นอกจากคำศัพท์เพียงคำเดียวอาจมีความหมายอย่างเดียว มีความหมายหลายอย่าง หรือมีความหมายแคบหรือกว้างออกไปไม่แน่นอนแล้ว (ดู เอกัตถะ (Univocal) ยุคลัตถะ (Equivocal) และสมานัตถะ (Analogous) )...ถ้อยคำที่ปรุงขึ้นเป็นคำศัพท์บางก็อาจจำแนกออกไปได้อีก กล่าวคือ
สังกรกถา คือ ถ้อยคำที่มีความหมายซับซ้อน ไม่เด็ดขาดในตัวมันเอง ประกอบด้วย มโนภาพ (idea) ตั้งแต่สองมโนภาพขึ้นไป เช่น
มือถือ คือ โทรศัพท์แบบพกพา หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ ...คำว่า มือถือ นี้ จะประกอบด้วย มือ+ถือ = มือถือ
มือ เป็น คำนาม หมายถึง อวัยวะชนิดหนึ่งของร่างกาย ซึ่งทำหน้าที่ หยิบหรือจับสิ่งต่างๆ เพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง...
ถือ เป็น กิริยา ในที่นี้หมายถึง อาการที่มือหยิบจับแล้วคงไว้อย่างนั้น ไม่ปล่อยให้หลุดไป...
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า คำว่า มือ และคำว่า ถือ จะเป็นมโนภาพที่ปรากฏอยู่ภายในใจ ซึ่งมีความแตกต่างกัน... แต่เมื่อนำทั้งสองคำนี้ผูกขึ้นเป็นคำใหม่ว่า มือถือ ก็จะได้มโนภาพใหม่เกิดขึ้น ซึ่งมโนภาพใหม่นี้จะมีความคาบเกี่ยวกันอยู่ระหว่าง มือ และ ถือ... ดังนั้น มือถือ จึงเป็น สังกรกถา
นอกจากนั้นยังมีถ้อยคำอื่นมากมายที่เป็นสังกรกถา เช่น ชายทะเล ส้มแขก นางงาม ใกล้ชิด ....
........
อสังกรกถา คือ ถ้อยคำเชิงเดียว ซึ่งมีความหมายเด็ดขาดในตัวมันเอง ประกอบด้วยมโนภาพเดียว เช่น วัว เขียว หิว กระหาย ฉลาด ....
....
สำหรับภาษาไทย... อสังกรกถามักจะเป็นคำโดด มีพยางค์เดียวตามเอกลักษณ์ของภาษาไทย เช่น กิน นอน สวย สูง หัว ผี...ส่วนสังกรกถาจะเป็นคำประสม ประกอบด้วยสองพยางค์ขึ้นไป เช่น ควันดำ นิดหน่อย ใกล้ชิด...
....
อนึ่ง นอกจากนั้นในตรรกศาสตร์ก็ยังมีการศึกษาเรื่องคำศัพท์หรือถ้อยคำที่มีความหมายกำกวมหรือคลุมเครือ และการใช้คำศัพท์หรือถ้อยคำเหล่านี้เพื่อหลอกล่อประการอื่นๆ อีกด้วย...ประเด็นเหล่านี้อยู่เรื่องทุตรรกบท (Fallacy) ซึ่งผู้เขียนค่อยยกเรื่องนี้มาเล่าโดยเฉพาะอีกครั้ง)
ไม่มีความเห็น