นักกีฬา "ชีวิต..." (A Life Player)


นักกีฬาก่อนที่จะเขาลงสนามแข่งจริง ๆ นั้นเขาต้องฟิต ต้องซ้อม ต้องเหนื่อยมาก่อนทุก ๆ คน
คนเราที่จะได้เหรียญทองโอลิมปิคนั้นไม่ได้อยู่ที่พรสวรรค์อย่างเดียวเสมอไป
บางทีเศรษฐีเก่าตกกระป๋องก็มี เศรษฐีใหม่มาแรงแซงทางโค้งไปหมด...

คนที่สมองดี ร่างกายดี ถ้าไม่ฟิต ไม่ซ้อม บางทีก็สู้คนโง่ ๆ อย่างเราที่ฟิต ที่ซ้อมบ่อย ๆ
ยอมเหนื่อย ยอมทน ยอมออกแรงรดน้ำต้นไม้อย่างเต็มที่ แล้ววันหนึ่ง วันใดที่ต้นไม้นี้ผลิดดอก ออกผล เราก็จะสามารถชื่นชม เด็ดดม ผลิตผลแห่งน้ำพัก น้ำแรงของเรานี้ได้อย่างภาคภูมิใจ

คนรวย ๆ ฉลาด ๆ นี้เขาชอบประมาทนะ ทรัพย์สิน เงินทอง และความฉลาดนั้นทำให้คนเราผิดพลาดมาแล้วนักต่อนัก
ดังนั้นเราดีแล้วที่มี "ทุนแห่งความโง่" อยู่ในตัว
ความโง่นี้จะไม่ทำให้เรา "ประมาท"
ความโง่นี้จะเตือนตัวเราเองอยู่เสมอว่าเราต้องออกกำลัง เราต้องพัฒนา เราจะมานอนตีพุงอยู่เฉย ๆ ไม่ได้

ร่างกายที่ออกกำลังกายเสมอ ก็จะไม่ง่อยเปรี้ยเสียขา
แกว่งแขนไป แกว่งแขนมาอย่างนี้แหละ เดี๋ยว "ปัญญา" ก็จะเกิด จะมีมา

แต่ทว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ
การที่เราไปวัดนั้นก็เปรียบเสมือนนักกีฬาอยู่ในสนามซ้อม
พอเวลาที่เรากลับเข้ามาในสังคมนี้น่ะสิ กลับบ้าน หรือเข้ามาที่ทำงาน นี่แหละคือ "สนามกีฬาโอลิมปิค"
เพราะชีวิตนี้คือของจริง
ของจริงที่มีแต่คนที่ "เห็นแก่ตัว" มีคนที่จะจ้องแต่เอาเปรียบเรา จ้องจะทำร้ายและทำลายเรา

สิ่งที่ฝึกมาแล้ว ซ้อมมาแล้ว สะสมไว้แล้ว เอามาสู้ เอามาใช้
ความดีและความเสียสละทั้งหลายเขามีไว้ใช้ในชีวิตประจำวันนี้แหละ

ในที่ทำงานเขาให้ค่าจ้างเราร้อย เราทำให้เขาสักสองร้อยก็ได้ มันขึ้นอยู่ที่ "ใจ" ของเรา
เราทำ เราก็ได้เอง ได้กำไรเอง กำไรนั้นเกิดขึ้นจากความดีและความ "เสียสละ..."

เก็บขยะที่วัดได้ ก็ต้องเก็บขยะในที่ทำงานได้
ล้างห้องน้ำที่วัดได้ ก็ต้องล้างห้องน้ำในที่ทำงานได้
ทำกับข้าวให้พระได้ ก็ต้องทำกับข้าวให้กับพ่อและแม่ได้

พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ครอบครัว ที่ทำงาน และสังคมนี้คือสนามกีฬาโอลิมปิค ที่ "นักกีฬาชีวิต" อย่างเรานี้จะต้องแข่งขันด้วยน้ำใจอันดี น้ำใจ น้ำคำ และน้ำแรงที่ "เสียสละ..."

สนามกีฬาโอลิมปิคแห่งชีวิตนี้ยังมีรอยยิ้มและคราบน้ำตารอคอยเราอยู่เบื้องหน้าอีกมากมาย
คู่ต่อสู้ในสนามกีฬา เมื่อจบแมตซ์การแข่งขันก็ย่อมไม่ล้างราจาก "ไมตรี..."
ชีวิตนี้ก็เหมือนเกมส์กีฬานี่แหละ จบแล้วก็จบ หมดแมตซ์แล้ว "ชาติหน้า" ค่อยว่ากันใหม่

การไปปฏิบัติ ถือศีล ภาวนา ก็เหมือนกับการ "พักครึ่งเวลา"
แต่ตอนนี้กลับเข้าสู่ในสนามแข่งขันแล้วก็ขอให้สู้ต่อไป สู้ให้เต็มที่ สู้ด้วยความดีที่ตอนพักครึ่งเวลานี้ได้ "เคย" กระทำ...


ที่มาจากบันทึก White Marketing…?

หมายเลขบันทึก: 303416เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2009 12:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ต้องตั้งใจ ตั้งมั่น และอดทน

 เพราะธรรมชาติของใจ

ชอบหาที่เกาะที่เกี่ยว

เดี๋ยว กระโดดไปพอใจคนโน้นที

โกรธเคืองคนนี้ที อันนี้อยากได้

อันนี้ไม่อยากได้ อยู่ร่ำไป

กว่าจะรู้ทัน ก็แทบแย่แล้ว

 

 มีผู้เมตตาเสี่ยงชีวิตมาเตือน

ตอนมีสติ ก็ลงใจ สุด ๆ

แต่ตอนขาดสติ มันช่างน่าตีเสียนี่กระไร

อะแต่ก็เป็น สนามแข่ง ดี ๆ

ที่รู้จริง เข้าใจจริง ร้องไห้จริง

ไม่มีตัวแสดงแทน

หัดกันที่สนามจริง ๆ นี่แหละ

แข่งบ่อย ๆ แพ้ บ่อย ๆ ชนะ บ่อย ๆ

ต่อไปจะได้รู้ว่า ไม่มีแพ้ ไม่มีชนะ

มีแต่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัว สาธุเจ้าค่ะ

ตั้งใจอย่างเดียวก็พอแล้ว...

ตั้งใจให้ดี อย่าให้ใจล้มไปล้มมา

ตั้งใจให้ตรง ไม่ง่อนแง่น คลอนแคลน พะว่อนั่น พะว่อนี่

มีอะไรดี ๆ ก็ทำไปเรื่อย "โง่ ๆ" ทำไปอย่างนี้แหละ

คนจะบ่น จะว่าอะไรก็ทำเป็น "โง่ ๆ" แล้ว "ยิ้ม ๆ" ไปอย่างนั้นแหละ

ทำไปเรื่อย ยิ้มไปเรื่อย

อย่าให้เป็นหมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อมนะ...

นี่แหละกลัวที่สุด หมูสนามจริงสิงห์สนามซ้อม

พอเจอพอจริงเมื่อไหร่ แทบหงายเก๋ง

โดนมันหลอกซ้ำ เนียมมาคร่ำครวญ

เลิก ๆ ๆ คร่ำครวญเสียเวลา

ตั้งใหม่ ๆ ยิ้มไว้ ๆ

หลากหลายครั้งคนเรามักแยกการปฏิบัติไว้คนละส่วนกับ "ชีวิต"

การปฏิบัติธรรมจึงกลายเป็นอะไร อะไร ที่ห่างไกล "ชีวิต"

คนทั้งหลายจึงหาเวลาว่างจากชีวิตไป "ปฏิบัติธรรม..."

คนเราเวลาทำงานนั้นใช้ชีวิตอย่างหนึ่ง เวลาเลวก็เลวซะเต็มที่ เวลาชั่วก็ชั่วซะเต็มคราบ

คนเราเวลาปฏิบัติธรรมนั้นก็ใช้ชีวิตอีกอย่างหนึ่ง เวลาดีก็ดีซะสูงเลิศ เวลาประเสริฐก็ประเสริฐซะเต็มประดา...

ตอนไปวัดนี่ดีมาก แต่พอออกจากวัดก็ดีหมด "หมดดี..."

พอกลับมาทำงาน "เข้าสังคม" ก็อ้างว่าสังคมมีแต่คนชั่ว ๆ ถ้าไม่ชั่วก็อยู่ไม่ได้

พอกลับไปปฏิบัติธรรม ก็อ้างว่าสังคมมีแต่คนดี ถ้าไม่ดีก็อยู่ไม่ได้

ความดีเป็นอะไรที่ทำได้เฉพาะที่

และความชั่วจึงเป็นอะไรที่ทำได้ "ทุกที่..."

เรียนคุณสุญญตา

กีฬาสร้างคนให้เกิดได้หลายอย่าง เกิดวินัย เกิดน้ำใจ ความอดทน เสียสละ แบ่งปัน ความเป็นมิตร

ผู้บริหารบางที่ก็นำการสร้างทีมงานจากกีฬามาใช้บริหาร

ถามตนเองว่ายังแยก การปฏิบัติ กับ ชีวิตไว้คนละที่ไหม

 

แฮะ ๆ แทบจะเป็นช่วงเวลาเลยเจ้าค่ะ

พอเวลา ลงมือทำงานที่ไร ก็ลืมปฏิบัติ พอปฏิบัติ ๆ

งานก็ค้าง 

แต่ก็จะทุ่มเททำเจ้าค่ะ ระลึกได้รีบหายใจ

ลืมไป ก็ตั้งใหม่ เป็นตุ๊กตาล้มลุก

 

แต่ก็จะอดทนเจ้าค่ะ

แสดงว่ามีเวลาเยอะ สามารถแยกปฏิบัติธรรมครั้งหนึ่ง และทำงานอีกครั้งหนึ่ง

ไม่เป็นไร ถ้างานเยอะขึ้น เวลาว่างน้อยลง ก็ให้ปฏิบัติธรรมตอนยุ่ง ๆ นะ

เปลี่ยนจากตุ๊กตาล้มลุก เป็นตุ๊กตาที่หายใจได้ ดีกว่าไหม

ทำตัวเหมือนตุ๊กตาที่หายใจได้

ตุ๊กตาตัวนี้หน้าตายิ้มแย้ม ยิ้มอยู่อย่างนั้น หายใจอยู่อย่างนั้น

เขาด่าก็เฉย เขาชมก็เฉย

อดทนนะ อดทน สร้าง "ขันติบารมี" นะ

อดทน อดกลั้นนะ แข็งแรง เข้มแข็งนะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท