ผู้สืบทอด (successor) คือผู้ที่จะมาแทนผู้ดำรงตำแหน่งเดิม การหาผู้สืบทอด มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับความต่อเนื่องของการจัดการองค์กรในทุกระดับ ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งก็เพราะว่าไม่มีใครสามารถจะอยู่ค้ำฟ้าได้
หากสิ่งที่เราทุ่มเททำมาในอดีต ตลอดจนพี่น้องเพื่อนฝูงที่ร่วมฝ่าฟันกันมา จะต้องประสบกับความไม่แน่นอนหลังจากที่เราเดินจากไป มันจะไม่เป็นการดีกว่าหรือ ที่จะเตรียมการโดยไม่ประมาทไว้แต่เนิ่นๆโดย:
แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือประเมินความเหมาะสมต่างๆ ตามความเป็นจริง แน่นอนล่ะว่าถ้าเราเป็นคนเลือก ก็คงคิดแล้วว่าผู้สืบทอดคนนี้ เหมาะสมที่สุด; แต่ถึงจะเป็นคนเลือกเอง ก็เป็นไปได้ว่าจะเลือกผิด ผมยังไม่พบใครที่ถูกต้องอยู่ตลอดเวลา -- อยากฝากไว้ให้คิดอีกสองประเด็น คือไม่ใช่เรื่องผิด ที่ท่านจะรู้จักคนที่ท่านเลือก (หรือไม่เลือก) เป็นผู้สืบทอดดีพอ แต่ให้แน่ใจว่าการที่ท่านเลือกหรือไม่เลือก ไม่ได้เป็นไปด้วยอคติ และลูกน้องที่ดี ไม่ได้แปลว่าจะเป็นหัวหน้าที่ดี
ในการคัดเลือกผู้สืบทอดในระดับปฏิบัติการนั้น ท่านมักจะมีอิสระค่อนข้างมาก แต่เรื่องที่ท่านต้องระวังกลับกลายเป็นความรู้สึกของตัวท่านเอง ด้วยความกลัวว่าจะมีคนมาแทนท่านได้ เรื่องนี้ต้องเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ ยิ่งไม่มีคนมาแทนตัวท่าน ท่านเองนั่นแหละที่ติดแหงกอยู่ที่เดิมไม่มีโอกาสก้าวหน้า
ประเด็นนี้ ก็มีกรณีที่เป็นปฏิภาคกลับกัน คือผมเคยมี ลูกน้องที่รักความก้าวหน้าเหลือเกิน ตั้งความคาดหวังที่จะเติบโตในหน้าที่การงานตลอดเวลา ใจร้อน-รอไม่ได้; ความคาดหวังแบบนี้ไม่เป็นจริง จึงยกตัวอย่างไปว่า หากปีแรกเข้ามาทำงานคนเดียว ปีที่สองเป็น senior มีลูกน้องหนึ่งคน ปีที่สามจะเป็น supervisor มีลูกน้องสองคน ปีที่สี่อยากเป็นหัวหน้าแผนกมีลูกน้องสี่คน และเติบโตด้วยอัตราก้าวหน้า (จำนวนลูกน้องเพิ่มขึ้นเท่าตัวทุกปี) เวลาผ่านไปถึงปีที่ 11 ตอนอายุสามสิบต้นๆ จะมีลูกน้องพันคน บริษัทก็ไม่ใหญ่พอสำหรับเขาแล้ว! พออายุสี่สิบต้นๆ จะมีลูกน้องล้านคน คงเหลืออาชีพเดียวสำหรับเขาคือไปเป็นนักการเมือง แล้วตอนที่เขาอายุ 60 ปี โลกใบนี้ก็ไม่ใหญ่พอสำหรับเขาแล้ว แม้เป็นโลกในอนาคต ก็คงจะไม่สามารถรองรับประชากรล้านล้านคนให้เขาปกครองได้ -- ตอนนี้เขาไปหาความก้าวหน้าที่อื่นแล้วครับ
ไม่ใช่เรื่องผิดที่คนเราจะรักความก้าวหน้า เพียงแต่การวิ่งไล่จับเงาตัวเองนั้น ถึงแม้สำเร็จก็จะได้แต่เงา
ผู้สืบทอดสำหรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงๆ เป็นกรณีที่น่าสนใจ ด้วยระบบการควบคุมกิจการในปัจจุบันนี้ แม้ท่านไม่หา ก็จะมีคนมาช่วยหาผู้สืบทอดให้อยู่ดี ในเมื่อท่านไม่สามารถจะหลบเลี่ยงการสรรหาผู้สืบทอดได้ ประกอบกับเป็นความถูกต้องที่จะต้องมองประโยชน์ขององค์กรก่อนเสมอ ดังนั้นทำไมท่านจึงไม่มองหาผู้สืบทอดด้วยตัวท่านเอง
การที่มีกรรมการสรรหามาช่วยท่านดู ในมุมหนึ่งก็อาจจะลดภาระของท่านได้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง กรรมการสรรหาก็ไม่อาจเข้าใจข้อจำกัดในตำแหน่งของท่านได้ทั้งหมด ไม่เข้าใจลูกน้องของท่านแต่ละคน และไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแผนงานที่ท่านวางไว้-อีกทั้งความต่อเนื่อง-ความเข้ากันได้ของแผนงานและทีมงาน ท่านผู้บริหารระดับสูงๆ จะผลัดวันประกันพรุ่งอยู่ทำไม ท่านควรทำสิ่งที่ถูกต้องโดยการมองหาผู้สืบทอด เพื่อให้องค์กรเจริญก้าวหน้าต่อไป ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ท่านได้มีโอกาสมาทำงานอยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรก (บันทึกเก่า: ความกล้าหาญของ "ผู้จัดการ" )
แต่การหาผู้สืบทอดนั้นมีกับดักอันตรายอยู่อย่างหนึ่ง คือเรามักมองผู้สืบทอดที่เหมือนกับตัวเรา ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้สืบสานงานของเราต่อไปได้ เรื่องนี้ผมคิดว่าเป็นความเห็นที่ผิด
ที่จริงแล้วเราควรมองหาคนที่ดีกว่าตัวเรา เราควรจะภูมิใจหากผู้ที่มาแทนเราสามารถสร้างความก้าวหน้าให้องค์กรได้ดีกว่าตัวเรา ซึ่งนั่นก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่เราจะทิ้งไว้ให้องค์กรที่ได้เคยร่วมสร้างกันมาได้ ในมุมกลับกัน ความผิดพลาดในการเลือกผู้สืบทอด อาจจะเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตการทำงานก็ได้ เพราะจะสร้างความชะงักงันแก่องค์กรอย่างยาวนาน
ผู้สืบทอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับสูงๆ ไม่ใช่การต่อคิว ไม่ใช่การผลัดกันเสวยสุข (บันทึกเก่า: เลื่อนตำแหน่ง: สามไม่, Career Path)
ความเห็นในบันทึกนี้ รวมถึงตำแหน่งงานที่มี performance contract กำกับอยู่ แม้ว่าจะไม่มีการระบุไว้ใน performance contract แต่ก็เป็นเรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องให้ใครมาบอก
ความเห็นในบันทึกนี้ รวมถึงตำแหน่งงานที่มีวาระการดำรงตำแหน่งระบุไว้อย่างชัดเจนก่อนเข้ารับตำแหน่ง เมื่อหมดวาระ ผู้ดำรงตำแหน่งควรให้คำแนะนำแก่กรรมการสรรหาได้ (ส่วนกรรมการสรรหาจะฟังหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง; บันทึกเก่า: Deep listening (revisited) )
ความเห็นในบันทึกนี้ ไม่รวมถึงการไปกินตำแหน่งเพื่อชุบตัว/เลื่อนชั้น/เลื่อนขั้น (เป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น); หากยอมให้มีกรณีแบบนั้นเกิดขึ้น ก็จะเป็นความล้มเหลวในระดับปรัชญาขององค์กร
ความเห็นในบันทึกนี้ ไม่รวมถึงตำแหน่งทางการเมือง และตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง
ภาษาอังกฤษเรียงคำขยาย มาก่อนคำหลัก ครับ (red apple = แอปเปิลสีแดง) คำนี้เปิดพจนานุกรมก็จะไม่เจอ ดังนั้นถ้าต้องเดา-ก็ให้เดาว่าเป็นคำหลัง คือเป็น contract (สัญญา) ที่เกี่ยวกับ performance (การปฏิบัติ) นะครับ
คำว่า performance contract ก็คือสัญญาที่ระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับสิ่งที่จะต้องทำจนบรรลุผลสำเร็จให้ได้
การวัดผลว่าสำเร็จหรือไม่ตามสมัยนิยม ก็มักจะใช้ KPI วัด ซึ่งผมได้เคยให้ความเห็นไว้ในบันทึกเก่า ว่าเป็นเรื่องที่ต้องระวัง อย่าให้มันกลายเป็นดัชนีศักดิ์สิทธิ์ครับ