หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข : ความหวังในการเยียวยาสังคมไทย


ผมมองว่า "ทุนทางสังคม" ที่เป็นบุคคล ในสังคมไทย ยังเป็นทางเลือกของการแก้ไขวิกฤตินี้ คนไทยยังให้ความเคารพ และเชื่อฟัง พร้อมกับท่านเหล่านั้นยังชี้นำสังคมไปในทางที่ถูกต้องและควรจะเป็น แต่ทุนทางสังคมเหล่านั้นไม่ได้ขึ้นมาเพียงลำพัง หากแต่รวมตัวกันให้เกิดพลังปัญญา พลังความสามารถเต็มกำลังเพื่อระดมปัญญา ในการพลิกฟื้นวิกฤตภาวะของเมืองไทย

ผมเคยให้สัมภาษณ์พูดคุยในรายการวิทยุรัฐสภา เมื่อครั้งพูดถึง กรณีศึกษา เรื่องราวสมานฉันท์จากแม่ฮ่องสอน ในครั้งนั้นผู้ดำเนินรายการได้พูดคาบเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังตกอยู่ในภาวะความขัดแย้ง การประท้วง การแตกแยกทางด้านความคิด  มีการตั้งคำถามว่า เราจะมีทางออกยังไงให้เกิดสังคมสันติสุข?

 

ในความคิดที่ผมคิดในใจตอนนั้น ก็คิดอะไรไม่ออก จากกรณีศึกษาที่แม่ฮ่องสอน ที่ผมนำมาเล่านั้นก็เป็นเพียงเรื่องราวเล็กๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่เฉพาะ และความสมานฉันท์ในหมู่บ้านเล็กๆเหล่านั้น เห็นจะมีเพียงทุนทางสังคมของพวกเขาเอง ก็คือ ผู้อาวุโส ที่ชุมชนต่างให้ความเคารพ ยำเกรง มาในบทบาท Mediator ของชุมชนและเกิดการยอมรับ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่อไปได้

 

แต่หากเป็นประเด็นของประเทศ...การแตกแยกด้านความคิดที่เจือปนด้วยผลประโยชน์ ความเป็นพวกพ้อง ทั้งอคติอย่างชัดเจนนั่น ทำให้ความต่างของความเป็นหนึ่งเดียว ค่อยๆแตกเป็นเสี่ยงๆ ดูเหมือนไม่มีทางใดๆที่จะเยียวยาสังคมในขณะสถานการณ์ตอนนี้

 

ผมมองว่า "ทุนทางสังคม"  ที่เป็นบุคคล ในสังคมไทย ยังเป็นทางเลือกของการแก้ไขวิกฤตินี้  คนไทยยังให้ความเคารพ และเชื่อฟัง พร้อมกับท่านเหล่านั้นยังชี้นำสังคมไปในทางที่ถูกต้องและควรจะเป็น แต่ทุนทางสังคมเหล่านั้นไม่ได้ขึ้นมาเพียงลำพัง หากแต่รวมตัวกันให้เกิดพลังปัญญา พลังความสามารถเต็มกำลังเพื่อระดมปัญญา ในการพลิกฟื้นวิกฤตภาวะของเมืองไทย

 

แล้วจะทำอย่างไร มีกระบวนการอย่างไร? ที่จะให้ "บุคคล"  อันประกอบด้วยผู้มีทุนทางสังคมเหล่านั้นได้มารวมกัน คิด ทำ พร้อมกับเรียนรู้ระหว่างกัน ผลักดันให้เกิดสิ่งดีๆขึ้นในบ้านเมือง เป็นฐานของพลังความดี ความงาม และปัญญาเพื่อพัฒนา  เป็นสังคมานุภาพ เยียวยา ขับเคลื่อนสังคมต่อไป

 

ผมมีโอกาสที่ดีที่ได้เป็นเบื้องหลังในการอำนวยความสะดวก ในหลักสูตร "การเสริมสร้างสังคมสันติสุข" รุ่นที่ ๑ ของสถาบันพระปกเกล้า ที่ได้รวมเอาคนเก่ง คนดี และทุกท่านมีทุนทางสังคม รวมถึงประสบการณ์ที่เคี่ยวกรำ พลังปัญญาเหล่านั้นจะมาปะทะสังสรรค์กันในการจัดกระบวนการการเรียนการสอนแบบ Case Based มีการระดมสมอง แลกเปลี่ยน จากกรณีศึกษาอันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ผ่านความคิดที่หลากหลาย จากหลากลีลาความคิด พลังจากการเชื่อมต่อความคิด ที่จะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศที่ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เป็นก้าวที่สำคัญของพัฒนาการการพยายามแก้ไขปัญหาวิกฤตความขัดเเย้ง

 

นี่เป็นโอกาสที่ดีของผมด้วยที่มีส่วนร่วมในการอำนวยความสะดวกให้ทุกท่านได้มาร่วมกันเรียนรู้ และผมก็ซึมซับเอาความรู้ ความคิดจากเวที จากการพูดคุยสม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่งจากวิทยากรพิเศษที่เชิญมาบรรยายในแต่ละช่วงเวลา การปฐมนิเทศนักศึกษาหลักสูตร การเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ ๑ ได้ผ่านไปแล้ว ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง

บรรยากาศเรียนรู้ในการปฐมนิเทศ  ณ โรงเเรมสีมาธานี

 

บรรยากาศในการปฐมนิเทศนั้น สามารถติดตามได้จากบันทึกเหล่านี้ครับ

บันทึกของท่าน อัยการชาวเกาะ

บันทึกของ พ่อครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

บันทึกของ  ลุงเอก   ใน บล็อก การเสริมสร้างสังคมสันติสุข

ในส่วนของสถาบันพระปกเกล้า สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล หากท่านใดต้องการข้อมูล รายละเอียด หรือสอบถาม กรุณาสอบถามผ่านหมายเลขโทรศัพท์ ๐-๒๕๒๗-๗๘๓๐ ต่อ ๒๔๐๒  โทรสาร ๐-๒๕๒๗-๗๘๑๙   

 

ในส่วนของนักศึกษาหากต้องการข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อผ่านโทรศัพท์และ อีเมลติดต่อ ของผมได้เลยครับ

 


 

จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

๒ กรกฏาคม ๒๕๕๑

๐๗.๐๐ น.

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 191700เขียนเมื่อ 2 กรกฎาคม 2008 07:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 14:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
  • สันติ + สุข
  • จะเกิดได้ เมื่อ เรา
  • "ได้คิด และ คิดได้" ครับ

ต้องขอบพระคุณรูปภาพสวยๆ กับประโยคงามจาก อาจารย์JJ  ครับ

หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ ๑ เป็นโอกาสให้ "คิด"  และ กระผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการคิดในครั้งนี้เพื่อเยียวยาสังคมให้เกิดเป็นสังคมสมานฉันท์ สันติสุขครับ

อาจารย์ใหญ่...
รศ.ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม

 

สวัสดียามเช้าค่ะ

  • คิดดี ทำดี (คิดสร้างสรรค์ เริ่มทำสิ่งดี หรือทำต่อยอดยิ่งๆขึ้น)
  • ฟังคนอื่นมากขึ้น
  • ยึดเป้าหมาย ร่วมกันฟันฝ่าไปด้วยกันอย่างมีความสุข :)

เห็นหลาย ๆ หน่วยงานในสังคมร่วมด้วยช่วยกันเยียวยาอย่างนี้ สักวันสังคมไทยต้องดีขึ้นแน่นอนครับ...

ขอบคุณครับผม...

สวัสดีค่ะ

* คิดดี ทำดี พูดดี.....เป็นศรีเป็นพรสูงสุด ( พระญาณสังวร)

* อยากได้พรนี้บังเกิดกับเราก็ปฏิบัติได้เลยค่ะ

* เป็นกำลังใจให้ค่ะ

คุณน้อง พิชชา

สวัสดียามเช้าเช่นกันครับ

คิดดี ทำดี พูดดี

เป็นหลักวิธีที่เราพึงเดินทางตามแนวนี้ เพื่อความสมานฉันท์ สันติสุขที่จะเกิดขึ้นในสังคมของเรา

ผมเห็นด้วยครับ เรายึดเป้าหมาย แล้วเราร่วมกันสร้างกระบวนการเรียนรู้เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายนั้น ไม่ยากเลยหากร่วมใจกันครับ

ขอบคุณมากครับคุณน้อง

คนขอนแก่นคงสบายดีทุกท่านนะครับ ฝากความระลึกถึงพี่ อ.แป๋วด้วยนะครับ งานท่านคงหนัก...

ดิเรก Mr.Direct ครับ

ร่วมด้วยช่วยกันครับ

สันติต้องเกิดขึ้นในใจเราก่อน เราก็เพียรฝึกใจเสมอ พลาดบ้าง พลั้งไปบ้าง แต่ก็เป็นธรรมชาติของคนเรา

อย่างไรก็ตามผมเชื่อในความเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีของทุกคน

ปัจเจกที่ดี เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ดีเช่นกัน

ให้กำลังใจในการทำงานครับ

เล่าเรื่องดีมีสาระครับ

นี่แหละหนาคนเป็นนักวิชาการก็เขียนแบบวิชาการ

นักวิชาเกินอย่างผมเขียนบทความวิชาการทีไรออกเรื่องฮาทุกที..อิอิ

สวัสดีครับ สบายดีนะครับ

ผมสรุปนอกประเด็นว่า นายแบบรูปล่างหล่อที่สุด ฮิฮิ

สวัสดีค่ะ

เมื่อครั้งทำงานที่แม่ฮ่องสอน เมืองแห่งผู้คนดี มีแต่สิ่งประทับใจ แปลกใจว่าทำไมพวกเขา(ที่เราได้พบปะ พูดจา อยู่ร่วมกัน) ถึงได้ดีแสนดีอะไรอย่างนี้ มีผู้ใหญ่ที่ทำงาน บอกว่า หนูจ๊ะ ตอนนี้สังคมของหนูยังแคบอยู่ อีกหน่อยถ้าหนูเจอโลกที่กว้างกว่านี้

หนูจะรู้ว่ามันมีอะไรที่มากกว่านี้เยอะ หนูอาจจะไม่พูดอย่างนี้ บัดนี้ เป็นอย่างที่ท่านว่าจริง ๆ ขอพรคุณพระคุณเจ้าดลใจให้มนุษย์ที่ถือว่าเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ได้คิดดี ทำดี และพูดดี ต่อกัน เพราะชีวิตของเรานั้นสั้นลงทุกวันแล้ว ขอให้เวลาที่เหลืออยู่ อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขเถิด

ขอบคุณค่ะ

หวัดดีค่ะ...

ความต่างของความเป็นหนึ่งเดียว

ค่อยๆแตกเป็นเสี่ยงๆ

ดูเหมือนไม่มีทางใดๆที่จะเยียวยาสังคม

ในขณะสถานการณ์ตอนนี้...ได้เลย

วันนี้ผมมีความสุขมากครับน้องเอก

แต่หากเป็นประเด็นของประเทศ...การแตกแยกด้านความคิดที่เจือปนด้วยผลประโยชน์ ความเป็นพวกพ้อง ทั้งอคติอย่างชัดเจนนั่น ทำให้ความต่างของความเป็นหนึ่งเดียว ค่อยๆแตกเป็นเสี่ยงๆ ดูเหมือนไม่มีทางใดๆที่จะเยียวยาสังคมในขณะสถานการณ์ตอนนี้

นี่แหละครับ วิธีคิด 

ระดับประเทศหรือระดับไหนก็แล้วแต่ถ้าเป็นตามนี้ไม่มีทางเยียวยาได้ครับ

ขอให้น้องเอกมีความสุขในการทำงานนะครับ

สวัสดีครับ อ.เอก

เห็นด้วยเรื่องผู้อาวุโสคือ "ทุนทางสังคม"

จริง ๆไม่เฉพาะสังคม แต่เป็นทุนของค์กร เพียงแต่ ผู้อาวุโส ก็ต้องปรับความเป็นทุนที่ตัวเองมีให้เข้ากับสังคมด้วย ไม้งั้นอาจไม่สามารถใช้ประโยชน์ของทุนทางสังคมนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ

พี่และท่านสมคบ กำลังมีโครงการที่เกี่ยวข้อง คือการจัดเวทีสมัชชาสุขภาพ ที่จะต้องนำเอาทุนทางสังคมเหล่านี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อภาวะสุขภาพของประชาชนอย่างสูงสุด

"ศูนย์บริการด้านกายภาพบำบัดอำเภอปาย"เปิดตัวแล้ว 2 ก.ค.51

จะพยายามนำลงบล็อกเร็ว ๆนี้ ครับผม

เสียดายจังที่ไม่ได้ด้วยค่ะ คุณเอก

อัดเสียงการบรรยายมาไหมคะ

ขอฟังได้ไหมคะ ถ้ามี ช่วยเขียนลงแผ่นให้พี่หน่อยค่ะ แปลงเป็น audio ที่ฟังในรถได้ จะเป็นพระคุณค่ะ

ขอบคุณครับ คุณครู นาง พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง)

เป็นโอกาสที่ดี ที่ได้เรียนรู้ร่วมกับ ทุกท่านครับ ลุงเอก  ผมก็พยายามจดประเด็นสำคัญ และความรู้ ประสบการณ์จากทุกท่านมีคุณค่ามากมายเหลือเกินครับ

บันทึกดี บันทึกวาไรตี้ สไตล์วิชาการปนเบาสมอง ต้องของท่าน อัยการชาวเกาะ  ครับ...ขอบคุณสำหรับรูปภาพที่เขียนใน CD.มาให้ครับผม

สวัสดีครับ พ่อครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์  ช่วง 4-5 ก.ค.นี้ มีประเด็นที่น่าสนใจ เสียดายที่พ่อไม่ได้เข้าร่วมเรียนในครั้งนี้ สัปดาห์หน้าอย่าพลาดนะครับผม  ติดตามอ่านจากบันทึกของท่านอัยการได้ครับ

ท่าน    จารุวัจน์
ผมถือว่าเป็นคำพูดที่จริง และตรงอย่างที่สุดครับ :)

ครูร่มไม้กลางดอย  หากเราตระหนักแล้วว่าชีวิตนั้นแสนสั้น เราควรเร่งทำความดี

เป็นกำลังใจให้ครูนะครับ ผมติดตามอ่านบันทึกครูเสมอครับ

สวัสดีครับ คุณwindy  หลักสูตรนี้กำลังเป็นคำตอบ นั้นของสังคมที่กำลังมีปัญหาครับผม

พี่ สิทธิรักษ์  ยินดีที่ได้ทราบว่าพี่มีความสุขครับ ผมเองก็มีความสุขเช่นเดียวกันครับผม

สวัสดีครับพี่หมอรอนMr. Kraton Pai 
ผมดีใจที่ได้ยินเรื่องราวดีๆจากบ้านเกิดผมครับ เมืองปาย ผมคิดถึงเสมอ ขอพี่หมอช่วยบันทึกนำเสนออย่างต่อเนื่องนะครับ

สวัสดีครับ อ.แหวว archanwell

ในส่วนเอกสาร รวมไพล์เสียงนั้น เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ดูแล ผมจะสอบถามให้ครับผม ส่วนหนึ่งอาจารย์ติดตามอ่านได้จาก บันทึกของท่านอัยการชาวเกาะได้ครับผม

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท