หลวงพี่ไพศาล วิสาโล มอบหนังสือเล่นนี้ให้ผมตั้งแต่ปีใหม่ปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะมาอ่านจบเอาปีใหม่นี้
เบิกบานกลางคลื่นลม
ผู้เขียน: พระไพศาล วิสาโล
สำนักพิมพ์: ศยาม
ปี: ๒๕๕๑
บททืี่โดนใจผมที่สุด คือ วิถีพุทธ วิถีไท ในยุคบริโภคนิยม
เพราะเดิมเคยมั่นใจตนเองว่า ไม่ใช่เหยื่อของบริโภคนิยม แต่พออ่านหนังสือของท่านแล้ว รู้สึกเหมือนโดนเคาะหัวตักเตือนเล็กๆ
ลองสังเกตดูตัวเอง แล้วตอบคำถามที่ผมพยายามสกัดจากข้อเขียนของท่านออกมาเหล่านี้นะครับ ว่า
[ ] เราบริโภคในสิ่งที่เราผลิตเองหรือไม่
ผมเป็นหมอ ทำอย่างอื่นแทบไม่เป็นเลย แม้แต่อาหารก็ ซื้อ กิน แทบจะทุกมื้อ แม้แต่เจ็บป่วย บางทีก็ต้องพึ่งหมอคนอื่นรักษาด้วยซ้ำ
[ ] เราบริโภคอะไรที่เกิน ปัจจัยสี่ หรือไม่
ผมเหลือบดูรอบตัว มีสมบัติที่หลายคนพยายามเรียกเข้าข้างตัวเองว่า ปัจจัยที่ห้า..รถยนต์ ปัจจัยที่หก..โทรศัพท์มือถือ ปัจจัยที่เจ็ด... น่าจะนับได้ถึงปัจจัยที่ห้าร้อย..
[ ] เวลาว่าง เรา ผลิต หรือ บริโภค
เวลาว่าง ผมเคยทำโน่นทำนี่ด้วยตัวเองอยู่บ้าง แต่คงไม่ถึงขั้น ผลิต ด้วยตนเอง ต่างจากคนรุ่นก่อน งานอดิเรกยามว่างล้วนเป็นการผลิตทั้งสิ้น เช่น ทอผ้า ทำอาหาร เแต่เวลานี้ พอว่างส่วนใหญ่ก็อ่านหนังสือ ท่องเน็ต ..ซึ่งก็จัดอยู่ในเรื่องการบริโภค มากกว่า ผลิต ทั้งสิ้น
[ ] เราบริโภค สิ่งที่เป็นนามธรรม บ้างหรือไม่ เช่น ประสบการณ์
อันนี้โดนเต็มๆ เช่น ผมชอบการเดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์ อะไรแปลกใหม่ที่ดูเหมือนจะช่วยให้ริ้วรอยประสบการณ์ของเรามากขึ้น ยังดีที่ตัดใจไม่เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง จนเป็นนิสัยได้ เออ..แต่ก็ยังชอบดูละครเวที อยู่นะ
[ ] เวลาซื้อของ เราให้ความสำคัญกับ ยี่ห้อ หรือไม่
กำลังจะตอบว่า ไม่ แล้วเชียว แต่หันไปดูเครื่องคอมพิวเตอร์ ผมเข้าขั้นสาวก Macintosh เลย ไม่เคยนอกใจ ส่วนอย่างอื่นก็พอกล้อมแกล้มได้ว่า ตนเองไม่ยึดติดยี่ห้อ โดยเฉพาะ พวก กินแล้วเท่ห์ ใส่แล้วมั่นใจ ทาแล้วสามี/ภรรยาหลง
ลองตอบๆกันดู แล้วเขียนเล่าแลกเปลี่ยนกันบ้างนะครับ
ขอปิดท้ายด้วยคาถาแก้บริโภคนิยมของพลวงพี่ ที่ว่า ต้องมี ไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา คือ การควบคุมพฤติกรรม การฝึกจิตให้เกิดความสุขภายใน และการรู้เท่าทัน
เป็นกฏของธรรมชาติค่ะ กฏของสิ่งแวดล้อมค่ะหมอ พี่เองก็เป็น แต่....ใส่เบรคมือ ใส่เกียร์ถอยหลังยังพอได้อยู่บ้าง คงหนีไม่พ้นกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ แล้วพยายาม ลด ละ เลิก อยู่กับธรรมชาติให้มากที่สุดค่ะ ขอบคุณคุณหมอเหลือเกินที่นำสิ่งดีมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังค่ะ เพิ่งไปทำบุญปีใหม่มาค่ะ เอาบุญมาฝากค่ะ
ตอบได้เต็มปากอยู่ข้อเดียวเองค่ะ ข้อสุดท้าย ไม่ติดยี่ห้อ
ส่วนข้ออื่นๆ ตามวิถีสังคมเปลี่ยนไป หากมองว่าเหยื่อบริโภคนิยม บางอย่างอาจปรับความเข้มงวดลงนะคะ
] เราบริโภคในสิ่งที่เราผลิตเองหรือไม่
นานๆจะทำกับข้าวด้วยตัวเองค่ะ
[ ] เราบริโภคอะไรที่เกิน ปัจจัยสี่ หรือไม่
ก็มือถือ โน้ตบุ๊ค นาฬิกา และอีก....
[ ] เวลาว่าง เรา ผลิต หรือ บริโภค
ท่องเน็ต เขียนบันทึกบล็อก สอนหนังสือ อ่านหนังสือ เล่นกับหมา
[ ] เราบริโภค สิ่งที่เป็นนามธรรม บ้างหรือไม่ เช่น ประสบการณ์
การเดินทางท่องเที่ยว ดูทีวี ละคร
[ ] เวลาซื้อของ เราให้ความสำคัญกับ ยี่ห้อ หรือไม่
มีบ้างค่ะ เช่นครีมทาหน้าจะใช้แต่ยูเซอร์ลีนค่ะ อย่างอื่นอะไรก็ได้ค่ะ
ด้วยวิถี เปลี่ยนไป มันทำให้เราทุกคนที่ต้องบริโภคอยู่แล้ว ได้มาเจอกับทฤษฎีการแบ่งงานกันทำ ทำให้เราได้มาเป็นผู้ผลิตในบางส่วน และบริโภคในส่วนที่เราผลิตไม่ได้...ถ้านับว่าความต้องการเหล่านี้เป็นกิเลสตัณหา..มันจะมิทำให้เราเป็นทุกข์ไปกับการเป็นนักบริโภคหรือป่าวค่ะท่าน..
สวัสดีค่ะคุณหมอเต็มศักดิ์
คุณหมอ เด็กคนนี้เค้าคงมีความเกี่ยวพันกับน้ำพุเมื่อในอดีตค่ะ แล้วมันส่งผลมายังปัจจุบันค่ะ
อ.ธวัชชัย เป็นยังไงบ้างค่ะ รักษาไปถึงไหนแล้วค่ะ
ขอให้หายไวไวค่ะ
แบคกราวน์ใหม่อาจารย์สวยคลาสสิกมากคะ
ขออนุญาต discuss ประเด็นเีดียว..
เราบริโภคในสิ่งที่เราผลิตเองหรือไม่
ตอนจบหมอใหม่ๆ เห่อ..หาเงินได้ด้วยตัวเอง อยากจะซื้ออะไรก็ไม่ต้องเกรงใจใคร..
อยู่เวรทั้งนอก ทั้งใน อดหลับอดนอน ก็ยอม เพราะเห็นตัวเลขในเช็คแล้วใจพอง
ได้เงินมา เอาไปซื้อเครื่องสำอางแพงลิบลิ่วเพื่อลด รอยดำใต้ดวงตา (จากการอดนอนเพื่อหาเงินมาซื้อมันนั่นแหละ)
เอาไปเข้าร้านอาหารแพงลิบลิ่ว (เพื่อชดเชยการกินปิ่นโตชืดๆ เพื่อหาเงินมาซื้อมันนั่นแหละ)
..มองย้อนไปก็น่าขันตัวเอง..