ็บตัวและเจ็บใจเพราะการแสวงหาสิ่งที่คิดว่า ดีที่สุดสำหรับตัวเองอยู่เรื่อยมา

แม้ความจริงของธรรมชาติจะฟ้องว่า ชีวิตของคนเรานั้นไม่ว่าจะเคยเป็นอะไรมา เคยได้สัมผัสกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรืออาจจะล้มถึงบาดเจ็บปางตาย สุดท้ายสิ่งที่ได้สัมผัสมาก็แค่นั้นเอง ทุกคนล้วนต้องยุติบทบาทสมมุติที่ได้มาด้วยการจบลงที่ความตาย แต่คนเรากลับใช้ชีวิตประหนึ่งว่าจะไม่จากกันในชาตินี้

 

ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าทุกชีวิตเกิดมาต้องตายและมีจุดจบในตัวของมันเอง แต่นั่นอาจเป็นเพียงความรู้สึกที่เป็นความคิดเท่านั้น ไม่ใช่ความเข้าใจจากการตระหนักรู้ที่เกิดจากปัญญา จึงทำให้เราประมาทที่จะใส่ใจกับคุณค่าและสาระที่ชีวิตพึงจะมี

เพราะเรามักคิดรวบยอดกับชีวิตของตัวเองว่า "คงไม่ตายง่าย ๆ หรอก" ด้วยคำกล่าวเพียงสั้น ๆ นี้ เราจะยอมแลกชีวิตที่เหลืออยู่บนเส้นทางของความประมาท ยึดติดอยู่กับวัตถุที่ไร้ความรู้สึก หลงอยู่กับความลวงของชื่อเสียงที่ได้มา โดยลืมไปว่าเมื่อถึงวันหนึ่งของชีวิต ทรัพย์ภายนอกที่มีและชื่อเสียงจอมปลอมที่ได้มา ก็มิสามารถพาไปสู่ความสุขที่แท้จริงได้

 

ลองสำรวจชีวิตของเรากับพระพุทธเจ้า แล้วไตร่ตรองถึงความแตกต่างระหว่างคุณค่าในชีวิตของพระองค์และตัวเรา พระพุทธองค์กับเรามีกายเนื้อและจิตใจเช่นเดียวกัน เสมือนหนึ่งว่าไม่มีอะไรที่แตกต่างกันในแง่ของรูปกายสังขาร

ถ้าพระองค์เป็นแต่เพียงเจ้าชายนามว่า สิทธัตถะ และอยู่เสวยสุขแต่ในวังเพียงอย่างเดียว ประวัติศาสตร์ที่เราได้รู้จักก็คงเป็นเพียงเรื่องเล่าของเจ้าชายพระองค์หนึ่งที่ครองนครในประเทศอินเดียเท่านั้น แต่เพราะพระพุทธองค์คิดนอกกรอบ คิดไม่เหมือนใครอื่น แต่เป็นไปเพื่อการสลัดตัวเองให้หลุดจากวิถีเดิม ๆ ที่ต้องจมอยู่กับความรักและชัง เพื่อค้นหาคุณค่าของชีวิตที่น่าจะมีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่

สุดท้ายสิ่งที่พระองค์ประสบจึงเป็นประวัติศาสตร์แห่งชีวิตที่เราไม่อาจลืมได้ แม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานเพียงใด รอยจารึกคุณค่าของพระองค์ก็ยังประทับอยู่ในใจผองชนตลอดมา นั่นคือประวัติศาสตร์การกำเนิดชีวิตของพระองค์ และกาลเวลาที่ทรงคุณค่าอย่างแท้จริง

 

เมื่อหันกลับมามองชีวิตของเราเองล่ะ เช้าและเย็นที่กาลเวลาพัดผ่านมา ชีวิตเราเรียนรู้อะไรที่เป็นแก่นสารบ้างหรือยัง ? นอกจากความคิดที่ว่าวันนี้ได้มามากเท่าไร มีอะไรที่สมอยากทางความรู้สึกของตัวเองบ้าง ถ้าค้นหาคุณค่าของชีวิตได้เพียงแค่นี้ นั่นคือมิติแห่งความมืดบอดท่ามกลางดวงตาที่มองเห็น

แต่ถ้ารู้จักมองชีวิตให้ครบทุกด้าน ทั้งมิติของการดำรงอยู่ในปัจจุบัน และภาวะด้านในจิตใจที่เราควรมองให้เห็น เราย่อมรู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับวัตถุของโลกอย่างไรจึงจะไร้ปัญหา ทำอย่างไรจิตวิญญาณจึงจะรู้แจ้งความจริงแห่งชีวีที่มีอยู่

