ภาพจาก: www.212cafe.com/.../view.php?user=okus08&id=673
ภาพขวามือเป็นของเล่นจากพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ 45 หมู่ 2 ถ.อู่ทอง ต.ท่าวาสุกรี อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
พิพิธภัณฑ์เกริกยุ้นพันธ์ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. ส่วนนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีร้านก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกงครัวประตูชัย พร้อมกาแฟโบราณ
2. ส่วนภายในอาคาร 2 ชั้น แบ่งเป็น
2.1 Museum ชั้น 1 ของเก่าเก็บภาพถ่ายโบราณฟิล์มกระจกสมัย รัชกาลที่ 4 เหรียญเงินตรา แสตมป์ พระพุทธรูป ภาพวาด เครื่องแก้วโบราณ เครื่องเคลือบ เครื่องกระเบื้อง เครื่องปั้นดินเผา งานเครื่องแก้ว และของโบราณอื่น ๆ อีกมากมาย
2.2 Museum ชั้น 2 เป็นภาพฝาผนัง Mural Painting สำหรับเด็ก โดย เกริก ยุ้นพันธ์ และของเล่นหายาก 100 ชิ้น ที่ควรดู ซึ่งคนทั้งโลกอยากเห็น นักสะสมของเล่นอยากเป็นเจ้าของ
ตอนเด็กๆมีตุ๊กตาพลาสติกใส่กระโปรงสีชมพู ตัวเดียวที่แม่ซื้อให้
นอกนั้นคอยที่พี่ชายทำให้เล่นกันเอง
สวัสดีค่ะ
แวะไปเยี่ยมเยียนคุณอ้อยเล็ก
ทำให้คิดถึงชายหนุ่มเจ้าของบ้านหลังนี้
ขอร่วมอนุรักษ์ของเล่นโบราณด้วยคนค่ะ
ชอบเล่นของเล่นคะ เห็นภาพแล้วนึกถึงอดีตคะ
สวัสดีครับคุณครู ป.1 เรื่องของเล่นสมัยเรายังเด็ก มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก ที่บ้านผมมีหนังกลางเเปลงบ่อยชอบไปยืนดูร้านที่เเบกะดินขาย แหมได้ชีวิตเด็กต่างจังหวัดจริงๆขอรับ
ครูอิงจันทร์ขอรับ...ผมหาของเล่นมาฝากขอรับ
นวลจิรา รุจิเรศ สวัสดีที่รู้จักกันนะขอรับ เรารักของเล่นโบราณกันนะ
จาก: www.oknation.net/.../2009/06/25/entry-1/comment
สมัยก่อนผมมักขอเงินเเม่วิ่งไปปากทางเข้าบ้านซึ่งเป็นร้านค้าของชำ มีของขายหลอกเด็กเพียบเลย...ไขถั่วได้ขนมกับของเล่น เป็นเป้าหมายที่ผมจะเอาเศษตังไปหยอดเเลกมันมาขอรับ
สวัสดีคะ อาจารย์
ตอนเด็ก เล่นแบบผู้ชายนะคะ เล่นหนังสติ๊ก ด้วยค่ะ ตุ๊กตาและของเล่นอื่นๆไม่ได้เก็บไว้ ยามโตเลยค่ะ ไปตลาดสามชุกเห็นวางขายเยอะเลยค่ะ
อาจารย์ขจิตขอรับ.... ประมาณนี้เปล่าขอรับ
ตอนเด็กๆ (บ้านนอก) ของผม ของเล่นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ซื้อหาครับ ผมเคยเขียนบันทึกเกี่ยวกับของเล่นเด็กบ้านนอกสมัยก่อนไว้ เลยเอามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ
http://gotoknow.org/blog/attawutc/246271
http://gotoknow.org/blog/attawutc/255849
http://gotoknow.org/blog/attawutc/255848
http://gotoknow.org/blog/attawutc/252258
ภาพจาก: pongphun.wordpress.com/.../
สวัสดีขอรับพอลล่า...ของเล่นตลาดสามชุกจ๊ะ
ไทเลย-บ้านแฮ่
ขอบคุณมากๆขอรับที่รู้จักกันไปชมเเล้วขอรับ
หวัดดี จารย์กู้ มาเรียนรู้อีกเเล้วครับ...
OK ได้เลยสำเริง..เอาของเล่นโบราณมาฝาก
แบงค์กาโม่ เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยเล่นกันนะคะ สำหรับตัวผึ้งเองไม่ได้เอาไปเล่นซื้อของแบบเด็กทั่วไปหรอก แต่เอาไปพับเอาด้านที่มีแต่สีที่เหมือนแบงค์จริงออก แล้วเอาไปทิ้งไว้ตามทางเดิน พอมีคนเดินผ่านมาหยิบแล้วเห็นว่าเป็นแบงค์ปลอม ก็หัวเราคิกคัก เป็นที่สนุกสนาน (นึกสีหน้าคนหยิบตามไปด้วยนะ) ตอนเด็กๆพอมีแบงค์กาโม่เต็มกระเป๋าตังค์ รู้สึกเลยว่า "หนูรวยที่สุดในโลก" เป็นความไร้เดียงสาที่น่าให้อภัย
ของเล่นนี้ผมเล่นตั้งเเต่เด็กเลยขอรับยืมมาจากhttp://www.meedate.com/blogs/toymother/index.php?page=default&theme=thai
ไม้โผละเป็นของเล่นเด็กไทย
ที่นำวัสดุอุปกรณ์ใกล้ตัวมาประดิษฐ์เป็นของเล่น
อุปกรณ์ในการเล่น ได้แก่ ไม้ไผ่รวก, กระดาษชุบน้ำ
วิธีเล่น
ตัดไม้ไผ่รวกยาวประมาณ 1 ฟุต เป็นกระบอก
เหลาไม้ไผ่เป็นก้านยาว ประกอบเข้าด้ามเป็นแก่น
นำกระดาษชุบน้ำปั้นเป็นก้อนกลม
มาอัดที่ปากกระบอกใช้แก่นกระทุ้ง
ลูกกระดาษจะกระเด็นออกไปเสียดัง “โพละ”
http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=3638.msg35489
สวัสดีค่ะ
จริงๆแล้วของเล่นเหล่านี้มีเสน่ห์นะคะ
ขอบคุณค่ะ ที่ได้นำมาให้ย้อนวัย
คิดถึงเมื่อยามตนเองเป็นเด็ก หม้อข้าวหม้อแกง แล้วก็เลี้ยงตุ๊กตาเป็นลูก มีป้อนข้าว อาบน้ำให้ด้วย แล้วก็ทำกับข้าวแบบเด็กๆ ด้วย ตอนเด็กชอบเล่นเป็นพ่อเป็นแม่เป็นลูกกับเพื่อนๆ ตอนนั้นอยู่เด็กประจำ วนเวียนเห็นหน้ากัน ก็มีแต่หน้าเดิมๆ ก็ไม่เหงาคะถ้าได้เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เพราะจินตนาการเยอะมาก
-เชื่อไหม พอโตขึ้นมา กับข้าวก็ซื้อสำเร็จ เป็นคุณนายถุงไม่เก่งเหมือนตอนเป็นเด็ก เล่นทำแกงนั่นแกงนี่ เหมือนจะเก่ง
-เล่นหมากเก็บ เล่นกระโดดข้ามยาง เล่นกระโดดเชือก เล่นตี่จับ เล่นหนอนขาเดียวเอ้าไม่ใช่ของเล่นแล้ว เป็นการเล่นที่ได้ออกกำลังกายไปด้วย ที่นิยมเล่น เล่นหมากเก็บนี่แหละ นั่งตั้งวง เล่นกัน ก็สนุกดีนะคะ เป็นเด็กหญิงสมัยนั้น ไม่มีอะไรพัฒนาเหมือนสมัยนี้ หม้อข้าวหม้อแกงที่เล่น ยังใช้กะโปะ กะลา กระป๋องกระแป๋งเท่าที่มีเลยคะ นานมาก
