อดอย่างมีความหมายร่วมกับ "คนไม่มีราก"


"ภาวนาด้วยการอดร่วมกับคนไม่มีราก"

วันนี้เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง...ที่ได้ทราบว่ากัลยามิตรท่านหนึ่ง "คนไม่มีราก"

จากการที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันในบันทึก ทำให้ได้ทราบว่าวันนี้พี่สาวที่น่ารักท่านได้ตั้งใจอด เพื่อชำระร่างกายนี้ ซึ่งข้าพเจ้ามองว่าเป็นหนึ่งในการเยียวยาร่างกายนี้ด้วยกระบวนการธรรมชาติ เป็นการช่วยให้ร่างกายนี้ได้พักจากการทำงานบ้าง

"วันนี้...คนไม่มีรากใช้วิธีการอดด้วยการทานผลไม้อย่างเดียว"

ข้าพเจ้าขอประกาศร่วมภาวนา...ด้วยการอด...ร่วมด้วยในมื้อกลางวัน และมื้อเย็น

ปกติในหนึ่งสัปดาห์ข้าพเจ้าจะใช้แนวทางการอด...ในวันที่อยู่คนเดียว การอดสำหรับข้าพเจ้านั้น เพื่อให้การปฏิบัติภาวนาสะดวก พิจารณาเข้าถึงการเรียนรู้ภายใน "จิต" ได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งผลจากการอดนี้เป็นการช่วยเยียวยาร่างกายนี้ด้วยเหมือนกัน เป็นกระบวนการขับพิษ (Detoxification) และยังให้อวัยวะภายในได้พักการทำงาน...

ปกติในแต่ละวันข้าพเจ้าจะทานข้าวมื้อเช้า ส่วนมื้อกลางวันเป็นผลไม้ ตอนเย็นไม่ทาน ซึ่งเมื่อก่อนนี้จะทานมื้อเดียว แต่ทุกวันนี้บางวันมื้อเย็นก็ทานหากว่าแม่มีความประสงค์ให้ร่วมทานอาหารด้วย แต่สำหรับวันนี้เป็นวันที่มีความหมายสำหรับข้าพเจ้า...เพราะข้าพเจ้าขอร่วมอดกับคนไม่มีราก...

อด...ล้างพิษ

มีคำกล่าวว่า "คนกินมากก็ป่วยมาก" คนเราป่วยเพราะกินมีเพิ่มขึ้นจริงๆ ทุกวันนี้หากวิเคราะห์แล้วสาเหตุของการเจ็บป่วย สาเหตุใหญ่มาจากพฤติกรรมการบริโภค การที่เราทานเข้าไปเยอะทำให้เกิดการหมักหมมของเศษอาหารมากมายในลำไส้ แม้ว่าในแต่ละวันจะมีการขับถ่ายออกมา แต่กระบวนการย่อยอาหารของเราในแต่ละวันค่อนข้างใช้เวลานาน ... อย่างเช่นเราทานมื้อเช้าเสร็จกว่ากระบวนการย่อยเสร็จใช้เวลาประมาณ 7 - 13 ชั่วโมง... และยิ่งหากว่ามีการทานเนื้อสัตว์ กระบวนการย่อยยิ่งยาวนานมากขึ้น

การล้างพิษด้วยวิธีการอดอาหาร เป็นวิธีหนึ่งสำหรับการเยียวยาโดยใช้กระบวนการธรรมชาติ ซึ่งทางการแพทย์ระบุว่า มนุษย์เราสะสมพลังงานในรูปไขมันและพลังงานไว้เพียงพอต่อการอดอาหารประมาณ 1-2 วัน ได้โดยไม่เจ็บป่วย

 
ข้อดีของการอด คือลดการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น กระเพาะก็ไม่ต้องย่อยอาหาร ลำไส้ก็ไม่ต้องดูดซึม อวัยวะภายในอื่นๆ ก็จะทำงานน้อยลง

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มอดอาหาร สามารถเริ่มต้นด้วยการกินผลไม้ หรือน้ำผลไม้ตลอดทั้งวันก่อนก็ได้...

_____________________________________________________________________________

การร่วมกันอด...เป็นการแบ่งปันพลังชีวิตให้แก่กันและกัน

กำลังใจ ที่เกิดขึ้นเป็น พลังอันยิ่งใหญ่

ที่จับมือร่วมกันทำ

_____________________________________________________________________________

ถอดบทเรียน "ประสบการณ์การอดอาหาร"

ระยะเวลาประมาณหนึ่งปีกว่าที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้เรื่องการอด ที่ข้าพเจ้าอดนั้นสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติภาวนา และการตั้งใจปฏิบัติชีวิตภายใต้ข้อกำหนดแปดข้อ (ศีลแปด) จากการเรียนรู้ใช้ชีวิตตามข้อปฏิบัติแปดข้อนี้ ส่งผลให้ข้าพเจ้าได้พบกับการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายขึ้น

"ความรู้สึกตอนช่วงแรกของการอด ทรมาณมาก จำได้ว่าตอนนั้นพี่ทานร่วมอดด้วย ทำให้มีความรู้สึกว่ามีเพื่อน มีหลายครั้งต่อหลายครั้งที่จะล้มเลิกความตั้งใจ แต่ได้รับกำลังใจจากครู ให้อดทน กรอปกับฟังเทศน์หลวงตา ท่านให้ใช้แนวทางการพิจารณากาย

การฝึกกายาคตาสติ พิจารณาความเน่าของร่างกาย...ทำให้ระงับเรื่องความหิวลงไปได้เยอะมาก"

เวลาที่ทานอาหาร ก็พิจารณาอาหารที่ทานเข้าไป ในแง่ว่าชีวิตเรานั้นทานอาหารไปเพื่ออะไร ----> เพื่อพยุงร่างกายนี้

เมื่อก่อนเคยสงสัยว่า ทำไมพระกรรมฐานถึงได้ฉันมื้อเดียว...

เมื่อข้าพเจ้ามาพิจารณากายวิภาคของระบบทางเดินอาหารอย่างจริงจัง ทำความเข้าใจการทำงานของอวัยวะต่างๆ ที่ดำเนินไปตามธรรมชาติ ทำให้ทราว่าที่แท้จริงแล้วเราทานอาหารเข้าไปเพื่อพยุงร่างกายนี้ เราทานมื้อเดียว...ในแต่ละวันเราก็สามารถดำรงอยู่ได้

จากนั้นก็ลงมือปฏิบัติ สังเกตและพิจารณาร่างกายไปพร้อมๆ กับการสังเกตและพิจารณา "ใจ" ไปด้วย ขณะที่หิวทำให้ทราบว่าแท้จริงแล้ว

"อาการที่หิวนั้น เป็นอาการใจหิว เพราะใจเคยเสพ และหลงใหลในรสชาติอาหาร พออาหารผ่านโคนลิ้นลงไปแล้ว ก็ไม่ได้รับรสชาติอะไรแล้ว... ที่เราทานนั้นเป็นเพียงทานให้ท้องรู้สึกหนักเท่านั้น

ดังนั้นอาหารโดยส่วนใหญ่ทีเราทานกันนั้น จึงเสมือนเป็นขยะที่เรานำไปอัดยัดไว้ในร่างกายนี้"

เมื่อสมองใส่รหัส (Endcoding)(Encoding ; ขอบพระคุณคุณ Conductor ที่เข้ามาทักแก้ไขคำผิดค่ะ) ทำความเข้าใจในตัวความรู้ (Data) ใหม่ การปฏิบัติก็ง่ายขึ้น เวลาที่วิ่งภาวนาในตอนเย็นก็วิ่งสบายกาย เพราะท้องไม่ต้องแบกรับเศษอาหารที่เราทานเข้าไปในมื้อเที่ยง

การอดนั้นเป็นทั้งการเยียวยาเซลล์ที่กำลังตายไป และให้พลังชีวิตต่อเซลล์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น

หากจะว่าไปแล้ว อาหารที่เราทานเข้าไปในแต่ละครั้งนั้น เหมือนกับว่าเรากำลังทำร้ายร่างกายที่ "ชีวิต" นี้อาศัยอยู่ เพราะว่าเราไม่ได้คำนึงว่าอาหารที่ทานไปแต่ละอย่างแต่ละครั้งนั้นให้คุณประโยชน์อะไรต่อร่างกายบ้าง

เมื่อก่อนข้าพเจ้าไม่เคยสังเกตชีวิต ร่างกายและเรื่องอาหาร จนเมื่อโดนครูสอนธรรมทักว่า "ที่ข้าพเจ้าเป็นแผลหายช้านั้นเพราะทานหวานมาก" ข้าพเจ้ายังไปแย้งครูว่า ... ครูจะมารู้ดีกว่าได้อย่างไร ข้าพเจ้าเรียนพยาบาลมารู้ดีว่า ซึ่งเป็นความคิดที่โง่มากของข้าพเจ้า

แต่ข้าพเจ้าก็พิสูจน์ว่าจริงอย่างที่ครูว่าหรือไม่

ก็ทานหวานลดลง ... จนเดี๋ยวนี้โรคติดรสชาติหวานหายไป อาการที่เป็นแผลหายช้าก็หายตามไปด้วย

..............................................................

 

 

หมายเลขบันทึก: 186119เขียนเมื่อ 4 มิถุนายน 2008 13:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

สวัสดีค่ะคุณ Kapoom

  • มาขอบคุณสำหรับการร่วมอดกับคนไม่มีราก....เป็นกำลังใจร่วมกัน...พร้อมทั้งให้ข้อมูลดี ๆ อีกมากมาย
  • ความจริงก็ไม่ถือว่าเป็้นการอดนะคะ .. เพราะยังทานผลไม้กับน้ำเปล่านี่คะ
  • คนไม่มีรากคิดว่า...ทุกวันนี้เราบริโภคและใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากเกิน..ความต้องการของร่างกายค่ะ เราใช้ส่วนเกินของโลกไปมาก ยังมีผู้คนจำนวนมากที่ขาดอาหารและปัจจัยสี่ แต่เรากลับใช้อย่างฟุ่มเฟือยไม่บันยะับันยังเลย
  • คิดแล้วก็เลยอยาก อด บ้าง
  • ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่เปี่ยมความหมายค่ะ ความคิดและการกระทำดี ๆ ไม่เคยทำให้ มนุษย์รู้สึกโดดเดี่ยวเลย...
  • ....(^__^)......

พี่ "คนไม่มีราก" คะ :

  • ขอร่วมอนุโมทนาสาธุ...ในเจตนาที่ตั้งใจอันงดงามนี้คะ
  • การอด มีหลากหลายวิธี อดด้วยการทานผลไม้อย่างเดียวก็ได้ หรืออาจจะอดด้วยการดื่มน้ำสะอาด... แต่อย่างไรก็ตามในกระบวนการอดเพื่อการเยียวยานั้น ให้ดื่มน้ำผึ้ง มะนาว และใส่เกลือเล็กน้อยไปด้วยนะคะ...
  • สำหรับวันนี้...ที่กะปุ๋มตั้งใจขอร่วมอดด้วยสองมื้อ เพราะมื้อเช้านั้นคงอดไม่ทัน เพราะผ่านมาแล้ว และมื้อกลางวันร่วมอดด้วย ด้วยการทานผลไม้ ... แต่สำหรับมื้อเย็นขออดไปเลยค่ะ ... "ดื่มน้ำอย่างเดียว" ^__^
  • กะปุ๋มเป็นกำลังใจให้นะคะ หากความหิวมาเยือน นึกถึงกะปุ๋มไว้นะคะ บทเรียนครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้างเราจะมาคุยกันพรุ่งนี้นะคะ เดี๋ยวกะปุ๋มจะไปเคาะถึงประตูบ้านเลยค่ะ...

ขอบพระคุณสำหรับภาระกิจที่ให้กะปุ๋มร่วมทำด้วยนะคะ

(^___^)

กะปุ๋ม

 

สวัสดีคะ..เป็นแนวคิดที่ดีเยี่ยม...วันหลัง "เอื้อง...แสงเดือน" ต้องขออดบ้างละคะ...ขอบคุณคะ

อนุโมนทนาค่ะ ^ ^

พี่ยังทำไม่ได้เลย..แต่เริ่มๆ ทำอยู่ค่ะ ต่อไปคงเหลือสองมื้อแล้วค่ะ เพราะตั้งใจไว้ แต่จะค่อยๆ ปรับร่างกายค่ะ ^ ^

สวัสดีค่ะคุณ Kapoom

  • แวะมาส่งข่าวค่ะ เมื่อบ่ายแก่ ๆ หลับไปด้วยความอ่อนแรงค่ะ
  • ตื่นอีกทีตอนทุ่ม...ก็เริ่มหิว...จัดการทานกล้วยอีก 2 ใบพร้อมน้ำเปล่าค่ะ
  • ไม่ทราบคุณ กะปุ่ม เป็นอย่างไรบ้าง...สบายดีนะคะ อุตส่าห์อด..เป็นเพื่อนกัน ต้องขอบคุณอีกค่ะ...
  • ตอนนี้ก็เริ่มง่วง ๆ อีกแล้ว...ว่าจะลาไปนอนก่อนนะคะ
  • ...^__^...

สวัสดีค่ะคุณเอื้อง... :

  • เรามาร่วมกันก็ได้นะคะ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่น้อมนำกลับเข้ามาสู่การเยียวยาตนเอง... คนเราส่วนใหญ่มองว่าทุกวันสุขสบายดี ยังไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วย พอป่วยแล้วก็รอการพึ่งพิงทางการแพทย์...
  • จริงๆ แล้วการเยียวยานี่ เราได้ประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ...

พี่ตุ๋ยคะ :

  • อนุโมทนาสาธุ ในความตั้งใจนะคะ เริ่มต้นเมื่อไร ส่งข่าวนะคะ... วันดี เรามาภาวนาร่วมกันนะคะ

พี่คนไม่มีรากคะ :

  • ต้องร้องว่า เย้!!
  • วันไหนเริ่มอีกส่ง โน๊ตเล็กๆ มานะคะ... จะร่วมภาวนาด้วยค่ะ

 

(^____^)

กะปุ๋ม

P

42. Ka-Poom
เมื่อ พฤ. 05 มิ.ย. 2551 @ 08:02
686013 [ลบ]

สวัสดีวันรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกค่ะ

....

  • เมื่อวานกะปุ๋มผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ...อาจเป็นเพราะร่างกายปรับได้และเคยชินค่ะ...ขอบคุณอีกครั้งนะคะดีใจที่ได้ร่วมทำสิ่งดีดี ร่วมกัน แม้จะอยู่ไกลกัน ได้ส่งพลังอันงดงามนี้ถึงกันค่ะ
  • เมื่อวานตื่นรู้อยู่กับลมหายใจทุกขณะจิต เพราะเป็นอีกวันที่มีความหมายที่ดี
  • อนุโมทนาสาธุ...สำหรับวันที่ดีดีที่ผ่านมานะคะ
  • วันนี้ดีที่สุดค่ะ

(^____^)

กะปุ๋ม

______________________________________________________

P

48. คนไม่มีราก
เมื่อ พฤ. 05 มิ.ย. 2551 @ 12:54
686467 [ลบ]

สวัสดีค่ะคุณ Kapoom

สวัสดีวันรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกเช่นกันค่ะ

  • ดีใจที่มาเยี่ยมบันทึกนี้  ยินดีต้อนรับค่ะ
  • ต้องขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ  คิดว่าถ้ามีเวลาได้อยู่บ้านโดยไม่ต้องออกไปไหน จะทดลองการอดโดยดื่มน้ำอย่างเดียว และต่อไปจึงค่อย ๆ อดแบบไม่ทานอะไรเลย...ฝันไว้ค่ะ
  • ถ้ามีเวลาเราต้อง AAR กันนะคะ คืนนี้ก็ได้ค่ะ จะไปที่บันทึกของคุณ กะปุ่มนะคะ...
  • ตอนนี้รายงานอาการคร่าว ๆ ก็คือ .. รู้สึกสดชื่อดี  เมื่อคืนนอนตั้งแต่ 5 ทุ่ม ตื่นตี 5 อ่านหนังสือและทำกิจวัตรประจำคือ การสวดมนต์ นั่งสมาธิ เรียนหนังสือ 9-11 น. แล้วก็กลับบ้านมานั่งหน้าคอมพ์นี่ล่ะคะ
  • น่าแปลกที่ไม่รู้สึกเพลียเลยค่ะ การขับถ่ายก็ปกติดี โดยเมื่อวานไม่ได้ทานโยเกิร์ตที่ต้องทานทุกวัน...
  • แถมมีคนชมว่า..ทำไมวันนี้ดูอิ่มเอิบจัง...แหะ..ชมว่าแก้มแดงผ่องใส .. หน้าบานค่ะ
  • แล้วจะไป ลปรร. นะคะ...^_^...

มาอดด้วยคน แง แงๆๆมีการโทรมาแซวๆๆ ฮือๆๆๆ

สวัสดีค่ะคุณกะปุ่ม

  • พอเปิดขึ้นมาตกใจมากค่ะ..!!!!
  • เอ๊ะ..นี่เรามาเขียนไว้เมื่อไหร่ ว่าจะ Copy มาแปะพอดีเลยค่ะ
  • ดีจังเลย
  • จะบอกเพิ่มเติมค่ะว่า...เมื่อวานนี้นอกจากอดอาหาร 3 มื้อแล้ว  ยังอดกาแฟด้วยค่ะ ดื่มกาแฟมาตั้งเกือบ 20 ปีแล้วค่ะ
  • เคยลองงดกาแฟ..แต่ไปไม่รอดค่ะ ต้องกลับมาดื่มอีก แต่ก็ลดจำนวนลง เป็นคนที่ดื่มกาแฟแค่ไหนก็หลับได้ค่ะ หลับคาแก้วกาแฟเลยค่ะ..5555....เลยดื่มเรื่อยมาค่ะ
  • มาพิจารณาดูแล้ว การติด...อะไรบางอย่างก็สร้างความทุกข์แก่เรามหาศาล และส่งผลเสียด้วย เพราะเป็นการสร้างเงื่อนไขให้กับตัวเอง..ในการต้องทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนี้ ต้องดื่มทุกเช้า และหลังอาหาร อะไรทำนองนี้ค่ะ
  • วันนี้ยังไม่ได้ทานเนื้อสัตว์ค่ะ ทานนมกับขนมครัวซองตอนเช้า ทานสลัดผัก-ไข่ ผลไม้ ตั้งใจว่ามื้อเย็นจะลองทานเฉพาะผลไม้เหมือนเมื่อวาน...ดีไหมคะ
  • ...ชักได้ใจค่ะ เนื่องจากมีกัลยาณมิตรให้กำลังใจ...
  • ขอบคุณอีกหลาย ๆ ครั้งค่ะ
  • อนุโมทนากับกุศลที่คุณกะปุ่มได้สร้างและช่วยคนไม่มีรากได้ลด ละ เลิก บางสิ่งบางอย่างนะคะ...
  • .....(^___^)......

พี่แอ๊ดคะ... :

  • ดีใจค่ะถ้าหากพี่แอ็ดจะมาร่วมอดด้วย ... หากตั้งใจ เอาเป็นว่าวันนี้มื้อเย็นทานผลไม้ร่วมกับคนไม่มีรากนะคะ...
  • ขอบคุณพี่แอ๊ดมากนะคะ กะปุ๋มได้หัวเราะอย่างเต็มที่ก็เพราะมีพี่นี่แหละค่ะ...อิอิ

คนไม่มีรากคะ :

  • อิอิ ขอบอกว่ากะปุ๋มวิ่งไปบันทึกพี่ก่อนหน้านี้แล้วค่ะ และแอบ นำความเห็นพี่มาแปะไว้ก่อน... 555
  • เยี่ยมมากเลยค่ะ คนเรามักคิดว่าตัวเองเลิกในสิ่งที่ติดไม่ได้ ... หากตั้งใจดีดี ก็เลิกได้ทั้งนั้นแหละค่ะ กะปุ๋มเลิกกาแฟมาได้ปีกว่าแล้วค่ะ พอเลิกไปแล้วก็รู้สึกไม่อยากดื่ม ช่วงแรกที่เลิกนะคะ ทดสอบจิตตัวเองด้วยการไปนั่งที่ร้านกาแฟ ดมกลิ่นแต่ไม่ดื่ม ฝึกจิตให้เผชิญหน้าเลยค่ะ...นิสัยชอบท้าทายค่ะ และจิตอาจหยาบเลยต้องอาศัยแบบโค่นโหดเลยค่ะ เช่นการอด...
  • แนวทางการปฏิบัติที่พี่ตั้งใจกะปุ๋มขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ การได้ใจในสิ่งที่ดีนี้ดีมากเลยค่ะ หลวงตามหาบัวท่านเทศน์สอนเสมอว่าธาตุขันธ์นี้อย่าปล่อยให้กิเลสมาใช้แต่ให้ธรรมมาใช้แทน ดังนั้นการที่เราเพียรเยียวยาร่างกายนี้ด้วยใจที่นอบน้อมและมีเมตตา เป็นสิ่งประเสริฐยิ่งเลยค่ะ...สาธุต่อความตั้งใจดีของพี่นะคะ

หากมีโอกาสเราร่วมกันอดด้วยกันนะคะ วันนี้เรามร่วมภาวนาอุทิศบุญให้กับลูกชายคุณหมอนนท์กันนะคะ

(^____^)

กะปุ๋ม

  • เมื่อก่อนรู้สึกตัวว่าป่วยบ่อย สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเป็นอะไรก็คิดแต่จะพึ่งหมอ ต้องไปหาหมออยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพักผ่อน นอนน้อย  การกินอาหารตามใจปากและที่สำคัญกินไม่เป็นเวลา สุขภาพร่างกายจึงย่ำแย่
  • เริ่มมาคิดถึงอาการที่เกิดว่าเป็นเพราะอะไร พอดีได้คุยกับอาจารย์ตั้งแต่สมัยเรียนสายอาชีพก็น่าจะประมาณ 25 ปีได้ อาจารย์ให้ หนังสือนาฬิกาชีวิตมาเล่มหนึ่ง ดีมากเลย เพราะอาจารย์ปฏิบัติอยู่ ก็ลองทำตามอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็น Detox และอีกหลายๆอย่าง เดี๋ยวนี้สุขภาพดีขึ้นค่ะ
  • อดอาหารมื้อเย็น ได้ผลค่ะ ทานผลไม้อย่างเดียว น้ำหนักลดได้ รู้สึกว่าคล่องตัวขึ้นไม่อึดอัด  แต่เอาชนะใจตัวเองนี่ยากพอควรเหมือนกัน  ต้องดูว่าหิวใจหรือหิวกาย เหมือนที่คุณกระปุ๋มบอก ค่ะ
  • ต่อไปคงต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพของเราต้องเยียวยาด้วยตัวเองเท่าที่ทำได้ แต่ไม่ใช่ระแวงเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ จนอยู่ไม่มีความสุข

                                                  

สวัสดีครับ

จะลองอดดูบ้างครับ ถามคุณคนไร้รากแล้ว ได้คำแนะนำให้มาแวะที่นี่

สวัสดีตอนย่ำค่ำค่ะคุณกะปุ่ม

  • ตามมาอ่านสรุปบทเรียนที่คุณกะปุ่มเขียนค่ะ
  • รายงานก่อนว่าเพิ่งจะทานกล้วยและน้ำเปล่าจน..เกือบอิ่ม เพราะเราควรทานแค่เกือบอิ่ม...ถ้ารู้สึกอิ่มก็อาจจะมากเกินไปแล้ว...
  • รู้สึกปกติดีค่ะ และไม่ค่อยเหนื่อยมากนัก อาจเป็นเพราะไม่ได้ออกนอกบ้าน เวียนวนอยู่กับการทำความสะอาดบ้านและทำความสะอาดใจภายในค่ะ
  • การอด/งดสิ่งที่เราเคยชินนั้น ทำให้สติบริบูรณ์ขึ้น เพราะเป็นการเจริญเมตตา อย่างน้อยที่สุดคือการเจริญเมตตาต่อตัวเองนะคะ..ว่าไหม...
  • น้อมรับธรรมะที่คุณกะปุ่มนำมาให้ค่ะ  ...เราเพียรเยียวยาร่างกายนี้ด้วยใจที่นอบน้อมและมีเมตตา เป็นสิ่งประเสริฐยิ่ง...
  • ปกติคนไม่มีรากจะงดเนื้อสัตว์ทุกวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันเกิดค่ะ ทานไก่เพราะยังชอบ แต่เลือกทานปลามากกว่า ชอบผักและผลไม้ทุกประเภท ทำโยเกิร์ตสดจากน้ำนมถั่วเหลืองเองและทานทุกวัน .. เห็นผลมากมายค่ะ
  • เมื่อก่อนจะคุมน้ำหนักยากมาก เพราะทานเก่ง เผลอทานมากสักหน่อยก็น้ำหนักขึ้นแล้ว..เป็นสิวง่าย ท้องผูกด้วยค่ะ พอเปลี่ยนมาทานข้าวกล้อง ปลา ผัก ผลไม้ โยเกิร์ต ก็ค่อยมีสุขภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้คุมน้ำหนักได้สบาย ๆ  47-48 กิโลกรัม ขับถ่ายปกติทุกวัน ไม่มีสิว (หมดวัยที่จะมีสิวมั้งคะ) หน้าตาสดใสขึ้นและข้อสำคัญไม่ค่อยโกรธง่ายค่ะ ...คุมอารมณ์และตามอารมณ์ได้เร็ว
  • คงต้องบอกว่า กายและจิตสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก ด้วยเหตุนี้เราจึงดูแลรักษากาย เพื่อให้เกื้อหนุนกับจิต ...และคนไม่มีรากจะถือคติติดใจติดตัวว่า..เราต้องคิดดี พูดดี และทำดี เพราะอย่างน้อย 3 สิ่งนี้จะช่วยควบคุมกาย วาจา ใจ ของเราให้อยู่ในความปกติได้ค่ะ
  • การได้พบกัลยาณมิตรที่ร่วมกันในการสร้างสรรค์ จรรโลงสิ่งดี ๆ ต่อตัวเองและผู้อื่นนี้ ..คนไม่มีรากถือว่าเป็น มงคล ค่ะ
  • ขอบคุณคุณ กะปุ่ม นะคะ 

คุณ NU_11 :

  • เมื่อก่อนรู้สึกตัวว่าป่วยบ่อย สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเป็นอะไรก็คิดแต่จะพึ่งหมอ ต้องไปหาหมออยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพักผ่อน นอนน้อย  การกินอาหารตามใจปากและที่สำคัญกินไม่เป็นเวลา สุขภาพร่างกายจึงย่ำแย่
  • กะปุ๋มก็ป่วยบ่อยค่ะ เป็นมือวางอันดับหนึ่งหรือสองอยู่เสมอสำหรับการป่วยไข้ จนบางครั้งรู้สึกรำคาญตัวเอง ทานยามากจนฉุกใจคิดว่ามันน่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ โดยที่เราไม่ต้องป่วย หรือป่วยแบบไม่จำเป็น เช่น การปวดหัว เป็นหวัด เป็นไข้นี่คือ อาการเจ็บป่วยที่ไม่จำเป็นต้องป่วยก็ได้ ดังนั้น จึงมาพบว่ากระบวนการเยียวยาตนเอง อันเป็นการสร้างสุขภาวะที่ดีแก่ตนเองนี่ คือ ทางเลือกของชีวิตในการก้าวเดินไปบนเส้นทางของการเบียดเบียนร่างกายนี้ให้น้อยที่สุด
  • เริ่มมาคิดถึงอาการที่เกิดว่าเป็นเพราะอะไร พอดีได้คุยกับอาจารย์ตั้งแต่สมัยเรียนสายอาชีพก็น่าจะประมาณ 25 ปีได้ อาจารย์ให้ หนังสือนาฬิกาชีวิตมาเล่มหนึ่ง ดีมากเลย เพราะอาจารย์ปฏิบัติอยู่ ก็ลองทำตามอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็น Detox และอีกหลายๆอย่าง เดี๋ยวนี้สุขภาพดีขึ้นค่ะ
  • กะปุ๋มทำ Detox ทั้งการสวนทวาร อบเซาว์น่า อาหาร และการอด ออกกำลังกาย สมาธิ มีสุขภาพที่ดีขึ้นค่ะ ดำเนินชีวิตอย่างมีความหมายมากขึ้น ดีใจค่ะที่คุณ NU_11 มาร่วมแบ่งปันพลังที่ดีงามนี้นะคะ
  • อดอาหารมื้อเย็น ได้ผลค่ะ ทานผลไม้อย่างเดียว น้ำหนักลดได้ รู้สึกว่าคล่องตัวขึ้นไม่อึดอัด  แต่เอาชนะใจตัวเองนี่ยากพอควรเหมือนกัน  ต้องดูว่าหิวใจหรือหิวกาย เหมือนที่คุณกระปุ๋มบอก ค่ะ
  • (^___^) หากเมื่อศึกษากระบวนการทางร่างกายแล้วพบว่า มื้อเย็นนั้นไม่มีความจำเป็นต่อเราเลยนะคะ
  • ต่อไปคงต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพของเราต้องเยียวยาด้วยตัวเองเท่าที่ทำได้ แต่ไม่ใช่ระแวงเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ จนอยู่ไม่มีความสุข
  • Positive Thinking ค่ะ เห็นสอดคล้องค่ะ อิอิ

สวัสดีครับ

เมื่อวานอดเรียบร้อยแล้ว

โดยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก

ลองดูว่าเผื่อต้องอดข้าวประท้วง

หรือข้าวยากหมากแพง จะไหวไหม

ไหวแฮะ อิๆ

ได้ประสบการณ์ทางความคิดไปอีกแบบ

คิดไปเรื่อยเปื่อยเรื่องกิน

ทำให้รู้จักร่างกายเราดีขึ้นด้วยครับ

คุณธ.วัชชัยคะ :

  • ตกลงได้ลองอดหรือยังคะ กะปุ๋มว่าถ้าได้ร่วมอดด้วยกันนี่ จะทำให้มีกำลังใจอย่างมากเลยค่ะ โอกาสดีดีเรามาร่วมอดด้วยกันนะคะ นัดหมยกันก่อนก็ได้ กะปุ๋มค่อนข้างจะเชื่อในพลังที่งดงามค่ะ

คุณคนไม่มีรากคะ :

  • กะปุ๋มติดค้าง...การมาต่อยอดความเห็นนี้ค่ะ...วันนี้พอมีโอกาสก็เลยมาขอพูดคุยต่อนะคะ กะปุ๋มมองว่าเป็นธรรมทานในการแบ่งปันทางเลือกให้ "ชีวิต"... รู้สึกดีใจค่ะที่ได้ร่วมภาวนาด้วยการอดกับคนไม่มีรากสองครั้งแล้ว เป็นการตอบแทนร่างกายนี้และโลกค่ะ

การอดมีผลดีต่อร่างกายคือ

  1. การอดช่วยให้อวัยวะต่างๆ ได้พัก เช่น หัวใจ กระเพาะ ลำไส้ ไต ปอด ตับ ตับอ่อน ฯลฯ เมื่อได้พักก็สามารถฟื้นการทำงานได้ดีขึ้น ประสทธิภาพสูงขึ้น เมื่อพ้นระยะอด ระบบหัวใจและหลอดเลือดถือว่าได้ "หยุดพักร้อน" เลยทีเดียว เพราะในระหว่างการอด ไม่จำเป็นต้องสูบฉีดเลือดเป็นจำนวนมากไปที่ระบบอาหารอย่างแต่ก่อน
  2. การอดทำให้ร่างกายได้ย่อยสลายสารพิษและขจัดออกไปไม่ว่าจะเป็นที่เกาะอยู่กับเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ร่างกายทั้งหมดจึงสะอาดเอี่ยมอ่องเมื่อพ้นระยะอด และทำงานได้ประสิทธิผลสูงสุด
  3. การอดช่วยให้เซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆ สะอาดสะอ้าน จึงเท่ากับเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้แก่ทั่วร่างกาย เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการชะลอความชรา
  4. การอดช่วยจรรโลงการทำงานของต่อมและต่อมไร้ท่อต่างๆ ให้ทำงานในดุลยภาพใหม่
  5. การอดเป็นการประหยัดพลังงาน เปิดโอกาสให้ร่างกายหมุนใช้พลังงานจำนวนที่มีอยู่ไปสู่สมองได้ดีขึ้น การอดจึงมีประโยชน์แก่การใช้ปัญญา การฝึกจิต สร้างสมาธิ กระทั่งจำเป็นแก่การบรรลุมรรคผล...
  6. การอดทำให้สมองปลอดโปร่ง จิตใจสบาย ทำให้ประสาทว่องไว ความจำดีขึ้น เหตุเพราะกระเพาะลำไส้ไม่ต้องทำงาน เลือดจึงหมุนเวียนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน เซลล์สมองและประสาทยังได้ขจัดสารเสียที่ตกค้างออกไปด้วย (กล่าวกันว่า ในระหว่างการอด ร่างกายไม่ได้รับน้ำตาลจากอาหารที่กินเข้าไปอย่างเคย จึงต้องหันมาใช้พลังงานที่สะสมไว้ ในรูปของไขมันในเซลล์เกิดกระบวนการย่อยสลายไขมัน พาเอาสารเสียออกไปด้วย)

(เพิ่มเติม จาก นพ.บรรจบ  ชุณหสวัสดิกุล : ล้างพิษรักษาโลก อดเพื่อสุขภาพ)

P

15. ธ.วั ช ชั ย
เมื่อ พ. 11 มิ.ย. 2551 @ 13:24
696805 [ลบ]

สวัสดีครับ

เมื่อวานอดเรียบร้อยแล้ว

โดยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก

ลองดูว่าเผื่อต้องอดข้าวประท้วง

หรือข้าวยากหมากแพง จะไหวไหม

ไหวแฮะ อิๆ

ได้ประสบการณ์ทางความคิดไปอีกแบบ

คิดไปเรื่อยเปื่อยเรื่องกิน

ทำให้รู้จักร่างกายเราดีขึ้นด้วยครับ

  • ^__^ กะปุ๋มมัวพิมพ์ความเห็นอยู่ไม่ทันได้ดูว่า คุณธ.วัชชัยมาทักทาย อิอิ... อยากทราบค่ะว่าประสบการณ์ทางความคิดที่ว่านี้เป็นอย่างไรคะ เล่าให้ฟังบ้างได้ไหมคะ...

เพิ่มเติม...

  • เมื่อเซลล์ เนื้อเยื่อ และระบบร่ายกายได้พักด้วยการอดเสียบ้าง ร่างกายก็จะฟื้นคืนการทำงานในสมดุลใหม่ การย่อย การดูดซึมอาหารดีกว่าเดิม เซลล์ร่างกายได้อาหารดีกว่าเดิม การแบ่งเซลล์ซ่อมแซมส่วนสึกหรอก็ดีกว่าเดิมด้วย คนที่รู้จักปฏิบัติการอดเป็นระยะๆ จึงพบว่าร่างกายมกำลังวังชามากขึ้น แข็งแรง กระปรี้กระเปร่า สมองแจ่มใส จิตใจสงบ คุณภาพชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก

ดังนั้น...สิ่งที่เกิดขึ้นตามที่ "คนไม่มีราก" รู้สึกจึงเป็นเช่นนี้

"ตอนนี้รายงานอาการคร่าว ๆ ก็คือ .. รู้สึกสดชื่อดี  เมื่อคืนนอนตั้งแต่ 5 ทุ่ม ตื่นตี 5 อ่านหนังสือและทำกิจวัตรประจำคือ การสวดมนต์ นั่งสมาธิ เรียนหนังสือ 9-11 น. แล้วก็กลับบ้านมานั่งหน้าคอมพ์นี่ล่ะคะ น่าแปลกที่ไม่รู้สึกเพลียเลยค่ะ การขับถ่ายก็ปกติดี โดยเมื่อวานไม่ได้ทานโยเกิร์ตที่ต้องทานทุกวัน... แถมมีคนชมว่า..ทำไมวันนี้ดูอิ่มเอิบจัง...แหะ..ชมว่าแก้มแดงผ่องใส .. หน้าบานค่ะ "

ก็เช่นเดียวกัน...ทุกวันนี้โดยปกติที่ข้าพเจ้าทานมื้อเดียว วิ่ง-ว่ายน้ำทุกวัน ทานผักผลไม้มากขึ้น อดมื้อเย็น บางครั้งอดทั้งวันหากรู้สึกว่า toxin เยอะ... แต่ไม่เคยรู้สึกอ่อนเพลียเลย แต่กลับมีพลังชีวิตมากขึ้น...

 

 

สวัสดีค่ะคุณกะปุ๋ม

  1. ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่เพิ่งไปตามอ่านคำตอบจากบันทึกที่ผ่านมาของคุณกะปุ๋ม...จึงได้ทราบว่า...ต้องการสูตรการทำโยเกิร์ตจากน้านมถั่วเหลืองค่ะ
  2. ขอออกตัวก่อนนะคะ สูตรทำโยเกิร์ตจากนมถั่วเหลืองนี้ เป็นแนวคิดของกลุ่มนีโอฮิวแมนิส ซึ่งพยายามที่จะรับประทานเนื้อสัตว์ และ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ให้น้อยที่สุด จึงใช้นมถั่วเหลืองแทนใช้น้ำนมวัวค่ะ 
  3. ใช้น้ำนมถั่วเหลือง 1 กล่อง โดยมากคนไม่มีรากใช้ แลคตาซอยกล่องสีฟ้าขนาด 300 มล.ค่ะ (เคยลองใช้น้ำเต้าหู้สด ก็พอใช้ได้แต่เพราะอะไรไม่ทราบ โยเกิร์ตจากน้ำเต้าหู้สดไม่ค่อยเกาะเป็น curd ทำให้ทานยากค่ะ)
  4. เทนมถั่วเหลืองใส่ภาชนะ แล้วอุ่นให้ร้อน ราว 40 องศา (ไม่ควรเกิน 40 องศา เพราะจะทำให้คุณค่าของนมถั่วเหลืองเสียไป) ในขั้นตอนนี้จะไม่นำนมถั่วเหลืองไปอุ่นให้ร้อนก็ได้ค่ะ แต่โยเกิร์ตที่ได้จะไม่ค่อยจับตัวกัน ทำให้ทานยาก
  5. ตักโยเกิร์ตเปล่าๆ (Plain yoghurt) ที่ไม่มีส่วนผสมของผลไม้หรืออื่น ๆ ใส่ในนมถั่วเหลืองที่อุ่นแล้ว 2-3 ช้อน คนให้เข้ากัน (เพื่อเป็นหัวเชื้อ)
  6. นำนมถั่วเหลืองที่ผสมกับหัวเชื้อโยเกิร์ตแล้ว ใสภาชนะที่มีฝาปิดสนิท ตั้งไว้ในที่ร่มไม่มีแสง ประมาณ 8-12 ชั่วโมง ก่อนจะทานนำไปใส่เก็บไว้ในตู้เย็น จะทำให้ทานได้ง่ายขึ้น โยเกิร์ตนี้เก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วันค่ะ
  7. โดยมากสำหรับคนที่ทานใหม่ ๆ และยังติดรสชาด ก็ต้องใช้วิธีการอื่น ๆ เช่น คนไม่มีรากจะเติมงาดำปั่น บางคนเติมน้ำผึ้ง เติมแยมชนิดต่าง ๆ ค่ะ ทำให้มีรสชาดคุ้นเคยและอร่อยตามที่เราเคย เสพติด กันมาค่ะ
  8. ครั้งต่อไปสามารถใช้โยเกิร์ตจากที่เราทำเองนั้น เป็นหัวเชื้อในการทำโยเกิร์ตใหม่ได้เลยค่ะ
  9. ลองทำดูแล้ว ได้ผลอย่างไร ช่วยส่งข่าวด้วยนะคะ

                             (^__^)

เยี่ยมเลยค่ะ...คุณ "คนไม่มีราก"...

  • กะปุ๋มจะไปลองทำดูนะคะ... ได้เรื่องอย่างไรจะนำมาเล่าให้ฟังนะคะ
  • ขอบพระคุณค่ะ

(^___^)

คุณกะปุ๋มคะ

  • แวะมาถามไถ่ การทำโยเกิร์ตด้วยนมถั่วเหลืองค่ะ
  • ทำแล้วได้ผลอย่างไร ส่งข่าวด้วยนะคะ
  • มาส่งข่าวว่า พรุ่งนี้ คนไม่มีรากจะงดเนื้อสัตว์ค่ะ
  • ขอให้ร่วมอนุโมทนาด้วยกันนะคะ...^_^...

ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ต่อความเจริญแห่งภายใน ที่น้อมนำให้ได้การกระทำกิจอันดีงามนี้นะคะ...

  • สำหรับโยเกิร์ตกะปุ๋มยังไม่ได้ลงมือลองทำเลยค่ะ หากได้เรื่องราวอย่างไร จะนำมาถอดบทเรียนไว้นะคะ

ขอบพระคุณต่อการนำบุญมาบอกกล่าวด้วยนะคะ

(^____^)

กะปุ๋ม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท