กองทุนหมอเจ้าฟ้า: พระเมตตาของพระพี่นางแห่งแผ่นดินสยาม
ผมเป็นเด็กบ้านนอก เป็นลูกของชาวไร่จนๆในอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย วิถีชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่แถวนั้นคือเรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วก็ออกไปทำไร่ทำนา ผมเกือบจะไม่ได้เรียนต่อเช่นกัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจนพ่อยอมรับในความเอาจริงเอาจังกับความสนใจเรียนหนังสือของผม พ่อจึงให้ผมเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมศึกษาและได้มีโอกาสเรียนมหาวิทยาลัยออกมาเป็นแพทย์ได้ ผมลองคิดดูแล้ว ผมได้โอกาสดีๆในชีวิตเสมอมา
“พ่อแม่ให้ชีวิตที่ดีแก่ผม
ครูบาอาจารย์ให้ชีวิตผมพบแต่สิ่งดีๆ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้โอกาสที่ดีแก่ชีวิตผม
กองทุนหมอเจ้าฟ้า ทำให้โอกาสที่ดีในชีวิตของผมเป็นจริง”
พ่อแม่ให้ชีวิตที่ดีแก่ผม แม้ผมจะเกิดในครอบครัวที่ยากจนขาดแคลนทรัพย์สมบัติเงินทอง แต่ชีวิตที่เกิดมาของผมก็อบอวลอบอุ่นแวดล้อมไปด้วยความรักของพ่อแม่และญาติพี่น้องรอบข้าง มือที่หยาบกร้านของพ่อแม่จากการตรากตรำทำงานในไร่นากลับอบอุ่นนุ่มนวลยิ่งนักเมื่อพ่อแม่ยื่นมือมาโอบอุ้มโอบกอดผม ทำให้ผมมีโอกาศเรียนรู้ที่จะรักตนเอง รักผู้อื่นและสิ่งรอบข้าง
เมื่อโตขึ้น ครูบาอาจารย์ทุกท่านที่ผมได้พบในชีวิตต่างก็ทำให้ชีวิตของผมได้มีโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เพื่อเพิ่มเติมคุณค่าในตัวเองมากขึ้น
เมื่อได้มีโอกาสเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ได้ให้โอกาสที่ดีแก่ชีวิตผม ทำให้ชีวิตของลูกชาวไร่จนๆที่ด้อยโอกาส ได้โอกาสที่ดีในการปรับเปลี่ยนตนเองเป็นแพทย์คนหนึ่งของสังคม แม้จะเป็นแพทย์ที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่ในมุมเล็กๆมุมหนึ่งของสังคมไทยก็ตาม
เมื่อ 23 ปีก่อน ผมสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัย 2 แห่ง อีกแห่งหนึ่งอยู่ในกรุงเทพมหานคร แต่ผมคุ้นชินกับชีวิตต่างจังหวัดมากกว่าเมืองหลวง จึงเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผมไม่รู้ว่าถ้าผมเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานครแล้วชีวิตผมจะเป็นอย่างไร แต่ที่ผมรู้อย่างแน่นอนคือผมตัดสินใจไม่ผิดและเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตผมที่เลือกเรียนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
การสอบเข้าแพทย์ได้เป็นความดีใจอย่างยิ่งของผมและพ่อแม่ในขณะเดียวกันก็เป็นความทุกข์ใจลึกๆของผมและพ่อแม่เช่นกัน นั่นคือ ผมจะมีเงินเป็นค่าใช้จ่ายเพียงพอที่จะเรียนจบจบแพทย์หรือไม่ พ่อพยายามตัดกังวลในใจให้ผมด้วยการให้กำลังใจและบอกกับผมว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม พ่อจะพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะหาเงินมาให้ลูกเรียนจนจบ ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยหรือมีหนี้สินมากล้นเพียงใด ผมรับรู้ได้ถึงความรักและความทุกข์ของพ่อแม่ แต่มันก็ทำให้ผมเกิดพลังที่จะสู้ชีวิตและรู้จักใช้ชีวิตอย่างประหยัด พอเพียง พออยู่พอกิน
เมื่อผมได้เข้ามาเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปี 1 เพียงเดือนแรกเท่านั้น ความทุกข์ความวิตกกังวลของผมก็มลายหายไป ด้วยคณะกรรมการกองทุนหมอเจ้าฟ้า กองทุนในพระอุปถัมป์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ให้โอกาสผมได้รับทุนกองทุนหมอเจ้าฟ้าตลอดทั้ง 6 ปีการศึกษา โดยจ่ายค่าเล่าเรียนและให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนๆละ 1,200 บาท เป็นเงินจำนวนมากทีเดียวในชีวิตผม เป็นเงินที่มีคุณค่ามากที่ช่วยให้ผมเรียนจนจบออกมาเป็นแพทย์ได้ โดยที่ผมไม่ต้องรบกวนขอเงินพ่อแม่มาใช้เลย ผมใช้จ่ายอย่างประหยัดโดยไม่ให้ตนเองลำบากเกินไปและไม่ต้องขอเงินเพิ่มจากพ่อแม่เพราะผมรู้ดีว่าเงินแต่ละบาทที่พ่อแม่จะส่งมาให้ผมนั้นมาจากหยาดเหงื่อแรงกายของพ่อแม่กลางแดดร้อนเปรี้ยงในท้องไร่ท้องนา
นับแต่วันนั้น ผมก็ได้ตั้งปณิธานในใจว่า จะออกไปเป็นแพทย์ที่ทำประโยชน์ให้แก่แผ่นดินไทยตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระองค์ โดยเฉพาะช่วยเหลือคนไทยที่ด้อยโอกาสทางสังคมในพื้นที่ชนบทของไทย และอีก 19 ปีต่อมา ผมก็ได้มีโอกาสที่ดีงามในชีวิตอีกครั้งจากพระองค์ท่านเมื่อได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับพระราชทานโล่แพทย์อาสาในมูลนิธิ พอสว. ที่ทำให้ผมได้ประจักษ์ชัดถึงพระเมตตาของพระองค์ท่าน
ผมจะพยายามทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเพื่อให้สมกับนักเรียนทุนกองทุนหมอเจ้าฟ้าและทำชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แม่ช้างที่ช่วยให้ลูกช้างคนหนึ่งได้พลิกชะตาชีวิตจากคนด้อยโอกาสทางสังคมมาเป็นผู้ที่มีโอกาสในสังคมได้
สวัสดีครับคุณหมอ
แวะมาชื่นชมคุณหมอครับ