ถึงแม้หมูจ๋าเกิดยุค70แต่ก็ชอบเล่นหุ่นยนต์เพราะพี่สาวกัดไม่ได้มันแข็งไม่เหมือนตุ๊กตาพลาสติกใส่กระโปรงสีชมพูพี่สาวชอบกัดตรงหัวนมจนเป็นรูเลยไม่อยากเล่นค่ะ
ของเล่นบั้งโป๊ะ ผมเคยทำหนังสืออ่านสำหรับเด็ก อั๋นน้อยเล่นบั้งโป๊ะ (อีสานเรียกบั้งโป๊ะ)
บูรณาการวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อแรง เป็นคำคล้องจอง
โห...พี่สุเยี่ยมเลยขอรับ เราได้เเลกเปลี่ยนกันเเม้เวลาจะเลยเนิ่นนานมาเเล้ว
สวัสดีขอรับคุณหมูจ๋า...ตอนเด็กผมไม่ค่อยมีของเล่นเป็นของตนเองหรอกขอรับ...ไม่มีตังซื้อต้องทำเองกะมือทั้งนั้นเลย
สวัสดีขอรับท่าน ผอ.ผมได้ความรู้จากท่านเพิ่มอีกเรื่องเเล้วขอรับ
สวัสดีตอน3 ทุ่มค่ะอาจารย์
* ไม่รู้ว่าลูกศิษย์มาเยี่ยมอาจารย์ดึกเกินไปหรือเปล่า....คงไม่เน๊าะ ปกติจะเข้ามาบอกราตรีสวัสดิ์อาจารย์ก่อนกลับบ้าน บางวันเกือบ5 ทุ่มโน่น...ใช่ป่ะ..
* ไปเยี่ยมอาจารย์อ้อยมาค่ะ (ตอนแรกไม่คารวะอาจารย์อ้อยในฐานะเพื่อนรักของอาจารย์กู้เกียรติก่อนค่ะ) เมื่อครู่นี้ไปเยี่ยมอาจารย์อ้อยเล่าเรื่องโรงเรียนสัตยาไส โห.... อาจารย์ของลูกศิษย์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่าน ดร.อาจอง ที่ละเอียดมากๆ ลูกศิษย์โชคดีจังที่ได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์.....เพราะได้ศึกษาเรื่องการจัดกระบวนการเรียนของโรงเรียนสัตยาไสยพอสมควร.. มีโอกาสฟัง ดร.อาจอง บรรยาย และพูดคุยกับท่าน ท่านน่ารัก และให้คำแนะนำครูใจดีในหลายเรื่อง ซึ่งเคารพรักและศรัทธาท่านมากๆ ท่านเป็นแบบอย่างและแนวทางที่ครูใจดีนำมาใช้กับลูกศิษย์ของตัวเองในหลายๆ เรื่อง ซึ่งได้ผลดีทีเดียวค่ะ...
* วันนี้เด็กอยู่ฝึกตัดต่อวิดีโอที่โรงเรียน พรุ่งนี้จะต้องแข่งขันทักษะความเป็นเลิศทางวิชาการ เกือบเสร็จแล้ว จะได้กลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้เด็กๆก็ต้องไปแจ่งแต่เช้า...
* ลูกศิษย์จึงถือโอกาสบอกราตรีสวัสดิ์อาจารย์ตอนนี้เลยนะคะ ขอให้อาจารย์พบแต่ความสุข หลับฝันดีทุกวันนะคะ...
* อ้อ!... ห้ามทวงการบ้านตอนนี้นะคะ สมศ. ยังประเมินไม่เสร็จเลย....ฮา บายค่ะอาจารย์
เดี๋ยวๆ ลืมไป ศิษย์เอาภาพลูกๆ ของศิษย์มาฝากค่ะ
อยู่กับเจ้าพวกลิงทะโมนค่ะ... ใช้วิธีการของ ดร.อาจอง ปลูกฝังพวกเขา 4/2 จากดื้อๆ กลายเป็นเด็กน่ารักไปแล้ว น่ารักกว่าเด็กห้อง 1 อีกค่ะ ทั้งเรียน และช่วยงานโรงเรียนทำทุกอย่าง ไม่ดื้อเลย.... พวกนี้แหละกำลังตัดต่อวิดีโอ และเขียนเว็บ ไม่ยอมให้ครูใจดี กลับบ้านเสียที แง...แง...
* บาย.... อีกครั้ง ไปจริงๆ แล้วค่ะ
สวัสดีตอนเช้าตรู่...วันนี้ตื่นแต่เช้าเตรียมการสอนนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย....มีความสุขกับการทำงานนะขอรับ
เถรอดเพล ( ของเล่นโบราณของไทย )
ลุงสว่าง ชูสุวรรณ ได้รับคัดเลือกจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐมให้เป็นศิลปินดีเด่นจังหวัดนครปฐม ปี พ.ศ. 2545 สาขาช่างฝีมือ ( เถรอดเพล) ลุงสว่าง ชูสุวรรณ เป็นช่างชาวท่าพูด อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 6 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม 73210 มีความสามารถพิเศษในการทำเครื่องเล่นโบราณซึ่งเรียกว่า เถรอดเพล ( เถน-อด- เพน ) ทำด้วยไม้ไผ่สีสุก หรือไม้สัก ถ้าเป็นไม้ไผ้ต้องนำไปตากให้แห้งแล้วนๆไปจักให้เป็นเส้นให้มีขนาดความหนาของไม้รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส แต่ถ้าเป็นไม้สักก็ผ่าด้วยเลื่อย จากนั้นตัดไม้ให้มีขนาดความยาว 2 นิ้วเศษ จำนวน 6 ชิ้นขั้นต่อมาให้นำมาบากตามแบบที่กำหนดพื่อให้สามารถประกอบเข้าด้วยกันอย่างสนิท และหากถ้านำเอาไม้ทั้ง 6 ขิ้นมาประกอบลงในขวดแก้วปากเล็ก เช่น ขวดแม่โขงก็จะมีความยุ่งยากมากขึ้นต้องใช้ความเพียรเป็นอย่างมาก
แหมขอบคุณมากๆๆๆ อ่ะของเล่นยกให้เลย
ของเล่นใหม่จากคุณตาคุณยาย
กรกฎกำลังเล่นกับงูดูด ซึ่งเป็นของเล่นพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่ครูของเขานำมาใช้อธิบายหลักวิทยาศาสตร์ในชั้นเรียน เรื่อง โดย โรเบิร์ต ฟิว เชียงราย, เมษายน 2549 - สิ่งแปลกประหลาดปรากฏขึ้นในห้องเรียนของโรงเรียนบ้านป่าแดด สูงขึ้นไปในเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยม่านหมอกในจังหวัดเชียงราย ท่ามกลางกองหนังสือเรียนและไม้บรรทัด คุณจะพบงูทำด้วยไม้ไผ่ที่เกาะนิ้วมือแน่นราวกับเหล็ก มีท่อกลวงทำให้เกิดเสียงดังเหมือนเสียงนกในท้องถิ่น และท่อนไม้ที่หมุนได้ ส่งเสียงร้องโหยหวนน่ากลัวเสียยิ่งกว่าผี สิ่งของทั้งหมดนี้คือของเล่นสมัยก่อนที่ปู่ย่าตายายเป็นผู้สอนเด็กนักเรียนให้ประดิษฐ์ขึ้นมา เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่สนับสนุนโดยองค์การยูนิเซฟ ซึ่งมุ่งไปที่การอนุรักษ์ประเพณีท้อง ถิ่น และกระตุ้นการเรียนรู้ในพื้นที่ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การศึกษา และเป็นที่ที่เด็กส่วนมากลาออกก่อนเรียนจบชั้นมัธยม "นี่แหละ ‘งูดูด’" กรกฎ วงศ์ยาง วัย 13 ปี อธิบายให้ฟัง ในขณะที่เขายื่นของเล่นชิ้นโปรดให้เราดู มันเป็นหลอดทำด้วยไม่ไผ่ชนิดพิเศษ “ลองวางบนนิ้วดู เวลาที่เราพยายามจะดึงมันออกมันจะเกิดสุญญากาศขึ้น ทำให้ยิ่งดึงแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งดึงออกยากเท่านั้น” เด็กๆ รู้สึกสนุกสนานกับของเล่นชิ้นนั้น ทั้งๆ ที่มันถูกดัดแปลงจากภูมิปัญญาพื้นเมืองในท้องถิ่น นอกจากนี้ของเล่นสมัยโบราณยังสามารถใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้ เช่น งูดูดอันใหญ่สามารถใช้สำหรับเป็นเครื่องดักจับปลาไหลที่ว่ายเข้ามาในท่อไม้ไผ่ และตอนนี้หมอประจำท้องถิ่นเริ่มใช้งูของเล่นนี้ในการนวดมือคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบ ทุกวันนี้ครูต่างก็ใช้มันในการอธิบายกฎเกณฑ์พื้นฐานด้านฟิสิกส์ เนื่องจากของเล่นหลายชนิดสามารถนำมาใช้เป็นตัวอย่างอธิบายเรื่องหลักวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เกิดสุญญากาศ การสั่นสะเทือนของเสียง และปรากฏการณ์ธรรมชาติอื่นๆ
© UNICEF-Thailand/2006/Few ของเล่นพื้นบ้านเรียกว่าจักจั่นที่สามารถทำให้นักเรียนเข้าใจถึงหลักการของเสียงและการสั่นสะเทือนแบบง่ายๆ เมื่อเด็กสามารถมองเห็นกฎของฟิสิกส์จากตัวอย่างง่ายๆ ทำให้พวกเขาก็จะเข้าใจทฤษฎีได้ง่ายขึ้น “ผมชอบจักจั่น (ใบพัดชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดเสียงเมื่อมันบินร่อนในอากาศ)” พิษณุพงศ์ อุปละ วัย 14 ปีบอก “เล่นจักจั่นทำให้เข้าใจเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องความต้านทาน การสั่นสะเทือนและเสียงได้ง่ายขึ้น” “แต่ของเล่นพวกนี้ช่วยเด็กได้มากกว่าแค่ได้เรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์” ชัชวาล บำเพ็ญ ผู้จัดการโครงการอธิบาย “ยกตัวอย่างเช่น งูดูดซึ่งต้องทำจากไม้ไผ่ชนิดพิเศษ ซึ่งจะตัดมาใช้งานได้ในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น มันช่วยสอนเด็กเรื่องของสิ่งแวดล้อม และให้รู้จักสังเกตว่ามีอะไรเกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา” ชัชวาลบอกว่าของเล่นยังสอนเด็กเรื่องวัฒนธรรมท้องถิ่น เพราะในอดีตงูดูดใช้กันในการเกี้ยวพาราสี “ย้อนไปในอดีต ชายและหญิงไม่สามารถถูกเนื้อต้องตัวกันได้ ดังนั้นพวกผู้ชายจึงวางงูดูดนี้ไว้บนนิ้วมือของผู้หญิงที่ตนพอใจ” ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน คือ โครงการนี้ ยังทำให้ปู่ย่าตายายและลูกหลานได้มีโอกาสอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับบางครอบครัวความใกล้ชิดแบบนี้ได้ห่างหายไปนานนับชั่วอายุคนเลยทีเดียว “เมื่อของเล่นแบบดั้งเดิมหายไปและถูกแทนที่ด้วยความบันเทิงในรูปแบบใหม่ๆ ช่องว่างจึงเกิดขึ้นระหว่างคนต่างรุ่นต่างวัย” ชัชวาล ผู้ซึ่งเชี่ยวชาญทางการเล่น การพัฒนาและการประถมศึกษาอธิบายให้ฟัง "คนที่สูงวัยกว่าจะนั่งอยู่เฉยๆ ในบ้าน ส่วนเด็กๆ ก็ชอบเล่นวิดีโอเกมกันมากกว่า" “นับตั้งแต่มีโครงการนี้เป็นต้นมา ชีวิตของพวกเรามีความอบอุ่นมากขึ้น” กรกฎบอก “เราได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกับปู่ย่าตายายของเรามากขึ้น และเราก็รู้สึกรักท่านมากขึ้นด้วย” เพื่อนร่วมชั้นของเขา พัฒนา ปานขอ วัย 13 ปี เห็นด้วย “โครงการนี้ นำความสามัคคีมาให้หมู่บ้านของเรา เพราะตอนนี้เราขลุกอยู่กับปู่ย่าตายายของเราเกือบทุกวัน” โครงการดังกล่าว ยังนำความภาคภูมิใจในประเพณีท้องถิ่นตนของเด็กๆ กลับคืนมา และทำให้เกิดการตระหนักในคุณค่าของตนและความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เวลาที่กรกฎพูดถึงการเดินทางไปกรุงเทพเพื่อไปสอนเด็กๆ ในเมืองใหญ่ถึงวิธีทำแมงปอกระดาษ สีหน้าของเขาสดใสขึ้นทันที “ผมภูมิใจมากที่ได้นำของเล่นในท้องถิ่นไปสู่เมืองหลวง และผมก็มีความสุขมากตอนที่แสดงให้เด็กๆ ที่นั่นดูถึงวิธีการทำของเล่นขึ้นเองโดยไม่จำเป็นต้องซื้อหาในราคาแพงๆ มันดีเหมือนกันที่เรามีอะไรสักอย่างจากชนบทไปการแลกเปลี่ยนกับกรุงเทพ” ของเล่นต่างๆ นี้ จัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในหมู่บ้านของกรกฎ เพื่อสาธิตให้เห็นว่าโครงการเช่นนี้สามารถช่วยให้เด็กเกิดความสมหวังในสิทธิที่จะได้เล่น ที่จะได้ศึกษา และมีครอบครัวที่เปี่ยมด้วยความรัก ชัชวาลกำลังพยามยามทำให้โรงเรียนแห่งอื่นๆ นำเอางานฝีมือในท้องถิ่นมาใช้ในบทเรียน และช่วยกันเผยแพร่ความคิดนี้ไปทั่วประเทศ “ข้อดีประการหนึ่งของโครงการนี้คือ สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ” เขากล่าว “ตราบใดที่เราไม่ยอมให้ความรู้ประจำท้องถิ่นต้องสูญหาย ก็ย่อมไม่สิ่งใดมาขัดขวางการเผยแพร่ความรู้นี้ออกไปได้”http://www.unicef.org/thailand/tha/reallives_6190.html
เด็กหนึ่งคนย่อมมีของเล่นประจำกายสักหนึ่งอย่าง จะเป็นตุ๊กตาตัวโปรด หรือรถลากคันเก่ง ของเล่นก็คือส่วนเสริมเติมเต็มจินตนาการให้เด็กสมความคิดที่เขาอยากจะเป็น ในสมัยโบราณของเล่นสำหรับเด็กมักจะเป็นของทำมือ หรือวัสดุธรรมชาติเท่าที่หาได้ มีการค้นพบบันทึกประวัติศาสตร์เรื่องราวของเด็กๆ ชาวกรีกและโรมัน ว่าของเล่นเด็กส่วนใหญ่จะทำจากไม้แกะเป็นตุ๊กตา ม้าโยก ลูกข่าง โดยเฉพาะไม้แกะสลักเป็นรูปม้าและสัตว์ต่างๆ ต่อมาในยุคมืดและยุคกลาง ซึ่งเป็นช่วงไฟสงครามรบพุ่งกันเป็นส่วนใหญ่ เด็กๆ ได้รับการฝึกเป็นทหารโดยที่พวกเขาเองแทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ จากดาบไม้และโล่วิ่งไล่ตีกันอย่างสนุกสนาน เพราะเห็นเป็นเพียงของเล่น
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=donotremember&month=04-2009&date=09&group=5&gblog=4
จนราวศตวรรษที่ 18 ของเล่นที่ทำจากไม้เริ่มได้รับความนิยม ถึงขั้นทำเป็นงานฝีมือวางขาย โดยหมากรุกและเกมกระดานต่างๆ ได้รับความนิยมมากที่สุด และว่ากันว่าจิ๊กซอว์ชิ้นแรกของโลกที่ทำจากไม้พิมพ์ภาพ ซึ่งเป็นภาพแผนที่โลกสมัยนั้นเกิดขึ้นในยุคนี้เช่นกัน ในขณะที่บ้านเรานั้นของเล่นยังคงนิยมวัสดุจากธรรมชาติสร้างได้ง่าย อย่าง ก้านกล้วย กาบมะพร้าว และเรือใบไม้
“ของเล่นเด็กไทยในสมัยก่อนมักจะเป็นวัสดุจากธรรมชาติ ทำเองได้ง่ายๆ เน่าแล้วก็ทิ้ง ทำอันใหม่มาเล่นอีก อย่างม้าก้านกล้วย เรือไม้ฟาง เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการละเล่นด้วยกัน มากกว่าจะเน้นไปที่ตัวของเล่น จะมีดีหน่อยก็ตรงที่การปั้นดินเหนียวเป็นตุ๊กตา เป็นเครื่องใช้ในครัวเรือน ที่คนสมัยก่อนนิยมปั้นให้ลูกหลานเล่นกัน จนมีคำที่เรียกว่า อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น http://www.yenta4.com/webboard/2/1019198.html
- ของเล่นไทยสมัยก่อนตอนเป็นเด็ก
ตัวเล็ก ๆ งอแงว่าแม่จ๋า
อยากจะได้ไอ้หมุน ๆ เป็นบุญตา
แม่ซื้อมาให้สักอันคงมันดี
แม่ซื้อให้ใจดีมีของเล่น
เช้าจรดเย็นหมุนทั้งวันของฉันนี่
ถึงของเล่นของฉันมันไม่มี
ทุกวันนี้ยังมีแม่อยู่เหมือนเดิม
- http://www.tourthai.com/gallery/general/pic12891.shtml
โก๋งเก๋ง หรือ ไม้ต่อขา ของเล่นพื้นบ้านของเด็กๆ วัสดุหาไม่ยากใช้ไม้ไผ่ทำเป็นขาเดิน 2 ข้าง เพื่อใช้ก้าวเดินให้ตัวสูงขึ้น เรียกชื่อแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ ใครอยากทำ เริ่มต้นต้องหาไม้ไผ่ขนาดพอเหมาะ ให้ได้สัก 2 ลำ ใช้มีดเหลาลำไผ่ให้เรียบ เหลือแขนงหรือกิ่งที่แข็งแรง ไว้สำหรับเหยียบเดิน
http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=3638.msg35489
นี่คือของเล่นใหม่ของเด็กไทยขอรับ
สวัสดี ครับ อ.k-kukiat
เข้ามาส่งผ่านความระลึกถึงอาจารย์ นะครับ
นำกาแฟมาเสริฟ์ ให้ อาจารย์ แก้ง่วง นะครับ