2 วันนี้ ไปเข้าก๊วน Long term care ของ อาจารย์หมอนู (อิอิ ศัพท์ใหม่ ได้จากที่ประชุม น่ารักมาก) และคณะ ทีมสูงอายุ สำนักส่งเสริมสุขภาพ และทีมสูงอายุ ของศูนย์อนามัยที่ 1-12 มาลับสมอง ลองปัญญา นำเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง ก็คือ การดำเนินงานของศูนย์อนามัย ในเรื่อง Long Term Care ซึ่งก็คือ การดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน กิจกรรมที่ศูนย์ทำกับจังหวัดนำร่อง 12 จังหวัด และรับฟัง โครงการเป็นกุรุส จากส่วนกลาง ซึ่งก็ประทับใจกันไปตามๆ กันละค่ะ แบบว่า ลงเรือลำเดียวกันแล้วนะ แถมไม่มีทางลงด้วย
... อิอิ ไม่ใช่เช่นนั้น พูดเกินไป กลุ่มนี้กระชับมิตรค่ะ คุยกันด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง หนุกหนาน ลปรร. ร่วมกัน แบบไม่มีวันเบื่อละค่ะ เพราะว่า มีหลายรสชาติ ... จริงๆ
นำเรื่องด้วย โครงการของสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย ปี 2552 ดีกว่า (... แบบว่า ประทับใจ งานแบบจ๊าบๆ ทั้งน้านเลย) นั่นก็คือ
และเรื่องเล่าอื่นๆ อีกมากมายจะตามมา
มัทสังเกตเห็นคนพูดถึง long term care (LTC) สับสนกับ home health care มาหลายทีแล้วค่ะ
LTC แปลว่าการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวนั้นน่าจะถูกต้องแล้ว ซึ่ง LTC มันมี spectrum ของมันที่รวมหลายๆ setting เข้าด้วยกัน home health care เป็นเพียง subset ย่อย
ใหญ่ๆแล้วจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ
1. ที่บ้าน (home)
2. ในชุมชน (in the community) เช่น ที่ adult day care, ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ, rehabilitation centre/ward ใน รพ.
3. ที่สถาน/บ้านพักผู้สูงอายุ/รพ.ระยะยาว (in residential facilities) เช่นที่ assisted living residence, transitional units, nursing homes, extended care wards, respite/hospice care facilities ไปจนถึง palliative care units
โดยที่มันจะต่อเชื่อมโยงกันหมด โดยผู้ป้วย 1 คนจะมี case manager ที่คอยดูแลไม่ว่าจะได้รับการดูแลที่ไหน จะเริ่ม LTC ก็ตอนที่ต้องได้รับการประเมิน Activity of Daily Living หรือ IADL
วันนี้เท่านี้ก่อนนะคะ มีคนมาซ่อมคอม!
ไปดูงานที่ญึ่ปุ่นมาหลายปี ติดตามเรื่อง LTC พบว่า government ทุกฝ่ายเอาใจใส่ ตอนนี้ merg เข้ากับระบบประกันสุขภาพเรียบร้อย ไป หลายปี เรียกว่า Long term care insurance
เขาแบ่งผู้สูงอายุเป็นหลายระดับ โยใช้ ADL เป็นฐานแบ่ง แล้วกำหนดการดูแล ในแต่ละระดับ คล้าย ๆ ที่กรมอนามัยประกาศไว้ แต่เด็ดสุด เขาผนวกเข้าไปใน national insurance ไม่ใช่ได้ทุกอย่าง มี maximum standard care อยากได้เพิ่ม และคุณภาพดี ต่องจ่ายเอง ไม่งั้นรัฐบาลเจ๊ง ทำไปหลายปี จนมาพบปัญหาขาดผู้ดูแล เพราะคนญึ่ปุ่นไม่สนใจ JTEPA เลยให้เงินหลายสำนัก หลายสถาบัน ของไทย มาผลิตผู้ดูแลส่งออกไปญึ่ปุ่น..