ก่อนนั้น, บันทึกแรกเรื่องหนังสือในดวงใจเปิดตัวย้อนยุคใน http://gotoknow.org/blog/pandin/82049
บัดนี้ก็ได้เวลาเปิดตัวหนังสือชุดที่ 2 ที่ยิ่งสะท้อนตัวตนผมชัดเจนยิ่งขึ้น
(4) คำอ้าย : โลกแห่งการเรียนรู้อันรื่นรมย์ของเด็กที่ราบสูง อันที่จริงในโลกวรรณกรรมไทยที่สะท้อนภาพชีวิตเด็กชนบทอีสาน เชื่อว่าหลายท่านย่อมคุ้นหูและผ่านตาบ้างแล้วอย่าง “ลูกอีสาน, นายฮ้อยทมิฬ” นวนิยายอันโด่งดังของลุง “คำพูน บุญทวี” นักเขียนซีไรต์คนแรกของเมืองไทย แต่ผมเลือกนวนิยายเรื่อง “คำอ้าย” ของยงค์ ยโสธร มานำเสนอ เพราะเชื่อเช่นเดียวกันว่านวนิยายดี ๆ เล่มนี้ก็ทรงคุณค่าไม่ด้อยไปกว่ากัน เพียงแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักมักคุ้นเทียบเท่ากับ 2 เรื่องแรกเท่านั้นเอง
คำอ้าย เป็นนวนิยายที่พิมพ์เผยแพร่สู่สาธารณะครั้งแรกเมื่อปี 2531 พร้อมได้รับรางวัลวรรณกรรมบัวหลวง แต่ผมเริ่มอ่านครั้งแรกเมื่อปี 2536 โดยเนื้อหาก็ไม่ผิดแผกแตกต่างไปจากวรรณกรรมสะท้อนภาพชีวิตสังคมชนบทอีสานที่เผชิญทุกข์กับความแร้นแค้นจากภัยธรรมชาติและคุ้นเคยกับความทุกข์ยากในครอบครัว แต่ผมกลับชื่นชอบเพราะนวนิยายเรื่องนี้ได้สื่อสะท้อนภาพชีวิตที่เรียบง่าย สมถะ เจียมตน แต่แฝงด้วยพลังของการต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อต่อชีวิต รวมถึงภาพการเติบโตของเด็กขี้เหร่คนหนึ่งที่ผู้เขียนได้นำเสนอภาพได้อย่างงดงามและลึกซึ้ง ตลอดจนการนำภาษาถิ่นมาใช้อย่างกลมกลืนและสง่างาม
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 : (2536) ราคา 95 บาท โดย สนพ.มิ่งมิตร (ซื้อเก็บเมื่อ 23 พ.ย. 2536) นี่คือตอนหนึ่งในเรื่องที่ผมชอบมาก เพราะคลับคล้ายว่าครั้งหนึ่งเคยเห็นแม่หาบคอนอาหารการกินไปส่งพ่อที่กำลังกรำงานอยู่ในท้องทุ่ง “ตะวันโด่งฟ้า แดดเปรี้ยง เสียงนกอีจู้ร้องแว่ว ๆ มาจากยอดไม้ปลายนา แม่เร่งหาบตะกร้าเดินจ้ำเอา ๆ ใกล้เข้ามาจนคำอ้ายเห็นชัดตาในตะกร้าใบข้างหน้ามีน้องสาวตัวแดง ๆ นั่งอยู่ ใบข้างหลังใส่กระติบข้าวและของกิน ส่วนสมหมายน้องชายคนถัดคำอ้าย วิ่งเหยาะ ๆ หัวเลื่อมแม้บ ๆ ตามหลังแม่”
(5) ม้าก้านกล้วย : นาฏกรรมชีวิตลูกอีสานที่ควบม้าชีวิตสัญจรทุ่งกว้างและเมืองใหญ่
ม้าก้านกล้วย, เป็นชื่อหนังสือกวีนิพนธ์ ของไพวรินทร์ ขาวงามที่ผงาดขึ้นเป็นวรรณกรรมซีไรต์ปี 2538 ผมตระเวนเร่ซื้อกวีนิพนธ์เล่มนี้แทบพลิกแผ่นดิน ขายดิบขายดี และโชคดีที่ผมซื้อได้ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ยิ่งยังไม่ตีตราประทับว่าเป็น “ซีไรต์” ยิ่งทำให้หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าทางจิตใจเพิ่มมากทวีคูน (อันที่จริงผมก็วิเคราะห์กับหมู่พวกแล้วว่า ซีไรต์ ไม่พ้นหนังสือเล่มนี้เป็นแน่แท้)
ฉบับพิมพ์ครั้งแรก : (2538) ราคา 60 บาท โดย แพรวสำนักพิมพ์ (ซื้อเก็บเมื่อ 28 พ.ค. 2538)
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ ประกอบด้วย 3 ภาค เกี่ยวโยงกับวิถีทุ่ง, วิถีเมือง และเส้นทางอันไกลโพ้นของชีวิตที่ดูเหมือนจะยังเคว้งคว้าง อ้างว้างเป็นยิ่งนัก อย่างไรก็ดีหนังสือเล่มนี้มีความโดดเด่นทั้งเนื้อหาและรูปแบบ เป็นกวีนิพนธ์ที่อ่านง่าย งดงามและมีความเป็นปรัชญาที่แจ่มชัด
ม้าก้านกล้วย ด้วยมือพ่อต่อเติมปรารถนา ตัดก้านกล้วยทำม้าให้ข้าขี่ ทั้งปืนกลก้านกล้วยก็สวยดี เหมาะมือที่จะสู้รบกับไพริน
เสียงคำสอนพ่อสั่งก็ยังแว่ว ลูกผู้ชายไม่แคล้วต้องจากถิ่น สู่โลกกว้างทางไกลในแผ่นดิน เสาะและสู้อย่ารู้สิ้นซึ่งแรงใจ
ไหมแท้ที่แม่ทอ
ลูกก็ถือผ้าทอที่แม่ให้ เป็นเยื่อใยไหมและแม่ที่กล้าหาญ ผ้าทั้งผืนมีชีวิตจิตวิญญาณ ถักประสานสอดสร้างอย่างแยบยล มือน้อยน้อยของแม่ดูแค่นี้ เคยเฆี่ยนตีลูกบ้างในบางหน แต่มือเดียวกันนี้แหละสู้ทน ประคองลูกให้พ้นภยันตราย
พักยก book tag (2) ไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ และขออนุญาตส่ง tag นี้ไปยัง คุณ กรรณิการ์ วิศิษฏ์โชติอังกูร ชาวบล็อกคนใหม่นะครับ
คุณแผ่นดินครับ ผมเองก็รู้สึกชอบงานวรรณกรรม เนื้อหาสาระเช่นนี้เหมือนกัน อาจเป็นเพราะลูกอิสานด้วยมั้ง ที่ทำให้เวลาอ่านแล้วทำให้คล้อยตาม นึกว่าตัวเองเป็นพระเอกในเนื้อเรื่องเลยก็ว่าได้ บอกตามตรงนะครับผมได้ยินแต่ชื่อ หนังสือที่คุณแผ่นดินแนะนำมา แต่ว่ายังไม่เคยมีโอกาสเป็นเจ้าของเลย เพราะหาซื้อยากมาก (ย้ำนะครับว่ายากจริงๆ) ถ้าจะหาซื้อมาอ่าน คุณแผ่นดิน พอจะแนะนำแหล่งซื้อขายได้ไหมครับ และถ้าเป็นไปได้ หนังสือในดวงใจที่คุณแผ่นดินอ่านอยู่ในลักษณะเนื้อหาแบบนี้มีซักกี่เล่ม ผมจะได้เอารายการ(ชื่อหนังสือ) ไปถามร้านหนังสือดูว่าเค้าพอจะหาได้หรือเปล่า ***จากใจนะครับ อยากอ่านมากครับ***
คุณพรหมลิขิต..ครับ
...จตุจักร เป็นแหล่งหนังสือที่ดีของคอหนังสือ อีกทั้งในร้านหนังสือปัจจุบันก็แทบไม่ปรากฏนัก ถ้าจะมีก็พิมพ์ใหม่เพื่อประกอบการอ่านการสอน (ทุ่งมหาราช)
เรื่องที่อยากให้คุณพรหมลิขิตได้อ่านมาก ๆ คือ "ฟ้าบ่กั้น" ของลาว คำหอม (เยี่ยมยุทธ เยี่ยมยอดที่บรรดานักเขียนเลื่องชื่อก็โค้งคำนับให้กับหนังสือเล่มนี้กันทั้งนั้น)
งานเขียนของสมคิด สิงสง, (ข้าวเขียว, ไอ้พลอย, ลาก่อนนาวังเหล็ก ฯลฯ) งานของประเสริฐ จันดำ (นาแล้ง ก็น่าสนใจเป็นนวนิยายเรื่องเดียวที่ผู้เขียนแต่งไว้) .. งานของสังคม เภสัชมาลา (หวดฮ้าง, บ้านโรงสี, นางไห้) งานของโชติ ศรีสุวรรณ (ดอกไม้บานที่เชิงภู) หรือแม้แต่งานของดวงเดือน ทองเจียว, คำหมาน คนไท เป็นต้น ก็ล้วนมีตัวตนของสังคมอีสานชัดเจนมาก
เพิ่มเติม..ครับ คุณ พรหมลิขิต
ไม่ต้องรีบร้อนนะครับ...เรื่องใดผมมีหลายเล่ม จะส่งไปให้อ่าน
การได้ให้หนังสือกับใครสักคน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ..
พี่แผ่นดิน
ไม่รู้นะเนี่ยว่าพี่สะสมหนังสือเยอะแยะขนาดนี้ ว่างๆ ขออนุญาตไปเยี่ยมตู้หนังสือได้มั้ยค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
หนูนิด ..น้องสาวช่างฝันและหญิงสาวผู้ซ่อนงำความหม่นเศร้า
ยินดีนะครับถ้าจะมาเยี่ยม...หนังสือส่วนหนึ่งอยู่ที่ห้องพัก อีกส่วนขนไปเร่บริการในร้านเช่าและจำหน่ายแบ่งปันไปสู่ผู้อ่าน
มีหนังสือเก่าที่อายุร่วมร้อยปีก็มีบ้าง...เคยมีอาจารย์ยืมไปแสดงนิทรรศการ ..ผลลัพธ์ ไม่ได้คืน (หลายเล่ม) ..
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
คำพูน บุญทวีเป็นนักเขียนอีกคนหนึ่งที่เบิร์ดชื่นชอบผลงาน..แต่ยงค์ ยโสธรยอมรับค่ะว่ายังไม่เคยอ่านแต่หมายมาดไว้แล้วว่า" สักวัน "..ส่วนม้าก้านกล้วยเบิร์ดมีเล่มแรกที่ยังไม่ประทับตราว่ากวีซีไรท์อยู่เหมือนกันค่ะและกำลังถูกและเล็ม เลียบเคียง..สู่ขอไปครอบครอง ซึ่งคาดว่าคงจะใจอ่อนยอมยกให้อย่างแน่นอน..เพราะการได้ให้หนังสือแก่ใครสักคนถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ^ ^ อิ อิ ( สำนวนคุ้นๆมั้ยคะ )
สวัสดีครับ อาจารย์กฤษณา
ขอบคุณมากครับ อ.ลำดวน
...คำอ้าย ไม่โด่ง ไม่ดัง เหมือนเรื่องอื่น ๆ ..เป็นเด็กขี้เหร่ วิ่งเล่นและเติบโตอยู่ตามท้องไร่ท้องนา ช่วยงานพ่อกับแม่ตามวัยของเด็กชนบทยากไร้พึงทำได้และยังมุ่งหวังที่จะเติบโตผ่านกระบวนการทางการศึกษา
นวนิยายเรื่องนี้เป็นยิ่งกว่านิยายครับ เพราะบันทึกเรื่องราวยังกับเป็นสารคดีเลยก็ว่าได้
ขอบคุณครับ...ซึ้งในมิตรภาพอย่างเต็มล้น
อาจารย์ลูกหว้าครับ.
..กว่าจะมีชีวิตข้างเคียงอยู่คู่กันได้ รบสู้กับอุปสรรคราวกับกู้กรุงศรีฯ เลยนะครับ
ผมไม่ใช่คนเด่น คนดัง ไม่มีวี่แววความคมขำ หล่อเฟี้ยว..แต่ชนะได้เพราะเป็นคนในวิถีกิจกรรมเป็นสำคัญเลยก็ว่าได้...
ผมจะไม่มีวันนี้ที่เติบโตในโลกการงานได้อย่างเป็นรูปธรรม ถ้าคนข้างหลังไม่เข้าใจและสนับสนุนอย่างเต็มที่...
แดนไท, แผ่นดิน, และเพื่อนชีวิต เป็นหนังสืออีก 3 เล่มที่เรากำลังช่วยกันเขียนเรื่องราวของกันและกันครับ !
...สำนวนนั้น คุ้นจริง ๆ แหละครับ สงสัยว่าผมหลงลืมหล่นหายที่ไหน เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
กวีนิพนธ์ม้าก้านกล้วย..อ่านง่าย งดงามทั้งภาพเสียงและภาพชีวิต และยังเป็นหนังสือกวีนิพนธ์ที่จำหน่ายได้มากกว่าเรื่องใด ๆ (ปกติกวีนิพนธ์มักไม่ประสบความสำเร็จเรื่องยอดจำหน่าย) ยกเว้นงานของอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ...
ส่วน "คำอ้าย" อยากให้อ่านมาก ๆ รวมถึง "ฮวดฮ้าง" ของสังคม เภสัชมาลา.
หรือแม้แต่งานของพิบูลย์ศักดิ์ ละครพล, และมาลา คำจันทร์ ก็มีภาพชีวิตสังคมภาคเหนือที่งดงามและเป็นจริงอยู่อย่างเต็มล้น...
ขอบคุณครับ
ยินดีเป็นที่สุดหากจะได้รับรองท่านอาจารย์ด้วยกาแฟสักถ้วย..
ม้าก้านกล้วย..บันทึกชีวิตคนอีสานทั้งในท้องทุ่งและเมืองใหญ่ได้ชัดเจนและหลากหลายอย่างน่าทึ่ง
ผมว่าเป็นหนังสือที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย (ง่ายและงาม) เป็นอย่างยิ่ง..
คนอีสานเราได้ซีไรต์ก็รู้สึกจะมี 2 คนคือ ลุงคำพูน บุญทวี, และพี่ไพวรินทร์ ขาวงามนี่เองกระมัง (ถ้าผมไม่ตกเรื่องข้อมูลนะครับ)
หนังสือเล่มนั้นน่าจะเป็น "ลูกอีสาน" ของลุงคำพูน บุญทวี นักเขียนซีไรต์คนแรกของไทยเราหรือเปล่าครับ...มีการสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยนะครับ
ท่านเขียนวรรณกรรมสะท้อนภาพสังคมอีสานไว้หลายเรื่อง ดี ๆ ทั้งนั้น เสียดายที่ท่านลับโลกไปเมื่อสักประมาณ 3 ปี (หรือเปล่า- ผมก็จำไม่ได้)
ลูกอีสาน... เป็นเหมือนเรื่องบันทึกชีวะประวัติของลุงคำพูน ตัวละครที่เป็นเด็ก คือ "บักคูน" ซึ่งก็คือท่านนั่นเอง
ผมยังอยากเขียนบันทึกแนะนำหนังสือไปอย่างไม่รู้จบ..จะมีคนเบื่อที่จะอ่านเร็วไปหรือเปล่าครับ
ขอบคุณมาก ๆ ครับ !
(วันนี้ตอนกลับที่พัก เห็นดอกคูนบานแล้วที่ มมส อดนึกถึงบันทึกที่เคยฝากเรื่องเหล่านี้ไว้ในบันทึกของท่านอาจารย์ไม่ได้)
คุณโก๊ะครับ...
ขอบคุณมากครับ..สำหรับกำลังใจที่ส่งถึงมายังผม , ผมเฝ้าฝันอยู่ว่าถ้าเลือกได้อยากเป็นนักเขียนไส้แห้งมากกว่ารับราชการอดโซ
...ไว้หนังสือผมเสร็จเมื่อไหร่จะส่งไปให้นะครับ..
ปกติ นอนดึกหรือเปล่าครับ
.. ขอบคุณเช่นกันครับที่เฝ้าแวะเวียนมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
ใครได้อ่านลูกอีสานแล้วก็อยากเป็น "บักคูน" กันทั้งนั้นแหละครับ และวันหนึ่งบักคูนในนวนิยายก็เติบโต เป็น "คำพูน บุญทวี" ลูกอีสานผู้เลื่องชื่อในถนนสายวรรณกรรม
ดอกคูนเริ่มบานแล้วครับ... แต่ปัญหาคือ ไม่ค่อยบานเต็มต้น บานเป็นช่อ ๆ พวง ๆ กระจัดกระจาย ถ่ายภาพก็ค่อนข้างลำบาก แต่ก็จะพยายามนำมากำนัลนะครับ
มาเยี่ยม...อ่านแล้วนึกถึงอีสานบ้านของเฮาน้อ
หอมดอกผักกะแยง ยามฟ้าแดงค่ำลงมา แอ๊บ ๆ เขียดจะนา ร้องมายามฟ้าฮ้องฮ้อน ๆ...
ขออภัยอีกครั้ง นะครับ ผมเพิ่งเข้าระบบได้..
ความสวยใสของบล็อกต้องขอบคุณน้องนุ้ย - จันเพ็ญที่จัดการให้..และดูเหมือนจะเป็นลายพื้นเดียวกับคุณอ้อ หรือเปล่า ผมก็ไม่ใคร่แน่ใจ
เรื่องก้านกล้วย...เป็นเรื่องดี ๆ ทั้งเนื้อหาและปรากฏการณ์ทางหนังไทย..ที่ประทับใจและต้องช่วยกันดู...
ตั้งแต่เรื่องนี้ฉาย..ผลก็ลำบากต้องเป็นช้างให้ลูกขี่มาจนบัดนี้ ทุกวันและทุกคืน
ขอบคุณครับ..คำชมน้องดินและน้อแดน...ลุกไม้หล่นใกล้ต้น ถ้าไกลกว่าต้น..ผมมีหวังเค้นคอแฟนเป็นแน่..ฮา....
ขอบคุณครับ
ขออภัยนะครับที่เข้ามาทักช้ามาก...เพราะระบบขัดข้อง
นายฮ้อยทมิฬ ก็เป็นการเดินทาง "ต้อนวัว ต้อนควาย" ไปขายตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะการลงมาขายแทบภาคกลาง เคยทำเป็นละครทีวีช่อง 7 โด่งดังมาก น้ำแสดงโดยคุณศรันยู วงศ์กระจ่าง..
ผมยังไม่ได้รับโครงการฯญ เลย เช็คจากพี่หนิงแล้ว ไม่พบข้อมูล รบกวนท่านอาจารย์ส่งมาที่อีเมล์ผม
[email protected] นะครับ..
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับ คุณตาหยู
ตอนนี้นิสิตกำลังแยกกลุ่มระดมความคิดการจัดการความรู้เกี่ยวกับการออกค่ายช่วงปิดภาคฤดูร้อน เลยถือโอกาสแว้บมาเข้าบล็อก
..ขอบคุณครับ...ผมมีความสุขที่ได้บอกเล่าเรื่องหนังสือ เพราะหนังสือคือส่วนหนึ่งของชีวิตผม
ขอบคุณจริง ๆ ครับ
อาจารย์umi
|
เพลงอีสานบ้านเฮา ของอาจารย์เทพพร...เป็นชีวิตและลมหายใจการฟังเพลงของผมมาก แต่ก่อนอาจารย์ที่ปรึกษากิจกรรมมักจะร้องให้มวลชนฟังเสมอ (แต่ท่านเป็นคนสุพรรณบุรี)
มีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมบ้านบ้างหรือเปล่าน้อ....
สวัสดีครับ พี่อัมพร.
มีโอกาสได้กลับมาเยือนบันทึกเก่า ๆ ของตนเอง. นานแล้วที่ไม่ได้ทักทายกัน เว้นแต่โทรศัพท์บ้างเท่านั้นที่พอได้คุยกันบ้าง และนั่นก็นานมาแล้ว
ขอบคุณนะครับ.
และหวังว่าคงสบายดี