ความกลมกล่อมที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งในฝ่ายของผู้ใช้ (Blogger) และทีมงานที่จัดสร้างและดูเว็บไซต์แห่งนี้นั้นเป็นพลังที่เกิดขึ้นจาก "การจัดการความรู้ตามธรรมชาติ"
เมื่อผู้ก่อตั้งคิดและสร้าง Blog มาให้เรา (User) เล่น เราก็เล่น เล่นไปลองไป ลองผิด ลองถูก ถูกก็จำไว้ ผิดก็จำไว้ จดใส่จิตใส่ใจอันไหนดีก็ทำ อันไหนไม่ดีก็เลิกทำ
ในตัวมนุษย์ทุก ๆ คนนั้นมี "พลังแห่งการพัฒนา" อยู่ด้วยกันทุกคน
สังคมแห่งนี้เป็นผู้สร้างบ้านเพื่อให้โอกาสในการที่จะพัฒนาตนเอง
Blog เป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์จากการเขียนไดอารี่ในสมุดหรือกระดาษเล่มเล็ก ๆ ที่หลาย ๆ คนเคยเขียนตอนเป็นเด็ก จากสมุดเล่มเล็ก ๆ วันนี้ได้พัฒนาเป็นห้องสมุดที่กว้างใหญ่
ไดอารี่ชีวิตของคนแต่ละคน ได้ถูกเรียงร้อย ถ่ายทอด นำเสนอ เพื่อเป็นสื่อกลางที่จะได้พบเจอ "เพื่อน" ทางหน้าจอ
เพื่อนคนหนึ่งเขียนเพื่อ "ให้" เพื่อนอีกคนได้อ่าน เมื่อเพื่อนอีกคนได้อ่านก็แสดงความคิดเห็นตอบรับเพื่อ "ให้" กำลังใจซึ่งกันและกัน
อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ที่มีหน้าจอ แป้นพิมพ์ และหน่วยประมวลผลนี้สามารถสร้าง "มิตรภาพ" ที่โยงใยเครือข่ายของคนไทยได้อย่างไม่มีกำแพงของหน่วยงานใด ๆ มาขวางกั้น
ตัวหนังสือดำ ๆ ที่สามารถมองเห็นได้จากหน้าจอสีขาว ๆ เป็นสื่อกลางที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากคนหนึ่งไปสู่คนมากมายในสังคม
ความสุข ความทุกข์ ความเหงา ความเศร้า เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทั้งนอดีต ปัจจุบัน รวมถึงที่คาดหวังว่าจะทำในอนาคตได้ถูกปลดเปลื้องจากหัวใจบันทึกไว้ ณ ที่แห่งนี้
เรื่องราวของคนทำงานที่มักถูกมองว่าเป็น "วิชาการ" ได้ถูกนำมา "จัดการ" เพื่อให้ได้เรื่องราวที่ "กลมกล่อม"
หลาย ๆ คนมาใหม่ ๆ ก็หุงข้าวไหม้บ้าง แฉะบ้าง อ่านเอกสารทางวิชาการแล้วแข็งกระโด๊ก กระเด๊ก
วันนี้เรื่องราวทางวิชาการแบบง่าย ๆ มีหลายแบบหลากสไตล์ หรือจะเป็นการทำวิจัยที่ใคร ๆ เบือนหน้าหนี วันนี้ก็มี R2R (Research to Routine) เอาไว้พึ่งพาในการดำเนินชีวิตอย่างมี "ระเบียบวิธี" (Methodology)
การฝึกซ้อม ฝึกฝนเป็นสิ่งที่สำคัญ การที่เราสามารถทำงานวิชาการได้อย่างกลมกล่มอย่างทุกวันนี้นั้นก็เพราะมี "เวที"
เวทีนี้จึงเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ ห้องครัวใหญ่ ๆ ที่มีอุปกรณ์ครบครัน
เวทีที่มีเพื่อนคอยย้ำเตือน ให้ความรู้ ให้กำลังใจ
เวทีนี้จึงเป็นเวทีของคนใด ๆ ที่มีหัวใจที่ขับเคลื่อนไปด้วย "การจัดการความรู้..."
ที่มาจากบันทึก UsableLabs.org ความสำเร็จที่กลมกล่อม...
Plan Do Check Action เป็นสิ่งที่เราและท่านได้ทำกันทุก ๆ วันในสังคมแห่งการเรียนรู้นี้
เราไม่ต้องใช้ห้องประชุมในโรงแรมที่หรูหรา เพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานจากการหมุนวงล้อ PDCA
เราหมุนวงล้อแห่งการพัฒนาด้วย "ความพึงพอใจ" อันเป็นความสุขใจใน "การเรียนรู้"
ชีวิตที่ยังมีลมหายใจย่อมต้องอาศัยการเรียนรู้เป็นแรงขับเคลื่อนและผลักดัน
บุคคลใดอยู่เฉย ๆ ไม่เรียนรู้ก็เท่ากับเป็นบุคคลที่ตายแล้ว ไร้ค่า
หรือบุคคลใดที่งอแขน งอขา แล้วขวนขวายหามาซึ่ง "งบประมาณ" แล้วจึงเริ่มดำเนิน "การเรียนรู้" ชีวิตของบุคคลนั้นช่างดู "อดสู" นัก
ขอเพียงตาเราได้เห็นรูป หูเราได้ยินเสียง จมูกเราได้ดมกลิ่น ลิ้นเราได้ลิ้มรส กายเราได้สัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็ง และใจเราได้โลดแล่นไปในสิ่งที่มากระทบ
เราก็สามารถ "ประมวล" สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นแล้วน้อมนำมาเป็นแนวทางแห่งการ "พัฒนา" ชีวิต
ชีวิตนี้จึงต้องเป็นชีวิตที่ต้องเรียนรู้ รู้ดี รู้ชั่ว ความรู้ดีนำไปในทางดี ความรู้ชั่ว ๆ นำเราไปเกลือกกลั้วกับความทุกข์ใน "อบาย"
ธรรมชาติของคนมักลุ่มหลงและเลื่อนไหลไปในทางต่ำ
แต่เมื่อเราเรียนรู้แล้วก็เท่ากับมีทางเลือกใหม่ที่จะฝืนกระแสที่มักพาคนในสังคมไหลเลื่อนไปในทาง "อบาย" เหล่านั้น
ขอจงเรียนรู้แล้วดูธรรมชาติที่หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป
ขอจงเรียนรู้ด้วยหัวใจที่สดใส ความรู้ที่เที่ยงแท้นั้นอยู่ไม่ไกล หากเรามีจิตใจที่แกร่งจริง...