จิตอาสากลางไฟใต้ : ความงามที่มีอยู่ในหัวใจมนุษย์


ความสุขที่แท้จริง คือ สุขที่เกิดจากใจที่บริสุทธิ์ และสุขที่ง่ายที่สุดคือสุขจากการเป็นผู้ให้ หากเราเห็นผู้อื่นมีความสุขและเราได้คำตอบกับตัวเองว่า นั่นหละเป็นความสุขของเราด้วย ถือว่าเราได้ผ่านการเจียรนัยจิตใจให้วิวัฒน์ผ่องแผ้ว ยกระดับจิตวิญญาณไปสู่ความเปี่ยมสุข จิตตื่นรู้(open mind)เกิดพลังการเรียนรู้และสร้างสรรค์โลก อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ย้อนกลับในวันที่ประชุมพูดคุยถึงพื้นที่การทำงานที่แผนพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงศ์ (มสส.) เรา (บรรดาวิทยากรกระบวนการ) ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในแวดวงคนทำงานทั้ง กลุ่มวิทยากรที่มาจากกรมอนามัย,จากโรงพยาบาลบ้านตาก,และนักวิชาการที่เราพบเห็นผลงานของท่านบ่อยครั้ง พร้อมกับกลุ่มของผมที่เป็นวิทยากรกระบวนการรุ่นใหม่ๆ ที่ได้รับโอกาสเข้ามาเรียนรู้ในกระบวนการขับเคลื่อนในแผนพัฒนาจิตเพื่อสุขภาวะ ที่มองภาพของระบบสุขภาพที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ เป็นคานงัดที่ดีของสังคม เชื่อว่าหากเราพัฒนาระบบตรงนี้ สังคมน่าจะเปลี่ยนแปลงได้โดยการมีสุขด้วยปัญญาและความดี

ในวันนั้นเราพูดคุยกันเกี่ยวกับพื้นที่การทำงานที่ มีด้วยกัน ๔ ภาค (ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ผมและทีมงานเลือกภาคใต้เหตุเพราะว่า ผมเองมีงานวิจัยที่ต้องลงไปทำที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว และในส่วนตัวคิดว่า เป็นโจทย์ที่ท้าทายอย่างมาก หากเราต้องไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้คนที่ทำงานท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น จนเราคุ้นชินกับข่าวสารที่ทารุณโสตเหล่านั้น

พวกเราคนไทยที่อยู่ต่างถิ่น ได้รับรู้ผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง ถึงความรุนแรงท่ามกลางไฟใต้ แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่า คนทำงานท่ามกลางวิกฤตแบบนั้น  พวกเขาคิดอะไร...ข่าวสารดีๆต้องซื้อเพื่อให้สื่อสารสาธารณะ แต่ข่าวร้ายกลับสื่อสารได้ง่ายๆฟรีๆ ตามวิถีธุรกิจสื่อที่รับใช้ทุนนิยม

เราจะมีโอกาสได้รับรู้สิ่งดีๆที่มีอยู่ท่ามกลางไฟใต้ได้บ้างไหม?

ระยะเวลา ๖ เดือนจากเวทีที่ ๑ ถึงเวทีที่๓ ที่ผมและทีมงานวิทยากรกระบวนพร้อมทีมสื่อประกอบไปด้วยนักเขียนสารคดี ,สื่อมวลชนอื่นๆ ได้เข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ภาคใต้ เราจัดเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขึ้นในพื้นที่  เพื่อไปค้นหา การพัฒนาสุขภาวะทางวิญญาณ หรือ สุขภาวะทางปัญญา นั่นคือ Spiritual Health Development โดยใช้ กระบวนการจัดการความรู้ (knowledge management) ที่เราต่างก็เชื่อว่าน่าจะเป็นกระบวนการที่สามารถสร้างความรู้ที่สอดคล้องทั้งในคนและบริบทพื้นที่

กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มาจากโรงพยาบาลชุมชนทั้งหมด ๖ แห่งด้วยกัน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นโรงพยาบาลชุมชนที่ประสบความสำเร็จในการบริการด้วย Humanized health care คือ จาก จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหนองจิก และโรงพยาบาลกระพ้อ , โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยะลา,จ.สงขลา มีโรงพยาบาลเทพาและโรงพยาบาลนาหม่อม จาก จ.สตูล ได้แก่โรงพยาบาลละงู

Hhcnew

จากโรงพยาบาลที่เป็น “องค์กร”  มาถึง “ตัวบุคคล” ที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ทุกคนที่ถูกคัดเลือกเข้ามาร่วมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งหมด ๑๗ คน จาก ๖ โรงพยาบาลข้างต้น ...พวกเขามีเรื่องราวที่ดี เป็น “จิตอาสา” ที่เป็นสเมือนแสงไฟที่ลุกสว่างท่ามกลางความมืดสลัวของพายุแรงที่ปลายด้ามขวาน  

ด้วยวิชาชีพและเมล็ดพันธ์ที่ดีของพวกเขา สิ่งดีๆที่ร้อยเรื่องผ่านเรื่องเล่า เป็นความจริงที่ออกมาจากคุณค่าของมนุษย์ที่รักเพื่อนมนุษย์ด้วยกันโดยไม่มีเงื่อนไข...

การก้าวผ่านเรื่องราววิกฤต การก้าวผ่านบาดแผลของชีวิต และผลลัพธ์ในการทำเพื่อผู้อื่น เพื่อสังคม ผ่านการบริการทางการแพทย์ที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ในมุมมองของหลายคนว่า พวกเขาอยู่ได้อย่างไรท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงนั้น มีเหตุผลอะไร ?และการที่พวกเขาทุ่มเทชีวิตกายใจเพื่อผู้อื่นอย่างไม่กลัวลำบาก ปฏิบัติต่อผู้ป่วยเสมือนญาติ เป็นทุกข์ เป็นร้อนเมื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเจ็บปวด...จิตใจที่กล้าแกร่งสวยงาม เขาหล่อหลอมมาจากสิ่งใด?

Ssf009

กรอบการทำงานใน ๓ เวที (click ที่ภาพเพื่อชมภาพใหญ่)

โจททย์ที่ถูกตั้งไว้ เป็นเสมือนประเด็นนำที่เราต้องการทราบคำตอบ ผ่านคำถามมากมาย

·         แนวคิดและวิธีการทำงานที่ทำให้เกิดการพัฒนาจิตปัญญา

·         กิจกรรมที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาจิต

·         การจัดองค์กรที่เอื้อต่อการพัฒนาจิต

·         ระดับการพัฒนาจิตปัญญา รวมถึงประเมินและตัวชี้วัด

ดูเหมือนโจทย์ที่เราตั้งไว้จะเข้มข้นเหมือนถอดเป็นการถอดบทเรียนชีวิตที่ละเอียดทุกแง่มุมทั้งเชิงกว้างและลึก ข้อมูลเหล่านี้เราตั้งใจว่าจะใช้กระบวนการ KM ในเวทีทั้งสามเวทีที่ออกแบบมาอย่างปราณีต ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ ภายใต้บรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ (Optimizing Learning environment)เราให้ความสำคัญกับ พื้นที่ อารมณ์ ความรู้สึก และความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมเวทีฯมากที่สุด(optimal) เมื่อทุกคนอยู่ในท่ามกลางภาวะที่เป็นสุข ผ่อนคลาย เราเชื่อว่า ณ ตรงนั้น เป็นพื้นที่-เวลาที่เหมาะสมในการเปิดใจพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเรื่องราวของตัวเอง ผ่านการเล่าเรื่อง(Storytelling) พร้อมกับการนิ่งฟังอย่างลึก(deep listening) ของผู้เข้าร่วมเวที ร่วมชื่นชมและเรียนรู้ตัวเอง ไปกับกระบวนการเรียนรู้ปราณีต ที่เราจัดขึ้น...

Dscf0759

เปิดเวทีแรก...ที่กลางเมืองหาดใหญ่

บรรยากาศในเวที น้ำตาแห่งความปีติท่วมท้น ในขณะที่เรื่องราวที่เล่าขานก็พร่างพรู ชีวิตบางครั้งก็เหนือความคาดหมายเป็นรูปแบบชีวิตที่ซับซ้อน (Complex life-form) บางครั้งก็เหมือนนิยาย แต่ทั้งหมดนี่คือชีวิตจริง...จากเรื่องของตัวเอง ไปถึงเรื่องราวบริบทการทำงานผ่านวิชาชีพที่ต้องคอยบริบาลผู้เจ็บไข้ได้ป่วยที่ระทมทุกข์ทั้งกายและใจ กระบวนการเยียวยาผู้ป่วย พร้อมๆกับเยียวยาจิตใจผู้รักษาไปด้วย... “ชีวิตสอนชีวิต”  ที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย (Meaningful)บางครั้งชีวิตก็เล่นตลก จนต้องรำพึงกับฟ้า ว่า “จะทดสอบอะไรกันหนักหนา” พร้อมกับเสียงสะอื้นร่ำไห้ของพยาบาลสาวโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา  บรรยากาศในเวทีเงียบสงบ เมื่อทุกคนต่างใจจดจ่อกับเรื่องเล่าจากปากของผู้เข้าร่วมกิจกรรม หลายคราที่ผู้เล่าพยายามเค้นเสียงพูดที่เล่าปนกับเสียงสะอื้น สั่นคลอ ในเรื่องจริงที่เขาและเธอเผชิญ เป็นเรื่องจริงอีกมุมที่เขาได้ข้ามผ่านมาแล้ว 

Hhcnew1

บ่อยครั้งที่ผมในฐานะวิทยากรกระบวนการค่อยๆกลืนก้อนแข็งที่จุกในลำคอพร้อมกับสะอื้นร่ำไห้ในใจเงียบๆเมื่อรับรู้เรื่องราวเหล่านั้น...ที่พวกเขาต่างเรียกอดีตนั้นเป็นเสมือน ปุ๋ยให้เมล็ดพันธุ์ดีๆได้เจริญงอกงามยิ่งขึ้นไป 

ในเวทีแรกเราได้ข้อมูลผ่านเรื่องเล่าที่มากมาย ในเวลาสองวัน ส่วนหนึ่งถือว่าเป็นบริบทชีวิต ที่พวกเขาได้ก้าวผ่าน อย่างไรบ้าง  เรื่องราวแบบนั้นช่วยให้เขาเติบโตทางจิตวิญญาณได้อย่างไร และเรื่องราวเหล่านั้นเป็นต้นทุนของชีวิตและของการบริการทางการแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์อย่างไร ...เมื่ออ่านจากเรื่องราวที่สรุปได้จากเวทีแรก เราก็จะได้เห็นพัฒนาการชีวิตอันประกอบด้วยวิธิคิด มุมมอง และการปฏิบัติ ถือว่าโดยรวมของเวที เป็นการค้นหาตัวเอง(Self searching) สิ่งที่ได้เพิ่มคือ ได้รับรู้เรื่องราวผ่านประสบการณ์(experiencing)ของผู้อื่น ช่วยขัดเกลาจิตตัวเองอย่างอ่อนโยน...เช่นเดียวกับวิทยากรที่อิ่มเอมกับเรื่องราวสิ่งดีๆที่ได้สัมผัส และเรียนรู้ไปพร้อมๆกับผู้เข้าร่วมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้

 Dscf0668

จากเวทีที่ ๑ ต่อด้วยเวทีที่ ๒  

เราออกแบบเวทีที่สองเป็น “การนำเสนอการทำงานจิตอาสาขององค์กร”  กิจกรรมที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาจิตปัญญา รวมไปถึงการจัดองค์กรที่เอื้อต่อการพัฒนาจิต...

Dscf0590

ความน่าสนใจของเวทีที่ ๒ อยู่ที่ วิธีคิดของผู้บริหาร บวกกับความผูกพันรักองค์กรของคนทำงานในองค์กร เราจะเห็นการร่วมคิด ร่วมทำให้ องค์กรที่เป็นเสมือนบ้านของตัวเอง อบอุ่น มีความสุขได้อย่างไร ...วิธีคิดที่เริ่มจากองค์กร สู่ชุมชน  การทำงานจิตอาสาเป็นการทำงานด้วยใจที่เป็นผู้ให้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของโรงพยาบาลในทุกปัจจัย

ผ่านมาถึงเวทีที่ ๓  เราให้โจทย์ให้ทุกคนช่วยคิด

จัดให้มีการนำเสนอภาพกิจกรรมและถ่ายทอดเรื่องราวของการทำงานจริงในโรงพยาบาลผ่านการนำเสนอไม่จำกัดรูปแบบ  แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ...เวทีนี้เราได้เห็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างตั้งใจของผู้เข้าร่วมเวที กลเม็ดเคล็ดลับที่เกิดจากการทำงานในบริบทเฉพาะถูกนำมาถ่ายทอด ...กระบวนการเรียนรู้ในเวทีนี้เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ การซึมซับเรื่องราวการทำงานขององค์กร ทำให้สิ่งดีๆของแต่ละแห่งถูกนำมาประมวลสังเคราะห์ขึ้นในเวทีอย่างไม่รู้ตัว ...หลายคนให้คำมั่นว่ากลับไป เขาจะไปทำอะไร และเขาได้อะไรมากมายจากการที่มาร่วมเรียนรู้ในแต่ละครั้ง ตามโจทย์ที่ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต

เรื่องราวทั้งหมด ถูกเรียงร้อยและสังเคราะห์ ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Transformation) ใน ๓ ระดับ คือการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานระดับบุคคล (Personal Transformation) การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานระดับองค์กร (Organization Transformation) รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงระดับสังคม (Social Transformation)  ที่ชัดเจนและสามารถวิเคราะห์ให้เห็นได้เป็นระดับ บุคคลและองค์กร ส่วนในระดับที่ ๓ ในระดับสังคมนั้น อาจเป็นผลผลัพธ์ในการขับเคลื่อนในอนาคตต่อไป

กระบวนการทั้ง ๓ เวทีได้สิ้นสุดลงแล้ว...

แต่นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น  กระบวนการต่อไปเป็นการสื่อสารสาธารณะ  เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาจิต เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย มีการเรียนรู้ร่วมกัน สร้างปัญญาร่วม(Collective Wisdom)ให้เป็นพลังแห่งการพัฒนาที่มีจิตใจสูง ให้เกิดความสุขการสร้างสรรค์  เป็นโครงสร้างที่มีจิตวิญญาณ และมีพลังจะเยียวยาโลกที่กำลังเจ็บป่วย

จากบทบาทการทำงานของผมในฐานะ วิทยากรกระบวนการ  ในแต่ละครั้งในการจัดเวทีเรียนรู้ ผมครุ่นคิดถอดบทเรียนได้คำตอบกับตัวเองหลายเรื่อง เมื่อทบทวนตัวเอง จากเรื่องราวชีวิตที่หลากหลายที่ผ่านเข้ามาให้ผมได้ เรียนรู้ ด้วยใจที่ใคร่ครวญ ความสุขที่แท้จริง คือ สุขที่เกิดจากใจที่บริสุทธิ์ และสุขที่ง่ายที่สุดคือสุขจากการเป็นผู้ให้ หากเราเห็นผู้อื่นมีความสุขและเราได้คำตอบกับตัวเองว่า นั่นหละเป็นความสุขของเราด้วย  ถือว่าเราได้ผ่านการเจียรนัยจิตใจให้วิวัฒน์ผ่องแผ้ว ยกระดับจิตวิญญาณไปสู่ความเปี่ยมสุข จิตตื่นรู้(open mind)เกิดพลังการเรียนรู้และสร้างสรรค์โลก อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

Dscf0775 

 ----------------------------------

 Teach this triple to all : A generous heart, kind speech, and a life of service and compassion are the thing which renew humanity.”

“คำสอนอันเป็นความจริง แท้หรือสัจจะ ประการที่ครอบคลุมทั้งหมด คือหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, มธุรสวาจาและให้ความช่วยเหลือและเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ทรมานของชีวิตผู้อื่นนั่นคือสิ่งที่ทำให้หัวใจของความเป็นมนุษย์ สร้างใหม่ขึ้นมาได้”

พระพุทธเจ้า


ผู้อยู่เบื้องหลังความงดงามของการถอดบทเรียนการแพทย์ที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์

ขอบคุณ มูลนิธิสดศรี - สฤษดิ์วงศ์ (มสส.) และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ  ขอบคุณทีมงานวิทยากร อ.ธันยพร วณิชฤทธา,คุณสร้อยฟ้า เสริฐแก้ว

ขอบคุณ จิตอาสา ทั้ง ๑๗ ท่าน จากโรงพยาบาลชุมชนทั้ง ๖ แห่ง

ขอบคุณ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช,นพ.สมศักดิ์ ชุนหรัศมิ์,นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์,นพ.ดร.สกล สิงหะ และ นพ.เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี ผู้จุดประกายเติมเต็มพลังทางวิชาการ กำลังใจและจิตวิญญาณแห่งวิชาชีพ

ขอบคุณ ผู้ประสานงาน คุณสมหญิง สายธนู พร้อมด้วยคณะทีมงานเจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน

 

 


 

จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

๒๐ ต.ค.๕๑

นนทบุรี

หมายเลขบันทึก: 217870เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2008 21:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (43)

สวัสดีค่ะ ขอชื่นชมค่ะ เมื่อหลายปีที่ผ่านได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็นวิทยากรกระบวนการในการทำงานชุมชน ได้เข้าใจคำว่า "จิตอาสา"ค่ะ แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนหน้าที่รับผิดชอบแต่ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นวิทยากรกระบวนการอยู่บ้างค่ะ

สวัสดีค่ะคุณไข่นุ้ยแห่งปาย :)

* เป็นกำลังใจให้ ผู้มีจิตอาสา

* ขอบคุณสำหรับ ความงามแห่งใจ

* เช่นเคย ชื่นชมสำหรับความเป็นมนุษย์

ปลอดภัยทุกเส้นทาง นะคะ

Teach this triple to all : A generous heart, kind speech, and a life of service and compassion are the thing which renew humanity.”

“คำสอนอันเป็นความจริง แท้หรือสัจจะ ๓ ประการที่ครอบคลุมทั้งหมด คือหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, มธุรสวาจาและให้ความช่วยเหลือและเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ทรมานของชีวิตผู้อื่นนั่นคือสิ่งที่ทำให้หัวใจของความเป็นมนุษย์ สร้างขึ้นมาได้”

นี่ล่ะครับ อมตสัจจา

ขอบคุณครับ พี่เอกที่นำเรื่องดีดีมาให้อ่าน

สบายดีนะครับ ท่านพี่

ตามมาอ่านคะ ถุกใจมากคะ

"คำสอนอันเป็นความจริง แท้หรือสัจจะ ๓ ประการที่ครอบคลุมทั้งหมด คือหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, มธุรสวาจาและให้ความช่วยเหลือและเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ทรมานของชีวิตผู้อื่นนั่นคือสิ่งที่ทำให้หัวใจของความเป็นมนุษย์ สร้างขึ้นมาได้”

ถ้า "การศึกษา" ยกจิตใจของ "คน" ให้สูงขึ้น คงจะดีไม่น้อยนะครับ

ขอบคุณครับ คุณเอก :)

สวัสดีครับ ทุกท่านครับ

บันทึกนี้เป็นเสมือนบันทึก AAR. (After action Review)ของผมหลังจากที่เดินทางกลับมาขากกระบี่  ก่อนที่เราจะประชุมเพื่อถอดบทเรียนวันที่ ๒๔ ต.ค. นี้ที่ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ

ซึ่งเราถือว่าเสร็จสิ้นการเปิดเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ HHC. ทั้ง ๓ เวทีแล้ว ข้อมูลทั้งหมดที่ได้่ เรานำมาเขียนเป็น Fact Sheet ประมวลสังเคราะห์ตามกระบวนการ เพื่อนำเสนอผลงานทั้งหมด และส่วนหนึ่งนำเผยแพร่สู่สาธารณะ ในรูปแบบหนังสือ สารคดี และสื่อมัลติ ต่างๆ

ในส่วนตัวรู้สึกว่าโชคดี เหมือน "ธรรมะจัดสรร" ที่ได้มารับงานนี้ในฐานะ Facilitator การทำงานที่ละเอียดจำเป็นต้องใจละเอียด ต้องจับจิตด้วยใจ ถ่ายทอดออกมา เชื่อมโยงความรู้สึกผู้เข้าร่วมเวทีให้บรรยากาศมีความสุข และเกิดกระบวนการเรียนรู้มากที่สุด

งานนี้เป็นงานท้าทายชิ้นหนึ่งในชีวีต เพราะต้องเรียนรู้ การพัฒนาจิตที่ละเอียดอ่อน เรียนรู้การก้าวข้ามผ่านเรื่องราวของแต่ละคน เป็นการพัฒนาทางจิต ที่เกิดจาก "ชีวิต สอน ชีวิต"

ขอบพระคุณ พี่ เพื่อน วิทยากรกระบวนการทุกภาค (ภาคกลาง ภาค เหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ที่เราทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด

งานชิ้นนี้เหมือนการทำงานแบบนำร่อง สิ่งที่เราทุ่ทเทลงไปไม่มีถูกผิด แต่เกิดจากใจที่เชื่อมั่น ยืดหยุ่น พร้อมกับความเชื่อมั่นในความดีจากเมล็ดพันธุ์ที่ดี

เมื่อชีวิตผมเดินมาถึง จุดนี้ ...และผมมีโอกาสอันสำคัญที่ได้เรียนรู้เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่นี้...ถือว่าเป็นกุศลนำพา..และธรรมะจัดสรรครับ

ขอบคุณครับ

 

 

จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

พี่สุนันทา ครับ

ขอบคุณครับที่พี่มาให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นเป็นคนแรก ยินดีอย่างยิ่งนะครับสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในโอกาสต่อไป

เรื่องราว "จิตอาสา"ที่พี่มี นำมาแบ่งปันเขียนบันทึกบ้างนะครับ เรื่องราวๆดีอยากรับรู้ครับ

ส่วนการเป็นวิทยากรกระบวนการนั้น ผมได้หารือกับพี่ น้อง หลายท่านที่อยู่ในแวดวงคนทำงานที่เป็น "คุณอำนวย" ว่า ในอนาคตเราน่าจะมีการรวมตัวกันเพื่อ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ พัฒนาตนเอง พัฒนาสังคมไปด้วย

หากโอกาสแบบนั้นมีจริง ชวนพี่ร่วม Show และ Share ครับผม

ขอบคุณมากครับ

Dscf0725

ขอบคุณและยินดีต้อนรับคุณอนุรัตน์ หรือ เอก ครับ

...ร่วมกันนำเสนอสิ่งที่ดีๆเพื่อจรรโลงสังคมไปสู่สิ่งที่ดีงามนะครับ คุณเอกเองก็มีเรื่องราว เรื่องเล่ามากมาย ลองนั่งเขียนออกมาแลกเปลี่ยนกันนะครับ..

ที่นี่มีทั้งความรู้และมิตรภาพครับ

ขอบคุณครับ คุณ Poo

ไปทำงานครั้งนี้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะปอดะ - ไร่เลย์ ด้วย สวยมากๆครับ

เห็นทะเล ก็คิดถึงคุณปูสายอันดามันเลยครับ

เอกคะ ขอบคุณ อ่านแล้วนึกอะไรได้หลายอย่างค่ะ

สวัสดีครับ น้องเอ๊ะคนพลัดถิ่น

ในวันที่ ๒๔ ต.ค.ที่จะถึงนี้ ผมและทีมงานจะมีการ AAR. และประชุมระดมสมองเกี่ยวข้องกับประเด็นที่เขียนนี้ครับ เลยถือโอกาสถอดบทเรียนเขียนออกมาเป็นบันทึกก่อน

ท้ายสุดขอยก อมตธรรมของพระพุทธเจ้า มาประกอบบันทึกให้เห็นความสอดคล้องเชื่อมโยงของความดีงามที่เกิดจากการรักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ขอบคุณครับน้องเอ๊ะ..    :)

 

  • สวัสดีครับ
  • ร่วมมือร่วมใจกันครับ
  • สามัคคี รักกันคือสิ่งที่คนไทยทุกเหล่าเหล่าควรมีในจิตสำนึกมากที่สุดครับ
  • ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดี

พี่ประกาย

กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้นี้ มีจัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยเช่นกันครับ ได้รับทราบเรื่องราวจากทีมผู้ประสานงานบอกว่าทางนั้นก็มีเรื่องราวเข้มข้นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

อีกไม่กี่วันผมจะหาโอกาสไปเก็บข้อมูลที่ รพ.อุบลรัตน์ มีโอกาสอาจได้พบกันนะครับผม

อ.เอก นมินทร์ (นม.)
ผมสบายดีครับ การงานบยังคงหนักหน่วงเช่นเดิม โดยเฉพาะสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติแบบนี้

อาจารย์สบายดีนะครับ แม้อยู่ใกล้กันแต่ก็ไม่ได้มีโอกาสไปมาหาสู่กันเลยนะครับ

เดือน ธ.ค.นี้ ผมจะนำ ทีม gotoknow หลายๆท่านไปเที่ยวที่ปายครับ ไปบริจาคเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และไปทำกิจกรรมดีๆด้วยครับ

สบายดีนะครับผม

อ. Wasawat Deemarn

เมื่อวานมีโอกาสได้ฟังอาจารย์หมอประเวศ วะสี ที่ห้องเรียน สสสส.๑ สถาบันพระปกเกล้า หมอได้กล่าวถึงระบบการศึกษาน่าสนใจตอนหนึ่งครับ

"มีระบบความรู้ ๒ ระบบ ระบบที่ ๑ คือ ความรู้ในตัวคน และระบบที่ ๒ คือ ความรู้ภายนอกที่เป็นทฤษฏี

หากเรายึดถือความรู้ที่เป็นทฤษฏีเป็นความรู้ที่มีฐานทางวิทยาศาสตร์ ผู้รู้เฉพาะบางคนเท่านั้น ดังนั้นบางคนเท่านั้นที่มีเกียรติ แต่หากเรายึดความรู้ในตัวคน ทุกคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน เพราะทุกคนมีความรู้

มุมมองของความรู้จึงเป็นมุมมองที่สมานฉันท์หากเรา ให้สิทธิ์ความเท่าเทียมกันของมนุษย์

และระบบการศึกษาที่ล้มเหลวเพราะว่า เราแยกวัฒนธรรม ออกจากการศึกษา เราแยกชีวิตออกขากการศึกษา "

เหล่านี้เป็นเหตุหนึ่งที่ การศึกษาไม่ได้เป็นโจทย์ในการพัฒนาประเทศ และเป็นจำเลยของการพัฒนาที่อ่อนด้อย ไร้พลังครับ

และอาจารย์อยู่ในระบบมหาวิทยาลัย คงรู้เห็น ทราบ ดีว่า ปัจจัยที่ทำให้ระบบการศึกษา อ่อนด้อย ไร้พลัง นั้น มีปัจจัยอะไรบ้าง..มีเรื่องราวมากมายที่เราเรียนรู้ และทำอะไรไม่ได้

:)

Archanwell

ถือโอกาสมา AAR. ตัวเอง

เป็นแง่มุมการทำงานของผม ในประเด็น "จิตปัญญา" ครับ เราสิ้นสุดเวทีแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงวิเคราะห์ สังเคราะห์ fact sheet ครับผม

--------------------------------

เมื่อวานที่ ห้องเรียน สถาบันพระปกเกล้า มี นพ.ประเวศ วะสี มาบรรยาย ครับ ตามด้วย อ.หมอ พรทิพย์ มาคุยให้ฟังเรื่องราวของแก้สน้ำตา น่าสนใจมาก เหลียวมองหาอาจารย์ไม่เจอ ...

จริงๆภาคบ่ายมี ระดมสมองที่รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ผมเองก็พลาดงานนี้ไป เพราะต้องดูแล นศ.ที่ สถาบันฯ

ในครั้งหน้า อยากเห็นและอยากเรียนรู้กับอาจารย์ที่มาเติมความรู้ให้กับพี่ๆ นศ. สสสส.๑ อีกครับ

สวัสดีครับ คุณปรีด์ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม

เห็นว่าทาง SCG.ก็มีกิจกรรมดีๆแบบนี้บ่อย นำมาแลกเปลี่ยนกันบ้างนะครับ

สบายดีนะครับ...

 

Col.boonyarit พี่บุญยฤทธิ์

เข้าไปอ่านบันทึกพี่แล้วครับ มีการพัฒนาไปไกลมาก มีทั้งเสียงเพลงและรูปภาพ อีกทั้งเนื้อหาน่าสนใจมาก ...ผมขอชื่นชมครับ

ส่วนหนึ่งในงานที่หลากหลายของผมก็นำเรื่องราวเหล่านั้น ผ่านประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในบันทึกครับ ช่วยกันคิด ช่วยกันเติม สร้างความรู้ใหม่ๆเพื่อพัฒนาสังคมไทย..

ขอบคุณมากๆครับพี่

เป็นกำลังใจกับคนทำงานที่ภาคใต้ทุกคนครับ

ขอบคุณมากครับ คนโรงงาน
คุณขจรศักดิ์

ผมติดตามบันทึกดีๆของคุณขจรศักดิ์มาโดยตลอดครับ...

กำลังใจสำคัญมากสำหรับคนที่ภาคใต้นะครับ ร่วมให้กำลังใจพวกเขาผ่านบันทึกนี้

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีค่ะ ^พี่เอก^

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่มีจิตอาสาทุกๆ ท่านค่ะ

อยากให้ทุกหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ประเทศชาติจะได้สันติสุข

พี่เอกดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

 

หวัดดีค่ะ...

สุขที่ง่ายที่สุด

คือสุขจากการเป็นผู้ให้

 

ที่นั่น...หนาวรึยังค๊ะ

 

ความสุขที่แท้จริง คือ สุขที่เกิดจากใจที่บริสุทธิ์ และสุขที่ง่ายที่สุดคือสุขจากการเป็นผู้ให้

เป็นความสุขที่ให้...โดยมิหวังอะไรตอบแทน

            เชื่อค่ะว่า....ยิ่งให้  ยิ่งได้  ได้รับสิ่งดีๆ  สิ่งที่สบายใจ

                                  :)  :)

                            

                  วันนี้วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ

                        และวันพยาบาลแห่งชาติ

ก็เลย  เอาดอกปีบ  ที่เป็นสัญลักษณ์ของพยาบาล มาฝากค่ะ

  • มาอ่านเรื่องราวดีๆ จากคุณจตุพร
  • ไม่ผิดหวังครับ มีคุณภาพและสาระมากมายเช่นเดิม
  • ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะครับ

สวัสดีครับ น้องสาว kittyjump~เลขา~natadee(มากๆ)

ขอบคุณครับ ผมดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี แต่วันนี้นอนดึกหน่อยครับ ผมแอบรอนแรมมาไกลที่ อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งชายแดน มานั่งเขียนงานเงียบๆคนเดียว..

สำหรับ งานที่ทำประเด็น "จิตปัญญา" ที่ผมเขียนบันทึก AAR.ในบันทึก เป็นบทสรุปการทำงานในรอบ ๖ เดือนที่รับหน้าที่เป็น Facilitator ครับ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่คุ้มค่าเลยทีเดียว

น้อง kittyjump~เลขา~natadee(มากๆ)   ดูแลสุขภาพด้วยครับ

ครู windy  เราคงไม่ต้องแสวงหาความสุขยากๆนะครับ เริ่มจากการให้ก่อน ให้ตัวเอง ให้ผู้อื่น และผมพบความจริงที่ว่า "ยิ่งให้ เราก็ยิ่งได้รับ"

ขอบคุณครับ

ครู @..สายธาร..@ ดอกปีปเป็นดอกที่สวยนะครับ ช่วงนี้ผมเห็นหล่นพราวตามสนามหญ้า น่าทนุถนอมจังเลยครับ

เปรียบเสมือนความดีเช่นกันนะครับ ความดีเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะอยู่ที่ีไหน ดอกไม้จะอยู่บนต้น หรือหล่นลงดิน ดอกไม้ก็ยังคงสวยงาม สมค่าเสมอ

 

สวัสดีครับ พี่บุญธรรมliverbird

ยินดีมากครับที่พี่มาเยี่ยมให้กำลังใจ...

อย่างที่เขียนไปในหลายข้อเสนอแนะครับ ว่างานประเด็นนี้ผมโชคดีอย่างที่สุด ที่ได้เข้ามาเรียนรู้ ถือว่าเป็นธรรมะจัดสรรเลยนะครับ

อิ่มเอมใจมากที่ได้เรียนรู้สิ่งดีๆที่เกิดจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ความงดงาม เรื่องราวดีๆเหล่านี้ช่วยขัดเกลาและยกระดับจิตใจผมด้วยครับ

บันทึกอาจดูเป็นวิชาการหน่อย แต่ในสาระนั้นผมอยากจะถอดบทเรียนออกมาให้เห็นว่า กระบวนการพัฒนาจิต เราใช้ KM ในการถอดบทเรียนอย่างไร ..

ผมเชื่อว่า การรังสรรค์บรรยากาศที่สอดคล้องกับธรรมชาติของคนเรามากที่สุด ทำให้เราเปิดใจ และพร้อมที่จะเรียนรู้กันและกัน..

ที่ปักษ์์ใต้ ผมประทับใจกับหลายเรื่องเลย

ขอให้กำลังใจพี่ และทำงานอย่างมีความสุข เช่นกันนะครับผม

เห็นพี่ทำงานแล้วผมอยากเข้ายืนจุดนั้นบ้าง มีความสุขนะครับกับการได้ช่วยเหลือสังคม ผมไม่รู้ต้องทนอีกนานแค่ไหน จะไปก็ไม่รู้จะมีใครมาแทนที่ จะอยู่ที่นี่ก็ไม่รู้จะอดทนได้มากน้อยเพียงใด มีความสุขแค่เพียงเวลาได้สอนเด็กครับ

ตอนนี้ผมอยู่กรุงเทพ ฯ ครับ มากับเพื่อน ๓ คน คงไม่กล้าเข้าไปรบกวนพี่เอก ความจริงอยากไปเยี่ยมพี่กับลุงเอกมากครับ แต่ก็เกรงใจมีเพื่อนมาด้วย ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ฝากความคิดถึง ถึงลุงเอกด้วยครับ...มีโอกาสคงได้เจอกัน

สวัสดีค่ะ

พี่คิมมาเรียนรู้ด้วยเสมอ ๆ  ข้อความข้างล่างนี้โดนใจจ้า

การค้นหาตัวเอง(Self searching) สิ่งที่ได้เพิ่มคือ ได้รับรู้เรื่องราวผ่านประสบการณ์(experiencing)ของผู้อื่น ช่วยขัดเกลาจิตตัวเองอย่างอ่อนโยน...เช่นเดียวกับวิทยากรที่อิ่มเอมกับเรื่องราวสิ่งดีๆที่ได้สัมผัส และเรียนรู้ไปพร้อมๆกับผู้เข้าร่วมเวทีแลกเปลี่ยนเรียน

พี่ชาย พอจะทราบกำหนดการงานสัมมนาที่มหิดลไหมครับ ที่อาจารย์จารุวัจน์จะมาอ่าครับ

สวัสดีครับ..น้องชาย fuartครับ

ผมจะโทรหานะครับ กำลังเดินทางเข้า กทม.วันนี้ครับ คาดว่าจะถึงช่วงค่ำครับ

(ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัด- - -ไกล)

 

 

สวัสดีครับ ครูคิม

เป็นบันทึก AAR. ของผมครับ งานชิ้นนี้เป็นงานที่ผมทำไปด้วย เรียนรู้ไปด้วย ที่สำคัญพัฒนาตัวเองจากด้านใน ผ่านเรื่องเล่า ความดี ที่เล่าผ่านเวทีเรียนรู้

fact sheet ที่ทางทีมงานวิทยากรได้สรุปก็น่าอ่านครับ อ่านไป ก็เห้นถึงกระบวนการพัฒนาตนเองของ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละท่าน เห็นถึงพัฒนาการทางปัญญา การค้นพบตัวเองจนไปถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

คุ้มค่ามากครับสำหรับสิ่งที่ได้เรียนรู้

ชีวิตก็เท่านี้เองครับ ...ชีวิตที่มีความสุข สุขที่เรียกว่าสุขง่ายๆ สุขประทับจิต เริ่มต้นที่เราได้ให้สิ่งดีๆกับคนอื่น

เช่นเดียวกับการนั่งเขียนบันทึก ร้อยเรียงราวดีๆผ่านการสื่อสารออนไลน์ น่าจะเป็นช่องทางหนึ่งของการให้ไปด้วย

ขอบคุณครูคิมครับ ที่มาเยี่ยมพร้อมกับให้ข้อคิดเห็นครับ

 

สุขที่เรียกว่าสุขง่ายๆ สุขประทับจิต เริ่มต้นที่เราได้ให้สิ่งดีๆกับคนอื่น

ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆค่ะ

  • มาเรียนรู้  เรื่องที่ไม่เคยรู้ กับ อ้ายเอก เจ้า  ชอบข้อความนี้ เจ้า
  • ความสุขที่แท้จริง คือ สุขที่เกิดจากใจที่บริสุทธิ์
  • และสุขที่ง่ายที่สุดคือสุขจากการเป็นผู้ให้
  • หากเราเห็นผู้อื่นมีความสุขและเราได้คำตอบกับตัวเองว่า นั่นหละเป็นความสุขของเราด้วย
  • ถือว่าเราได้ผ่านการเจียรนัยจิตใจให้วิวัฒน์ผ่องแผ้ว
  • ยกระดับจิตวิญญาณไปสู่ความเปี่ยมสุข

ชุ่มชื่นใจ เมื่อได้อ่านสรุปดีๆ นี้

ชื่นชมคนทำงาน ชื่นชมกิจกรรม และผู้จัด วิทยากร ทุกท่าน

ภาพก็สวยมากค่ะ

ขอบคุณมากครับ พี่ Sasinand

สุขง่ายๆแต่ปราณีตครับ

สวัสดีครับ น้องครูใหม่บ้านน้ำจุน

ห่างหายไปนาน หลานน้อย น้องพอ น้องเพียงสบายดีหรือเปล่าครับ...

มีโอกาสคงได้พบกันนะครับ

สวัสดีครับ คุณหมอพญ รวิวรรณ หาญสุทธิเวชกุล

ตอนนี้ผมกำลังสรุปเอกสาร เพื่อทำรูปเล่มสมบูรณ์ อยู่ในช่วงวิเคราะห์ ปัจจัยความสำเร็จของโรงพยาบาลอยู่ครับ

มีโอกาสผมจะได้นำออกมาเผยแพร่ เพื่อประโยชน์ต่อที่อื่นๆต่อไปครับ

ขอบคุณหมอมากครับ

 

พี่เอกค่ะ  แวะมาบอกว่า Merry Christmas & Happy New Year นะค่ะ ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณ น้องสาวคนสวย•.♥°.•.♥• kittyjumpเลขาnatadee.•.♥.•°♥ มากๆครับMerry Christmas & Happy New Year

เช่นกันครับ

ขอให้มีความสุขมากๆในวันดีๆครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท