ค่ำวันนั้น ผมสนทนาอยู่กับคุณเอก - จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ผมรับฟังเรื่องราวบอกเล่าจากปากคุณเอกที่มีนัยเชิงหารือปะปนมาด้วย
คุณเอกผู้นั้นเล่าให้ฟังว่า เขาได้รับเชิญไปหารือร่วมกับหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งมีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ซึ่งหน่วยงานที่ว่านี้ ต้องการจะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการความรู้ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เปิดพลัง (Open will) "คุย คิด คลิก คลำ" คน พอช.)
ในหน่วยงานนี้มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากที่เป็นที่ทำหน้าที่ประสานงานอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ จะเรียกว่าเป็น “นักพัฒนา” ก็ไม่ผิดนัก
เรื่องของเรื่องก็คือ “นักพัฒนา” เหล่านี้ มีประสบการณ์ในการทำงานภาคสนามมามาก พบปะเรื่องราวต่าง ๆ หลากหลาย มีบทเรียนที่เกิดจากการทำงานมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่ทรงคุณค่ามากมาย แต่ปัญหาคือ ทั้งเรื่องราวและบทเรียนเหล่านั้นฝังแน่นอยู่ในตัวคนแต่ละคน การแชร์แลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้นั้นก็ทำได้ค่อนข้างจำกัด ที่สำคัญมิได้ถูกนำไปเผยแพร่ขยายผลอย่างกว้างขวาง
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน นี้ กล่าวว่า ผู้ปฏิบัติงานเหล่านี้มีข้อจำกัดด้านการเขียน ทำงานเยอะจริงแต่ไม่เขียน ซึ่งผมเข้าใจว่าข้อจำกัดนั้นมีทั้งเขียนไม่ได้และไม่อยากเขียน
ผมนั่งฟังเรื่องราวพร้อมกับนั่งทบทวนเองไปพร้อมกัน แล้วก็แลกเปลี่ยนความเห็นออกไปว่า
ผมเองก็ไม่ต่างไปจากสภาพที่กล่าวมาเมื่อสมัยยังเป็นนักพัฒนาใหม่ ๆ ทำงานเยอะแยะไปหมด พูด (เรื่องตัวเอง) ได้เป็นวรรคเป็นเวร แต่ให้เขียน เขียนไม่ได้ เขียนไม่ออก
สิ่งที่จำเป็นต้องเขียนคือรายงานผลการดำเนินงานที่ต้องรายงานแหล่งทุน ก็เขียนแบบแห้งแล้ง ไร้ชีวิตชีวา และโดยมากก็ลอกแบบที่มีอีกที การเขียนรายงานต่าง ๆ กว่าจะคิดกว่าจะเขียนได้สักบรรดทัดสองบรรทัด นั่งจิ้มแล้วจิ้มอีก พิมพ์ไปลบไป โยกขึ้น โยกลง ใช้เวลานานแสนนาน เมื่อเขียนยากและใช้ความพยายามสูงก็พาลไม่อยากเขียน เพราะเสียเวลา เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
คุณสมบัติประการหนึ่งของนักพัฒนาไม่ว่ารุ่นพี่ รุ่นผม และรุ่นน้อง คือ ผีเจาะปากมาพูดครับ ยุคนั้นมีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันถี่ยิบ การพูดคุยทั้งแลกเปลี่ยนและวิวาทะทำได้กันเป็นวัน ๆ ไม่รู้หาเรื่องจากไหนมาพูดคุยกัน แต่อย่าให้เขียนนะครับ
เลยจากวันนั้นมาถึงวันนี้ อาจเรียกได้ว่าผมก้าวพ้นข้อจำกัดนั้นมาแล้ว วันนี้พอจะเขียนหนังสือได้บ้างแม้ว่าจะห่างไกลจากคำว่ามืออาชีพ แต่การลงมือเขียนก็มิใช่เรื่องหนักหนาสาหัสสากรรจ์เหมือนเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว
ผมถามตัวเองดัง ๆ ว่าตัวเองข้ามพ้นข้อจำกัดนั้นมาได้อย่างไร มิทันไรผมก็เอ่ยปากอาสาถอดบทเรียนตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจะเขียนบันทึกว่าด้วยบทเรียนนั้น ทั้งที่ยังมิทันรู้ว่าคุณเอกและหน่วยงานที่ว่านั้นจะต้องการหรือไม่
เรื่องราวต่อไปนี้ ผมมิตั้งใจจะอวดอ้างสรรพคุณตัวเองใด ๆ ทั้งสิ้น ผมตระหนักดีว่าขีดความสามารถของผมอยู่ในระหว่างการเริ่มต้นที่จะเดินหน้าพัฒนาต่อไป ผมเองยังแสวงหาแนวที่เหมาะสมและเป็นตัวของตัวเอง ที่สำคัญยังมิอาจเอ่ยอ้างได้เลยว่างานเขียนของผมมีคุณภาพ
สิ่งที่ผมตั้งใจอยากแบ่งปันคือ บทเรียนการก้าวผ่านข้อจำกัดนั้นมา ผมผ่านมาได้อย่างไร จากคนที่อาจเรียกว่าไม่มีพื้นฐาน ไม่มีปัจจัยเสริมใด ๆ ที่จะเดินทางมาจนถึงจุดนี้ได้ ซึ่งผมเชื่อว่าอาจจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะผู้คนที่มีกำพืดและเส้นทางเดินแบบเดียวกับผม
ทั้งหมดนี้เป็นที่มาของเรื่องราวที่ผมจะแบ่งปันต่อไปนี้ครับ
ถอดบทเรียนตัวเองเรื่องการเขียน : (๒) ขอเล่าเรื่องตัวเองสักหน่อย
ถอดบทเรียนตัวเองเรื่องการเขียน : (๓) การอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญ
ถอดบทเรียนตัวเองเรื่องการเขียน : (๔) ก้าวแรกและก้าวต่อของการฝึกเขียน
ถอดบทเรียนตัวเองเรื่องการเขียน : (๕) เวทีชื่นชมผลงาน
ถอดบทเรียนตัวเองเรื่องการเขียน : (๖) การพัฒนาแบบก้าวกระโดดใน G2K
ถอดบทเรียนตัวเองเรื่องการเขียน : (๗) การเขียนแนวทางแบบผมถอดบทเรียนตัวเองเรื่องการเขียน : (๘) ส่งท้ายบทเรียน
ถอดกำพืดตัวเองออกแล้วก็สบายเลยซิทีนี้
สวัสดีครับ
เยี่ยมเลยครับสำหรับบันทึกปฐมบท...
ขอตามอ่านก่อนนะครับ
นมัสการพระอาจารย์ - พระมหาแล ขำสุข(อาสโย) [IP: 125.25.196.45]
ถอดกำพืดตัวเองออกแล้วก็สบายเลยซิทีนี้
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เข้ามาเยี่ยมครับ
จริง ๆ ไม่ถึงกับถอนครับพระอาจารย์ ผมยังรำลึกอยู่เสมอ ๆ ว่ากำพืดของตัวเองคืออะไร มาจากไหนครับ
ที่แสดงให้เห็นเพราะอยากให้กำลังใจคนที่มีพื้นฐานเดียวหรืออาจจะดีกว่าผมให้ฮึดสู้ครับ
สวัสดีครับ คุณเอก - จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
สวัสดีครับ
เยี่ยมเลยครับสำหรับบันทึกปฐมบท...
ขอตามอ่านก่อนนะครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับการจุดประกายให้เกิดงานเขียนชุดนี้ครับ
เป็นการถอดบทเรียนตัวเอง
ถือเป็นการพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกขั้นนึงครับ
นี่แหละครับความมหัศจรรย์ของ G2K
พี่ ...สุดยอดเลยค่ะ
ขอบคุณ ค่ะ
นึกว่า สรพ. ซะอีก ..อิอิ
สวัสดี น้องพรทั้งหล้า ♥paula ♥ที่ปรึกษาตัวน้อย✿
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม
บันทึกชุดนี้ต้ังใจเขียนให้คุณเอกนำไปเป็น Input เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเขียนงานของนักพัฒนาครับ
น้อง...วันนี้เป็นไงมั่ง...
ยังเหงาอยู่ไหม
เอหรือว่ามึนและงงแทน
ฮิ ฮิ...
พี่ บางบันทึกไม่เปิดหรอคะ ไม่ได้อ่านเลยค่ะ ก๊อกๆๆๆ