ภาษิตโบราณอีสานมักจะไม่บอกกันตรง ๆ แต่จะออกมาในรูปปริศนาคำทาย หรือที่เรียกว่า "ความทวย" ซึ่งเป็นวิธีการสอนคนให้มีศีลสัตย์โดยผ่านกระบวนการขบคิดตีความไปต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งมีทั้งเข้าใจง่ายคิดตกแตกออกมาได้ และบางครั้งครูบาอาจารย์ก็ต้องบอกเฉลย ความทวย นั้น ๆ ออกมา
อย่างความหมายของ หาบบ่หนัก ตักบ่เต็ม เค็มบ่จืด มืดบ่แจ้ง นี้เช่นกัน ผมเองก็คิดไปถึงบทบาทการหาบหามของสตรีเพศแม่ชาวบ้านอีสาน ผู้มีบุญคุณแก่โลกเปิงบ้านปูมเมืองอีสานหรือหัวเมืองลาวโบราณมา ใน หาบบ่หนัก ตักบ่เต็ม เค็มบ่จืด มืดบ่แจ้ง (1) แม่ผู้หาบบ่หนัก ตักบ่เต็ม
ในครั้งนี้ปราชญ์ครูบาโบราณท่านกล่าวถึง หาบบ่หนัก ตักบ่เต็ม เค็มบ่จืด มืดบ่แจ้ง (2)ไว้ว่า
1. หาบบ่หนัก ได้แก่ บุญหรือวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่มีไม่รู้จบที่คนจะแสวงหาไม่รู้สิ้น โดยมิต้องใส่บ่าแบกหาม แต่พอกพูนงอกงามในห้วงนึกคิด ในภูมิปัญญาสมอง นำพาให้บ้านเมืองทุกยุคสมัยผ่านมาได้จนลูกหลานได้สืบบ้านครองเมืองตลอดมา ทั้งนี้ หาบบ่หนัก นี้มีทั้งภูมิปัญญาที่ฉ้อฉล และภูมิปัญญาที่เป็นคุณแก่บ้านเมือง ซึ่งควรที่เราในยุคปัจจุบันจะต้องไตร่ตรองให้รู้อีกเช่นกัน ว่าคนเราเป็นพวกมีวิชาความรู้แบบไหน
2. ตักบ่เต็ม ได้แก่ โลภะ คือความโลภ อันเป็นความต้องการอยากได้ใคร่มีมิสิ้นสุด ดุจดังตักตวงสิ่งที่ต้องการใส่ภาชนะแห่งความต้องการที่ไม่มีวันพอ เหมือนคำพูดที่ว่า "เมืองพอบ่มี มีแต่เมืองเพียกับเมืองพล" (ชื่อหมู่บ้านอยู่ระหว่างอ.บ้านไผ่กับ อ.ชนบท และชื่ออำเภอพล จ.ขอนแก่น)
3. เค็มบ่จืด ได้แก่ คุณงามความดีซึ่งบุคคลทำไว้แล้ว อันคงทนอยู่ยั้งยืน ดุจเกลือรักษาความเค็ม และน่าจะไม่เกี่ยวกับความหมายที่ว่า "คนเค็ม" ที่หมายถึงคนตระหนี่ถี่เหนียว เห็นแก่ได้แก่ตัว แต่เค็มบ่จืดคือความดีที่คงทน จะตกน้ำลุยไฟคนดีหรือคุณค่าของความดีก็มีความดีอยู่วันยังคำ ดั่งเกลือละลายเป็นน้ำหรือตกผลึกเป็นเกล็ดเกลือ ก็รักษาความเค็มไว้ได้ตลอด
4. มืดบ่แจ้ง ได้แก่ อวิชชาหรือโมหะคือความหลง ทั้งที่ไม่รู้จริงและอวดอุตริดื้อรั้น ซึ่งมิเพียงทำให้ตนเองเสื่อมเท่านั้น บ้านเมืองส่วนรวมก็ย่อมตกต่ำเป็นที่เดือดร้อนแก่คนอื่นอยู่ไม่หาย
หาบบ่หนัก ตักบ่เต็ม เค็มบ่จืด มืดบ่แจ้ง นี้จึงเป็นปริศนาธรรม หรือ ความทวย/คำทาย หนึ่งของปราชญ์โบราณ ให้เราได้ขบคิดและใช้เป็นหลักยึดสร้างคุณความดีแก่ตนเองและสังคม พร้อมระวังสังวรณ์ในความโลภและความหลงอันเป็นอวิชชาที่ทำให้เสียหายได้ตลอดมา.
สวัสดีครับ
เนื้อก็งาม ความก็เพราะ
ลอกเก็บไว้แล้วครับ ;)
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ ครูชา
หาบบ่หนัก ตักบ่เต็ม เค็มบ่จืด มืดบ่แจ้ง
เป็นปริศนาคำทายที่ลึกซึ้งมากครับ จะออกในแนวเซ็นอย่างที่คุณกวินทรากร ว่าไว้นั่นแหละครับ
คนอิสานมีภูมิปัญญาที่ลึกซึ้งมากนะครับ เสียดายที่เราไม่ค่อยหยิบเชิดชูขึ้นมา หรืออาจเป็นเพราะว่าผมไม่ค่อยได้อ่าน หรือศึกษาก็เป็นได้
ท่านอาจารย์ได้นำมาเผยแพร่ถือว่าดีมากครับ
จะรอติดตามตอนต่อไปครับ
มาเยี่ยม...
มาได้ลื้อฟื้นควมเก่า...ผญาเฮา...มีปริศนาธรรมหลายแท้น้อ...
สวัสดีครับ อาจารย์
ผมเพิ่งแวะมาอ่านเพราะชอบอ่านที่เป็นของอีสาน เพราะผมเป็นคนอีสาน แต่เพราะความจนเลยจากอีสานมานาน...แต่ภูมิใจที่เป็นคนอีสานครับ..ชอบข้อเขียนของอาจารย์มาก ๆ..ผมขออนุญาตอาจารย์เผยแพร่ไปสอนเด็กใน กทม..นะครับ สนุกดี
ครูดี๋