 

เพราะหากเข้าใจธรรมชาติของสรรพสิ่งอย่างรู้เท่าทันย่อมทำให้เรารู้จักใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่า ก่อเป็นความสุขทั้งโลกแห่งวัตถุแบบชาวโลก และมีความสมดุลทางจิตวิญญาณภายในตน เมื่อนั้นชีวิตย่อมสอดคล้องต่อกันอย่างเปี่ยมค่าเสมอ

ดังนั้น เราจึงควรเรียนรู้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ชัดเจนมากขึ้น ต้องรู้จักวิธีรับมือความเปลี่ยนแปลงทางโลกให้เท่าทัน เพื่อจะไม่ถูกประทุษร้ายจนเกินไป ขณะเดียวกันก็ต้องเรียนรู้ให้เท่าทันจิตวิญญาณาภยในให้แจ่มชัด เพื่อจะได้อยู่กับความรู้สึกของตัวเองอย่างเป็นสุข

 

เพราะการที่เราสามารถสัมผัสรู้ได้ถึงมิติของชีวิตทั้งสองด้าน ถือว่าเป็นความฉลาดที่ได้รับการต่อยอดจากชีวิตอีกทีหนึ่งเป็นความกรุณาที่เรารู้จักมอบให้แก่ตัวเอง ด้วยวิธีการเกี่ยวข้องกับชีวิตเช่นนี้ ย่อมทำให้เราก้าวไปสู่บัลลังก์แห่งชัยชนะโดยไม่ต้องให้คนอื่นมายกย่องสรรเสริญอีกต่อไป

 

ชีวิตเป็นสมบัติอันล้ำค่า เป็นสิ่งที่เราควรทะนุถนอมด้วยความใส่ใจ แม้วันหนึ่งจะยุติลงตามบทบาทสมมุติของโลกก็ตามที แต่เราก็รู้วาได้ฝากอะไรไว้เป็นรอยจารึกในประวัติศาสตร์ของการเกิดนี้

 

"ไม่ว่าเราจะเคยเป็นอะไร สุดท้ายก็แค่นั้น" จึงเป็นเครื่องหมายคำถามและคำตอบที่ยิ่งใหญ่ที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจให้ถึงแก่นของชีวีที่ได้มา

แล้วเราจะรู้ว่าคำตอบที่ยิ่งใหญ่มักมาจากคำถามที่ใหญ่ยิ่งเสมอ

 

***********************************************************************

 

สนใจหรือไม่สนใจ แล้วแต่วิจารณญาณอันลึกซึ้งของตัวเอง ครับ

บุญรักษา :)

หมายเลขบันทึก: 180548เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2008 16:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 เมษายน 2012 21:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (40)

สวัสดีครับอาจารย์

  • จองใกรอยจารึกไว้คนแรก
  • เดี๋ยวค่อยอ่านลายละเอียดอีกที
  • ขอบคุณครับ

....เคยได้สัมผัสกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรืออาจจะล้มถึงบาดเจ็บปางตาย สุดท้ายสิ่งที่ได้สัมผัสมาก็ แค่นั้นเอง....

"ไม่ว่าเราจะเคยเป็นอะไร สุดท้ายก็แค่นั้น"

สวัสดีค่ะอาจารย์ กว่าจะเข้าใจก็ใช้เวลาวนเวียนโง่อยู่เสียนาน หากไม่ได้มาศึกษาธรรมะแบบลงมือปฏิบัติคงไม่สามารถเข้ใจมาจากข้างในได้เลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

เป็นเช่นนั้นเองจริงๆๆ ธรรมะที่ลึกซึ้งครับ สาธุๆๆๆๆ

กะว่าจะรอให้ถึงสามปี วันเวลาก็ผ่านไปนานเหลือเกิน งั้นเข้ามาอ่านเลยดีกว่าค่ะ

...............................

อ่านแล้วยังคิดดังเดิมว่า ไม่ว่าเราจะเหลือเวลาของชีวิตอีกยาวนานหรือสั้นแค่ไหน

ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาท สถานนะ อย่างไร ใหญ่โตหรือต่ำต้อยติดดิน

สิ่งที่ควรทำ เร่งทำ ทำอย่างต่อเนื่อง คือความดี

ขอบคุณค่ะ

วันนี้เหนื่อยจังค่ะ เสกลูกกรอกออนไลน์ไปแล้ว คงอ่านยากกว่าที่เคยค่ะ  ค่อยๆอ่านไปนะคะ ยาวหน่อยคราวนี้  ฝากดูแลบ้านด้วยเน้อ อ้ายเน้อ กินข้าวกันป่ะ

 

 

รอคอยการกลับมาอ่านครับ คุณ ครูข้างถนน :)

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ อาจารย์ คุณนายดอกเตอร์

  • ยินดีที่อาจารย์แวะเข้ามาครับ
  • อาจารย์ครับ ข้อเขียน ต้องค่อย ๆ อ่าน เหมือนทานข้าวครับ เพราะความลึกซึ้งของธรรม เป็นเรื่องเข้าใจยาก และดีนะครับ การปฏิบัติธรรม ทำให้อาจารย์เปิดดวงตาแห่งธรรมได้ง่ายกว่าปกติ :)

ขอบพระคุณอาจารย์ครับ บ้านอาจารย์สวยมาก ๆ ผมแอบเห็น :)

ขออนุโมทนาธรรมครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง :)

ขอบคุณครับ พี่แจ๋ว jaewjingjing  ... ที่ไม่น้อยใจผมไปสามปี

ความดีทำยากครับ ความชั่วความเลวทำง่าย ...

ขอบคุณครับ :)

หัวใจไม่มีใครจอง .. ยังต้องมาเฝ้าบ้านให้อีกอ่ะน่ะ น้องหมออ๋อขา :) อิ อิ .... สู้ ๆ

สวัสดี คุณWasawat Deemarn
         มาอ่านบันทึกของคุณWasawat Deemarn ครับ
         ชีวิตคนเราน่าจะเป็นดั่งเช่นผีเสื้อ น่ะครับ เกิดมาชมโลก ชีวิต แม้เพียงช่วงสั้น น่าจะมีความหมายมากกว่าที่จะยืนยาวเป็นมนุษย์ดีไหมครับ 
         คุณWasawat Deemarn เคยอ่านงานเขียน สายลมแสงแดด ของ วิลาศ มณีวัต หรือเปล่าครับ เป็นหนังสือความเรียงข้อคิดแทรกปรัชญาชีวิต อุทาหรณ์ดี อ่านเพลิดด้วยครับ
        
เย็นนี้ ผมพึ่งไปเสถียรธรรมสถานมาครับ สงบ ร่มรื่น ทำให้จิตใจสงบ ร่มเย็นใจ ครับ
        
รักษาสุขภาพด้วยครับ

 

สวัสดีครับ อาจารย์ทวิช :)

  • อาจารย์สบายดีนะครับ
  • ช่วงนี้ ชีพจรลงเท้า หรือครับ เดินทางบ่อยนะครับ
  • สายลม แสงแดด ของ วิลาศ มณีวัต ผมรู้จักและได้ยินชื่ออยู่เสมอครับ แต่ ... ยังไม่ได้เปิดอ่านครับ วรรณกรรมคลาสสิค ครับ เห็นหลายสิบปีแล้ว
  • ขอบคุณที่แนะนำครับ ห้องสมุดดูเหมือนจะมีแน่นอนครับ ว่างแล้วจะยืมอ่านแน่นอนครับ

รักษาสุขภาพเช่นกันนะครับ อาจารย์ :)

ขอบคุณค่ะ อาจารย์

สุดท้ายก็แค่นั้น สั้นๆ แล้วจะดิ้นรนอะไรไปมากมายใครอยากได้ อยากจะแย่งก้เอาไปเลย เอาไปเถอะถ้าอยากได้... อย่ามาชวนเราด้วยเลยนะ เหนื่อยแล้ว ขออยู่เฉยบ้าง ไปเรื่อยๆ บ้าง ก็เราเห็นเป้าหมายปลายทางของเราแล้ว..

ขอบคุณนะคะ เคยร่วมงานกับพี่ปิ๊กเวียงด้วยเหรอคะ

อ้อ ก๋วยเตี๋ยวลีลานะค่ะ แวะไปอุดหนุนบ้างนะคะ ใกล้ ๆ ที่ทำงานเอง...

สวัสดีครับ พี่หม่อม ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

  • สุดท้ายก็แค่นั้น ... จริง ๆ ครับ
  • พบหน้ากันเสมอ สำหรับ พี่ปิ๊กเวียง ของพี่หม่อม
  • ก๋วยเตี๋ยวลีลา ... เชื่อไหมครับ อยู่มาตั้งหลายปีเพิ่งรู้จักจากพี่หม่อมนี่แหละ พยายามจะไปกิน ร้านดันปิดพอดีครับ ... เดี๋ยวจะพยายามใหม่ ครับ

ขอบคุณครับ พี่หม่อม :)

สวัสดีค่ะ อาจารย์ Wat

  • ความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน
  •  เรากลับไม่เคยสนใจความไม่แน่นอนนั้น จึงตะบึงไปตามความฝันด้วยความหวังที่เกินร้อยจนลืมเผื่อใจเจ็บเวลาที่พลาดจากเป้าหมายที่ต้องการ ด้วยเหตุนี้ จึงได้เห็นคนที่เจ็บตัวและเจ็บใจเพราะการแสวงหาสิ่งที่คิดว่า ดีที่สุดสำหรับตัวเองอยู่เรื่อยมา 
  • กลับมาคิดทบทวนแล้ว  ....สุดท้ายก็แค่นั้น..จริงๆค่ะ
  • เราต้องรู้จัก  เฉย  บ้าง
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ คุณครูจุฑารัตน์ NU 11 :)

  • ขอบคุณนะครับ ... เพราะ "สุดท้ายก็แค่นั้นจริง ๆ"
  • ได้แวะไปเยี่ยมบันทึก เฉย  แล้วนะครับ

บุญรักษา ครับ :)

  • ธุ อาจารย์ค่ะ..

ต้อมชอบหนังสือเล่มนี้ที่อาจารย์อ้างอิงถึง..เป็นอย่างมาก   ความสุขที่หายไป ตามกลับคืนได้หรือยัง?

ตั้งแต่เราลืมตาขึ้นบนโลก   ชีวิตเราก็เผชิญอยู่กับความไม่แน่นอนแล้วเนอะ 

  • เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ค่ะ
  • หัวใจถูกกระแทกกลับมา..อิอิ...แต่ยังไม่สลาย
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ หนูต้อม เนปาลี  :)

  • อา ... จำได้ว่า เป็นหนังสือที่หนูต้อมมีไว้ในครอบครองใช่ไหมครับ ... โดนพอดีนะ เพราะเห็นว่า เรื่องราวในข้อเขียนสุดท้ายในเล่มนี้ ... โดนใจดีครับ
  • ไม่มีอะไรที่แน่นอน จริง ๆ ครับ

บุญรักษา ครับ :)

ขอบคุณ คุณครูจุฑารัตน์ NU 11  แหม .. เปลี่ยนชื่อเป็น NU 11 หมายถึง จบรุ่น 11 เหรอครับ  ... แบบนี้ผมก็ NU03 ดิ หุ หุ ... แก่อ่ะ

  • ธุ อาจารย์ค่ะ..

ค่ะ  ได้มาจากพี่สาวที่รักมากคนหนึ่ง  เนื่องในโอกาสที่ได้ไปเดินในงานหนังสือด้วยกัน  อิ่ม(ใจ)จัง กะตังค์อยู่ครบ

อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ   ^^  ชอบมากกับเรื่องราวในนั้น

หนังสือของท่านชุติปัญโญมีหลายเล่มมาก ๆ ครับ ล้วนแต่เป็นข้อเขียนทีแสดงถึงความจริงของชีวิตที่มนุษย์หลาย ๆ คนคิดไม่ถึงครับ .. หนูต้อมลองหาอ่านเล่มอื่น ๆ ดูนะครับ

แต่ถ้าไม่อยากหาอ่าน ก็แวะเข้าไปแอบอ่านในบล็อก "หอมกลิ่นหนังสือ" ดูสารบัญนะจ๊ะ

http://gotoknow.org/blog/scented-book/toc

บุญรักษา ครับ :)

ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ แล้วต้อมจะเข้าไปอ่านตามลิงค์ที่อาจารย์กรุณาให้มา หากมีกะตังค์ค่อยหาซื้อมาเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็พยายามไปเดินในงานสัปดาห์หนังสือกับพี่สาวในเดือนตุลาคมนี้ แล้วทำตาวับวาว แถวๆ บู๊ทหนังสือของท่านชุติปัญโญ อิอิ ดีไหมคะ?

ป.ล. แล้วตกลงหาร้านก๋วยเตี๋ยวลีลาเจอหรือยังเอ่ย?

สวัสดีครัีบอาจารย์

    สุดท้ายก็แค่ันั้น แต่ก่อนจะสุดท้ายนี่ซิครับ จะทำให้รู้ได้อย่างไรว่าแค่นั้น? เพราะส่วนใหญ่สำนึกเอาได้ก็ตอนสุดท้ายนั่นล่ะครับ

ขอบพระคุณครับ

หุ หุ หนูต้อม เนปาลี  ... เจอแล้ว แต่ ... มันปิด อ่ะจิ เลยยังไม่ได้ไปชิมรสเลยครับ ว่าแต่อร่อยจริง ๆ เหรอ :)

555 คุณ เม้ง สมพร ช่วยอารีย์  ... ช่างคิด

คงอยู่ที่ "สติ" และ "ปัญญา" แล้วล่ะ ว่าจะควบคุมกายและจิตได้อย่างไรบ้าง

บุญรักษา ครับ :)

สวัสดีครับอาจารย์

ผมเคยเขียนบันทึกไว้ว่า

กาลเวลากำหนดความเป็นไปของชีวิต

ในแต่ละช่วงแต่ละฉากมีสีสันดุจฉากละคร

มีทุกข์บ้าง สุขบ้าง คละเคล้ากันไป

จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

ขอบคุณครับ

ขอบใจมากครับ คุณครูเฉลิมศักดิ์ ครูดอย  ที่แวะมาเยี่ยมบันทึกของครู :)

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์
  • "ไม่ว่าเราจะเคยเป็นอะไร สุดท้ายก็แค่นั้น"
  • ขอบคุณค่ะ
  • อรุณสวัสดิ์ค่ะอาจารย์ Wasawat Deemarn
  • มาขอบคุณที่เข้าไปร่วมพิจารณาครูดีเพื่อศิษย์
  • จะเชียร์ใครชอบใครไม่ว่ากันค่ะ อยากให้ได้ทุกคน
  • "ไม่ว่าเราจะเคยเป็นอะไร สุดท้ายก็แค่นั้น"
  • สุดท้ายก็เชิงตะกอน
  • แต่ในขณะที่ยังมีลมหายใจขอให้สร้างสมความดีให้มากที่สุด

อ่านแล้ว ทำให้รู้สึกดีๆมากเลลยครับ

ขอบพระคุณ ท่าน ศน.อาจารย์ เอื้องแซะ  ครับ ... เชียร์ลูกศิษย์ไว้ต้น ๆ ก่อนไงครับ อิ อิ ... สุดท้ายก็เชิงตะกอน คือ คำสอนของบันทึกนี้ อย่างอาจารย์ว่า ครับ :)

ขอบคุณ คุณ jumpzz  ที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ :)

บางประโยคตรงกับชีวิตผมจริงๆ

ผมเคยคาดหวังว่าจะได้ แต่พลาด ผิดหวังอย่างแรง เวลาทำอะไรผมจะไม่คาดหวังในสิ่งที่ยังไม่เกิด เผื่อเวลาไม่ได้อย่างที่หวังจะได้ไม่เสียใจอีก

ขอบคุณครับ คุณ aonjung  ... ยินดีครับ :)

* อ่านบันทึกอาจารย์ทีไร โดนใจจั๋งหนับทุกคราครั้งค่ะ

* Life is not mere existence, it's tender experience ?

* เพราะชีวิตนี้มีคุณค่า มีความหมายต่อคนที่เรารัก และรักเรา

* ทั้งธรรมชาติ แผ่นดิน ชุมชน สังคม ครอบครัว และความภาคภูมิใจของตัวเอง

* ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ คุณ poo

  • ได้ข้อคิดไปแล้วใช่ไหมครับ
  • ยินดี ๆ ครับ

ขอบคุณมาก :)

สวัสดีครับ อาจารย์  อ.ศิริพร เกื้อกูลนุรักษ์  :)

  • ขอโทษอาจารย์ด้วยครับที่ผมตอบช้า
  • ผมมองผ่านอาจารย์ไปได้อย่างไรครับ
  • ได้รับความเห็นของอาจารย์ และเมล์แล้วนะครับ

ขอบคุณครับ :)

  • มาขอบคุณอาจารย์  Wasawat Deemarn    อีกครั้งที่นำเรื่องราว และข้อคิดดีๆมาให้ได้อ่านกันค่ะ
  • ตอบช้าไม่เป็นไร   มาช้า..ยังดีกว่าไม่มา (เพลงพาไปค่ะ) ....อิอิ..
  • ขอให้มีความสุขทุกๆวันค่ะ

ขอบพระคุณ อาจารย์ ศิริพร เกื้อกูลนุรักษ์ นะครับ ... อย่ากังวลใจนะครับ

อาจารย์เคยอ่านบันทึก ขอมอบเพลง "ก้อนหินก้อนนั้น" ให้กับผู้ที่ท้อถอย..หมดกำลังใจ นี้หรือยังครับ

บุญรักษา ครับอาจารย์ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท