อ่านบันทึกเรื่อง อิ อิ .. ของครูบาแล้ว...อยากเรียนท่านว่า ...ตัวอักษรล้านเจ็ดตัวก็ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เป็นไปได้หมด มีแต่สัมผัสแห่งความเป็นไปด้วยประสบการณ์ตรง
ณ เวลานี้คงต้องยอมรับว่า ปรากฎการณ์หนึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่ย่อมเป็นที่สนใจ และมุมแห่งความสนใจก็ย่อมต่างกันไปตามระดับของประสบการณ์ของเขา ....หากท่านใดสนใจที่จะเข้าใจเฮฮาศาสตร์ก็อยากชักชวนให้ไปเป็นคนใน (insider) ดู...ความเข้าใจเดิมย่อมเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย
สำหรับตัวเองแล้วมีความเชื่อว่าบุคคลย่อมกระทำหรือพูดบนปรัชญาความเชื่อของตัวเอง และหากเป็นนักวิจัยแล้ว คนที่ทำงานบนความเชื่อ Multiple realities ย่อมแตกต่างจากพวกที่เชื่อ Postivism ซึ่งย่อมไม่มีคำว่า ใครผิดหรือถูก ถ้างานของเขานั้นสามารถอธิบายกรอบแนวคิดความเชื่อที่เขาแสดงให้ปรากฎ แต่จะน่าสงสัยทันทีที่เห็นการปฏิบัติขัดแย้งกับปรัชญา
ยกตัวอย่างว่า หากใครสักคนประกาศความเชื่อเรื่อง constructivism แต่คอยควบคุมการกระทำ คาดคั้นคาดหวังกับพฤติกรรมคนอื่นให้คล้อยตามความคิดของตัวเองแล้ว ความคิดกับการกระทำก็ถือว่าขัดแย้งกัน เพราะการควบคุมและการมองแยกส่วน มันคือวิถีของ Postivism ...อย่างนี้ค่ะ ...ดังนั้น โดยการเชื่อมโยงปรัชญากับวิธีการในลักษณะนี้...สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์งานวิจัยหรือวิชาการของคนๆ นั้นได้ ...คือถ้าใครคนนั้นจะพูดดีสักเท่าไหร่ มีคัมภีร์ มีอ้างอิงมาเจ๋งแค่ไหน ก็ยังอดไม่ได้ที่จะกังขาเขาคนนั้นได้ทำงานบนความเชื่อของเขาอย่างไร และเขาเชื่อในสิ่งที่เขาบอกจริงหรือ
__________
หมายเหตุ:
การเต้นแร้งเต้นกา มีประโยชน์อย่างเดียวคือ ได้ออกกำลังกาย
-----
ขอไม่ขยายความเรื่อง constructivism หรือบางทีไปเจอบางคนใช้คำว่า social constructionism ...
-----
ขอคิดดังๆ เช่นนี้ค่ะ
ยินดีน้อมฟังความคิดเห็นจากทุกๆท่านค่ะ
(เปลี่ยนแปลงชื่อบันทึกให้สั้นลง 7.10 น)