Tag คิด(ไม่)ถึง: ลึกกว่าข้อความคือความคิด มีค่ากว่าความคิดคือการกระทำที่ถูกต้อง


คือว่าผมโดนกระรอกที่ผมเผอิญไปชี้โพรงให้ tag คิด(ไม่)ถึง ครับ [กติกา] แต่ปัญหาคือว่า tag คิด(ไม่)ถึง มีนัยอะไรกันแน่ คิดว่าไม่เป็นเพียง tag คิดถึงแบบดั้งเดิม แต่มีเรื่องที่คิดไม่ถึง ด้วย 

ก็แล้วทำไมถึงจะต้องมีเรื่องที่คิดไม่ถึงล่ะ อันนี้คงเป็นเพราะเมื่อเราอ่านบันทึกไปมากๆ จนทึกทักไปเองว่ารู้จักความคิดความอ่านบล๊อกเกอร์ท่านนั้นดี แต่ในที่สุดก็จะพบว่าบล๊อกเกอร์เป็นคน ไม่ใช่หุ่นยนต์ มีความซับซ้อน มีหลายมิติ อันเป็นที่มาของอาการประหลาดใจ

ความหลากหลายของ GotoKnow ทำให้สังคมแห่งนี้น่าสนใจ และมีเรื่องให้เรียนรู้ตราบใดที่ยังอยากเห็นสิ่งที่แตกต่างออกไป -- เมื่อมาเล่นเกมนี้ ไม่แน่ว่าผู้ที่โดน tag อาจคิด(ไม่)ถึงมากกว่าผมก็ได้ครับ เพราะผมไม่ค่อยทิ้งร่องรอยไว้ว่าตามอ่านบล๊อกของท่านเหมือนกัน

กัลยาณมิตรท่านหนึ่งส่งหนังสือมาให้ มีข้อความตอนหนึ่งที่ผมชอบคือ

ความสุข

        ความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา  แต่ความปรารถนาเพียงอย่างเดียวจะไม่ทำให้สมหวังได้ หรือแม้แต่ลงมือกระทำเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งความสุข แต่ถ้าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องก็พบความสุขไม่ได้เช่นกัน
       ท่านชาคโร ได้เล่าประสบการณ์ขณะที่ท่านปฏิบัติธรรมอยู่กับท่านอาจารย์ชา สุภัทโท ไว้ว่า
       "หลวงพ่อชา เป็นตัวอย่างของผู้ที่มีความสุขมีความเบิกบานในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ หลวงพ่อไม่หวังจะได้อะไรจากคนอื่น ไม่พยายามควบคุมอะไรหรือกำหนดเงื่อนไขใดๆ อาตมาเคยคาดหวังให้หลวงพ่อควบคุมดูแลทุกอย่างเข้มงวด คอยดูแลพระเณรให้รักษาวินัย แต่หลวงพ่อไม่เคยยึดติดกับมัน แล้วไม่เคยปฏิเสธใครด้วย พระเณรไม่มาทำวัตรนั่งสมาธิตามเสียงระฆัง หลวงพ่อก็ยินดีจะทำเองรูปเดียว"
       ดังนั้นการที่จะทำให้ตนเองมีความสุข สิ่งสำคัญคือ ไม่หวังอะไรจากคนอื่น และไม่พยายามควบคุมอะไรเพื่อทำให้ตนเองมีความสุข

วิถี...แห่งปัญญา นิกายเซน โดย รศ.ดร.บุญชัย จงกลนี, หน้า 91              

ท่านแรกที่อยาก tag คิด(ไม่)ถึง และรู้สึกยินดีอย่างที่สุด ที่มีคนแบบนี้ในสังคม GotoKnow คือคุณประดิษฐ์ เจริญสุข (สุดทางบูรพา) จากบันทึกไปโอนเงินผ่าน ATM ครั้งแรกครับ

"ที่ผมเล่าเรื่องนี้คงไม่ได้หวังจะประกาศตัวว่าเป็นคนดีอะไรนะครับ แค่ผมสามารถทำตามความตั้งใจของผมได้แค่นั้นเอง แม้มันจะเป็นเงินเพียงเล็กน้อยแต่สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อยอย่างผมมันก็ มีค่าพอสมควร และผมอยากตอบแทนสังคมแห่งนี้ที่เข้ามายึดเหนี่ยวดูดเอาความรู้และความรู้ สึกดีๆต่างๆออกไป ขอบคุณสังคม gotoknow ครับ"

ผมคิดว่าคุณสุดทางบูรพา เป็นคนที่มีความสุข เป็นคนที่ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มีศรัทธาในสังคม และมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ต้องการการรับรู้-ยกย่อง กระทำในสิ่งที่รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำ แต่ก็มีสติพอที่จะไม่เบียดเบียนตัวเองเช่นกัน ไม่เพียงแต่คิดดี แต่ลงมือกระทำด้วย 

คุณสุดทางบูรพาแห่งสำนักงานเกษตรจังหวัดตราด กรมส่งเสริมการเกษตร คุณยอดจริงๆ ขอ tag ครับ

มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งชื่อ คิด เห็น เป็น ชีวิต เป็นหนังสือที่แปล/เรียบเรียงโดย ปลายฟ้า จากหนังสือชื่อ As A Man Thinketh ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ.2445 กว่าร้อยปีมาแล้ว ความตอนต้นบทที่ 4 ว่า

        ตราบใดที่ความคิดมิได้ถูกโยงเข้ากับจุดมุ่งหมาย ตราบนั้นปัญญาหรือความสำเร็จที่แท้จริงก็ยังไม่เกิด คนจำนวนมากปล่อยกระแสความคิดให้ล่องลอยไปในมหาสมุทรแห่งชีวิต การขาดจุดหมายคือความเลวร้ายชนิดหนึ่ง ผู้ที่ไม่ต้องการพบกับหายนะหรืออันตรายต้องไม่ปล่อยให้เรือของชีวิตตนล่องลอยไปอย่างปราศจากจุดหมาย
        ผู้ที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจนในชีวิตย่อมตกเป็นเหยื่ออันง่ายดายของความกังวล ความกลัว เรื่องยุ่งยากใจและความสงสารตนเอง ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องชี้วัดความอ่อนแออันนำไปสู่ความล้มเหลว สูญเสียและเป็นทุกข์ ซึ่งแม้จะเกิดจากสาเหตุที่ต่างกันแต่ก็ให้ผลเช่นเดียวกันกับการทำชั่วที่วางแผนมาอย่างดี เพราะความทนทานอยู่ได้ในจักรวาลที่ขับเคลื่อนและวิวัฒน์ด้วยพลัง


Until thought is linked with purpose there is no intelligent accomplishment. With the majority the bark of thought is allowed to "drift" upon the ocean of life. Aimlessness is a vice, and such drifting must not continue for him who would steer clear of catastrophe and destruction.

They who have no central purpose in their life fall an easy prey to worries, fears, troubles, and self-pityings, all of which are indications of weakness, which lead, just as surely as deliberately planned sins (though by a different route), to failure, unhappiness, and loss, for weakness cannot persist in a power-evolving universe.

โดยทั่วไป เวลาผมอ่านบันทึกและความคิดเห็น มักจะมองหาแก่นของข้อความนั้นๆ เจอบ้าง ไม่เจอบ้าง แต่มีอยู่บันทึกหนึ่งที่มึนตึ้บไปกับภาพประกอบครับ (ที่จริงคำบรรยายภาพในบันทึกชัดเจนอยู่แล้ว)

   

ผมไม่เคยสงสัยหรอกครับว่าเป้าหมายของการผ่าตัดคือความปลอดภัยของคนไข้และความสัมฤทธิผลของการผ่าตัด แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าระหว่างรอ (ถ้าต้องรอ) นั้น ทั้งแพทย์และพยาบาลทำอะไรกัน คุยอะไรกัน 

การเดินทางสู่เป้าหมายนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วพริบตา ระหว่างที่ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์นั้น ควรทำอะไรเพื่อไม่ให้เบื่อหรือล้า

บันไดยังต้องมีชานพักบันได

แล้วถ้าเป้าหมายนั้น ยิ่งใหญ่ ยากเย็น และใช้เวลายาวนาน (ตอนแรกจะใช้คำว่า ยาวยาน แต่รู้สึกว่าเป็นคำประหลาดไปหน่อย) ระหว่างทาง จะทำอะไรดีครับครูบา 

จากบันทึกศิลปะ...ขณะเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ...เคยเห็นมั้ยคะ [บันทึกนี้ มีเรตติ้ง "ฉ" ไม่เหมาะกับเด็ก เยาวชน และคนกลัวเลือด] จึงขอ tag คุณกฤษณา สำเร็จ (พี่ติ๋ว) แบบไม่กระแทกครับ -- ผมเห็นว่าบันทึกนี้น่ารักดี เอาเศษปูนที่เหลือมาปั้นและระบายสีในระหว่างที่รอปูนข้อเข่าเทียมซึ่งใส่ไปแล้วแห้ง (แทนที่จะทิ้งไปเปล่าๆ) การผ่าตัดใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง รายละเอียดอยู่ในบันทึกครับ

ต้นบทที่ 31 จากหนังสือ ต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้ ของบัณฑิต อึ้งรังษี

31. กระสุนนัดเดียว ต้องโดน
       Limited Bullets

ผมทำงานหนักเพราะอยากให้ผลงานของผม Top Quality

เมื่อใดที่ผมยืนหน้าวงออร์เคสตร้าวงไหนเป็นครั้งแรก ต้องเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ เพราะโอกาสของเราอาจจะมีแค่ครั้งเดียว

เพราะงานที่ผมได้รับโอกาสอยู่นั้นมีคนจ่อคิวต่ออยู่ยาวเหยียด หากผลงานของผมไม่ดีพอ ผมก็อาจจะพลาดงานในครั้งต่อไป

ผมไม่ได้มาจากคนที่มีเส้น มาจากประเทศเล็กๆ โอกาสที่มีจึงถือว่าน้อยกว่าเขา แถมยังมีอคติเรื่องสีผิวมาเกี่ยวอีก

เรามีกระสุนแค่นัดเดียว นัดนั้นต้องโดน

เพราะฉะนั้น  เมื่อมีโอกาสเราจะต้องเอาประโยชน์จากโอกาสนั้นให้เต็มที่ การเตรียมพร้อมของผมจะต้องดีที่สุดเท่าที่ผมทำได้ในเวลานั้น

ในตอนที่เริ่ม GotoKnow นั้น ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย ยังไม่มีสมาชิก ไม่มีการประชาสัมพันธ์ แต่มีความมุ่งมั่น มีความเชื่อมั่น มีความรักในสิ่งที่ทำ ทำแม้ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่

อาจารย์จันทวรรณได้เขียนไว้ในบันทึกแนะนำตัวเองลงหนังสือเฮฮาศาสตร์ตอนหนึ่งว่า "ย้อนไปอ่านบันทึกแรกสุดของ GotoKnow http://gotoknow.org/blog/tutorial/1 แล้วหันมามองวันนี้รู้สึกว่า คุ้มอีกแล้วกับการอดตาหลับขับตานอน"

อยากเรียนอาจารย์ว่า   ก ร ะ สุ น นั ด นั้ น   โ ด น แ ล้ ว ค รั บ 

ใช่ครับ ผมอยาก tag อาจารย์จันทวรรณ แต่เนื่องจากอาจารย์มีัภาระกิจสำคัญมาก คงจะยังปลีกเวลามาไม่ได้...

ก็เลยหาเอาง่ายๆ คือ tag อาจารย์ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ครับ

เป็นเรื่องยากมากในการสร้างซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนให้ใช้งานได้  เป็นเรื่องยากกว่าที่จะทำให้ผู้ใช้ยอมรับและใช้งานได้สะดวก แต่มีที่ยากกว่านั้นอีก คือการรักษาความสำเร็จอันนั้นเอาไว้โดยปรับปรุงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ยังมีที่ยากยิ่งกว่า"ยากกว่า" คือการหาจุดสมดุลระหว่างการเป็นในสิ่งที่ผู้อื่นคาดหวังกับการเป็นตัวของตัวเอง (ทำในสิ่งที่เชื่อ ทำในสิ่งที่รัก)

ส่วน superative degree "ยากที่สุด" นั้น คือการสละตนเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น 

ผมว่าสมาชิกคงเห็นอย่างที่ผมเห็นเหมือนกันครับ 

== บันทึกนี้ น่าจะเป็นบันทึกแห่งวงเล็บ ==  

หมายเลขบันทึก: 160834เขียนเมื่อ 22 มกราคม 2008 23:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)
  • มายิ้มๆๆ
  • แต่ละท่านคุณภาพมากๆๆ
  • ชอบๆๆโดยเฉพาะข้อความภาษาอังกฤษ
  • ชอบภาษา
  • ทำไมดวงถึงเป็นเอกพจน์และเป็นอาบัติกับสตรีเพศ
  • อิอิอิอิ
  • ท่านอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ กล่าวว่า
  • "ชีวิตของเราเหมือนกับภาชนะที่ว่าง ถ้าหากเราไม่สนใจไม่ตั้งใจในการฝึกฝนอบรมตนเอาแต่ของไม่สะอาดใส่ไปในกาย วาจา ใจของเรา ชีวิตของเราก็เป็นภาชนะว่างที่เรียกว่า กระโถน  แต่หากเราฝืนกิเลสของตนเอง ไม่ทำตามกิเลส สนใจในการที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตด้วยธรรม ทำให้ชีวิตเบิกบานโดยคุณธรรม มันก็เหมือนกับว่าเราตั้งภาชนะนี้ไว้ในที่ดีแล้วเอาดินใส่ เอาต้นไม้ใส่ รดน้ำพรวนดิน เสร็จแล้วภาชนะนี้จะเรียกกระโถนไม่ได้ ต้องเรียกมันว่า กระถาง"
  • ขอบคุณครับ

ชอบข้อความตรงนี้ค่ะ

การที่จะทำให้ตนเองมีความสุข สิ่งสำคัญคือ ไม่หวังอะไรจากคนอื่น และไม่พยายามควบคุมอะไรเพื่อทำให้ตนเองมีความสุข

รู้สึกว่า กระทบใจตัวเองอย่างจัง เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่เคย ที่ทำดีแล้วต้องการผลตอบแทน ไม่หวังเลย

แต่ผลของการกระทำ มันกลับบูมเมอแรงมาหาเราเอง อย่างน่าชื่นใจค่ะ (หมายถึงเรื่องส่วนตัวค่ะ)

อาจารย์ขจิต: แหม มาแบบรวดเร็วตามเคย ขอบคุณนะครับ

หนังสือ As a man thinketh แต่งโดย James Allen เมื่อปี 1902 น่าอ่านมากครับ หนังสือนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับการปรับปรุงตนเองเล่มแรกของโลก 

เนื่องจากผู้แต่งเสียชีวิตมานานแล้ว หนังสือเล่มนี้จึงมีลิขสิทธิ์อยู่ใน public domain หนังสือเปิดขึ้นด้วยโคลงที่ว่า 

Mind is the Master power that moulds and makes,
And Man is Mind, and evermore he takes
The tool of Thought, and, shaping what he wills,
Brings forth a thousand joys, a thousand ills:—
He thinks in secret, and it comes to pass:
Environment is but his looking-glass.

พี่ศศินันท์: เมื่อให้อะไรใครโดยบริสุทธิ์ใจแล้ว สิ่งที่ให้ไปแล้ว ก็ได้ให้ไปแล้วใช่ไหมครับ ดังนั้นมันก็ไม่แปลกว่าผู้รับจะชื่นชมยกย่องตัวเราหรือไม่ ถ้าเรายังกังวลอยู่ ก็อาจไม่ใช่การให้โดยบริสุทธิ์ใจ เผลอๆ อาจจะไม่ได้ "ให้" อะไรใครไปเลย เพราะมันยังอยู่ในใจเรานะครับ

คุณสุดทางบูรพา

ผมชื่นชมความเป็นคนมีน้ำใจของเขาครับ ประทับใจมากก็บันทึกที่ท่าน Con ยกมานั่นหละครับ ตรงนั้นเองเป็นการถ่ายทอดที่ตรงไปตรงมา ด้วยความต้องการที่จะให้กับสังคมอย่างไม่คิดจะมีสิ่งตอบแทน

ต่อมาคุณสุดทางฯได้ส่งของบริจาคมาช่วยพี่น้องทางเหนือ เป็นอุปกรณ์การเรียน และอื่นๆ ซึ่งผมก็คิดว่ากล่องหนึ่งที่ส่งมานั้น มากด้วยน้ำใจ และความตั้งใจ ผมจึงมีความสุขมากที่สุดที่ได้รับของบริจาคจากเขา

ขอบคุณสำหรับคนดีๆที่อยู่ใน Gotoknow

 

สวัสดีค่ะคุณ Conductor

กระรอกมากราบขอบพระคุณสำหรับ Tag คิด ( ไม่ ) ถึง ที่น่ารักเหลือเกิน Tag นี้ค่ะ ^ ^

เบิร์ดชอบที่สุดคือการขยายนัยยะเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น..เพราะบล็อกเกอร์ไม่ใช่หุ่นยนต์ มีความซับซ้อน มีหลายมิติ แง่งามของความคิด การกระทำจึงเป็นสิ่งที่ควรชื่นชมและบอกกล่าวเพื่อเรียนรู้ร่วมกันอย่างยิ่งเลยนะคะ และบล็อกเกอร์ทั้ง 3 ท่านก็น่ารัก น่าทึ่ง น่าคิดถึงด้วยความคาดไม่ถึงจริงๆ

เป็น Tag คิด ( ไม่ ) ถึงที่แสดงถึงความตั้งใจจริง ปราณีต อ่อนโยนพร้อมการให้กำลังใจของผู้ Tag ได้อย่างชัดแจ้งนักค่ะ

ขอบพระคุณสำหรับพื้นที่ดีๆ เล็กๆในสังคมที่ผู้สร้างทุกคนตั้งใจจะให้เป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ร่วมกันในทุกมิติอย่างสร้างสรรค์พื้นที่นี้นะคะ

 

What is a friend? A single soul dwelling in two bodies. -- Aristotle

การมีกันและกันท่ามกลางโลกเสมือน...  อย่างน้อยก็ช่วยทำให้เรารู้ว่า...ยังมีสิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงเนาะคะ

^                                ^

 

 เข้ามาอีกครั้ง เพราะรู้สึก อยากจะเขียนว่า....

ขอให้กำลังใจ อาจารย์ธวัชชัยฯ เป็นพิเศษค่ะ

เพราะ บางที โดนใจกับประโยคนี้ค่ะ....

ในตอนที่เริ่ม GotoKnow นั้น ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย ยังไม่มีสมาชิก ไม่มีการประชาสัมพันธ์ แต่มีความมุ่งมั่น มีความเชื่อมั่น มีความรักในสิ่งที่ทำ ทำแม้ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่

เป็นอะไร ที่มากระทบกับ valueส่วนตัวของตัวเองค่ะ

และที่จะเขียนต่อไปนี้ ไม่ได้ มายกยออะไรนะคะ เพราะตัวเอง ก็ไม่ใช่คนปากหวานเลย เขียนตามความรู้สึกจริงๆ....

เท่าที่ดูมาตลอด อาจารย์มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท  และใช้พลังที่มีอยู่ในตัว มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายที่ชัดเจน และยังคงจะมุ่งไปในเป้าหมายนั้น ไม่ท้อถอย

 ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ เกิดขึ้นก็ตาม

เท่าที่ประสบตลอดมา   บุคคลที่จะประสบความสำเร็จหรือทำงานได้สำเร็จนั้น จะต้องมีทั้ง Energy และ Focus อยู่ในตัว แต่ถ้าขาดด้านใดด้านหนึ่ง  ย่อมจะส่งผลการทำงานมีปัญหาได้

และ  ตามสถิติ  บุคคลที่มีลักษณะที่มีระดับของ Energy และ Focus ที่สูงนั้น

มีอยู่เพียงร้อยละ 10 ของคนทำงานทั้งหมด และคนกลุ่มนี้ก็คือ กลุ่มคนที่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในงาน

 เนื่องจากมีความมุ่งเน้น มีเป้าหมาย และทิศทางที่ชัดเจน รวมทั้งมีพลังงาน ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นในการที่จะทำงานให้ลุล่วงไปให้ได้

ดิฉันคิดว่า    อ.จ.ธวัชชัยฯ เป็นผู้ที่มีคุณสมบัตินี้ค่ะ 

พอบอกพี่ติ๋วว่าคุณ Conductor tag พี่แกตื่นเต้นประหนึ่งว่า "เจย์ โชว์" แท็กก็มิปาน และได้คุยกันเรื่องการเขียนบันทึกว่าการนำเสนอความรู้ใดๆ ไม่จำเป็นจะต้องกลั่นมาแต่วิชาการล้วนๆ ถ้าแบบนั้นน่าจะนำไปเขียนเป็นพวกบทความทางวิชาการมากกว่า ซูซานเองก็ชอบทั้งเขียนและอ่านบันทึกที่มีสาระแต่ไม่ซีเรียส มีวิธีการนำเสนอที่ดึงดูดใจ และไม่ยากจนผู้อ่านต้องปีนบันไดขึ้นไปค่ะ ทุกแขนงวิชาชีพล้วนมีอะไรที่ต่างออกไป การได้รับรู้สิ่งที่แต่ละคนทำหรือประสบการณ์ของเขา บางครั้งก็เป็นความรู้ใหม่ๆ เกินกว่าที่เราคาดถึง

ชอบบทโคลงขึ้นต้นของ As a man thinketh จัง เดี๋ยว print มาอ่านดีกว่า ขี้เกียจอ่านบนจอสีเข้มๆ เมื่อยตา ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆ ให้ค่ะ แล้วที่บอกจะเขียนอีกอันล่ะคะ ทวงๆ

ปล. วันนี้กินไข่เจียวสมุนไพร ไม่ได้กินถั่วงอก : )

เขียนต่ออีกหน่อยค่ะ ยังไม่จบ พอดี ต้องรีบออกจากบ้านมา ตอนนี้เปลี่ยนสถานที่เขียนแล้วค่ะ

อยากเขียนถึงคุณติ๋วนิดนึงคะ

คุณติ่วเป็นคนมีอารมณ์ขันนะคะ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ใครๆก็อยากมีค่ะ

มาที่บ้านลูกชาย มีหนังสือมากมายให้อ่าน แต่ที่อ่านสนุกเล่มหนึ่งคือ เรื่องของ  วอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าพ่อวงการหุ้นของโลก

ซึ่งเป็นคนไม่เครียด  มีอารมณ์ขันเวลาที่พูดเกี่ยวกับเรื่องของการลงทุน และคำพูดต่างๆ เหล่านั้น  มักจะซ่อนแนวความคิด และปรัชญาที่ลึกซึ้งอยู่เสมอๆ

เป็นตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นว่า คนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสิ่งเครียดๆไมว่า จะเป็นเรื่องเงินๆทองๆ หรือเรื่อง ที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วย ไม่จำเป็น   ต้องเป็นคนเครียดไปด้วย ซึ่งจะยิ่งทำให้ สถาณการณ์หรือบรรยากาศโดยรวม ยิ่งอยู่ในภาวะ ตึงเครียดยิ่งขึ้นนะคะ

ชอบอ่านเรื่องของคุณติ๋วค่ะ อ่านไป ยิ้มไป ค่ะ อิๆๆๆ  

  • เข้ามาอมยิ้มค่ะ
  • อ่านงานของทุกท่านที่โดนเทค อยู่เสมอ ชอบการนำเสมอที่แฝงด้วยแง่คิด แถมอ่านแล้วยังแอบยิ้ม
  • ที่จริงอ่านบันทึกทุกรูปแบบค่ะ
  • ที่หนักๆก็อ่านแต่ไม่กล้าฝากข้อความ
  • กลัว...อิอิ
  • เข้ามาแบบคิดไม่ถึงเช่นกันครับ
  • อิอิ
แวะเข้ามาทักทายว่า....ขอบคุณทุกๆท่านที่กล่าวคิดถึงกันค่ะ....เดี๋ยวนะคะ...กลับถึงบ้านก่อน  แล้วจะมาเขียนเพิ่มอีก.....ฝากไว้กับ(อ้อมอก)คุณ conductorก่อนค่ะ....

อ่าน Tag คิด(ไม่)ถึง แล้วต้องอ่อนใจ  ผมเป็นคนคิดสร้างสรรค์แบบไม่เป็นระบบ  แถมสื่อออกมาเป็นตัวหนังสือก็ไม่เป็นระบบอีก 

อันนี้เป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวห้ามเลียนแบบ  อาจจะไม่ปลอดภัย 

แถมเจอวงเล็บปีกช้างที่ใหญ่กว่าปีกกา   ของคุณ Conductor แล้วยังไม่พอ  มาเจอผู้ที่เขียนเป็นระบบอีกหลายๆท่านตามมา  คนสมาธิสั้นอย่างลุงเอก อ่านไม่ใหวครับแต่ก็พยายามอ่าน

ช่วงนี้จิตใจหายไปเยอะเลยตัวหนังสือหายจากบล็อกไป  ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบเดือน  ขอบคุณที่สร้างระบบประเมินตัวเอง  ไปดูครูบาท่านบันทึกทุกวันเลย น่าอิจฉาจริงๆ

สวัสดีครับทุกท่าน

        ทุกๆท่านน่ารักมากๆ เลยนะครับ เรามีผู้ใหญ่ใจดีในชุมชนนี้ กันหลายๆ ท่านเลยนะครับ เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ที่ได้พบเจอ ได้รู้จัก แ้ม้ไม่เคยเจอตัวจริงๆ แต่ความจริงใจส่งผ่านถึงกันโดยที่ไม่ต้องเห็นตัวจริง แค่คิดถึึึงก็ถึง แม้ไม่คาดคิด ยังถึงเลยครับอิๆๆ

        ขอบพระคุณทุกๆท่านครับ

นับถือทุกๆ ท่านครับ

เม้ง 

ขอบคุณพี่ติ๋วที่กรุณามารับ tag + กองเชียร์และแฟนคลับของผู้ที่ถูก tag + กัลยาณมิตรทุกท่าน ผู้ร่วมชะตากรรม ตลอดจนกระรอกต้นเรื่องที่แวะมาเยี่ยมเยียนด้วยครับ ผมแจ้งผู้ที่ถูก tag ด้วยอีเมลทุกท่านแล้วครับ

ต้องขออภัยลุงเอกเรื่องวงเล็บด้วยครับ ในขณะที่กำลังเขียน ผมรู้ตัวว่าไม่ใช่วิธีการเขียนที่ดี แต่ก็ใส่ลงไปโดยเจตนาให้ล้อกับ tag คิด(ไม่)ถึง  เขียนเอามันตามสไตล์บล๊อกตามใจฉันครับ

เกม tag คิด(ไม่)ถึง นี้ เป็นเกมที่สนุก เป็นแบบฝึกหัดที่ดีที่ช่วยให้เราไม่อ่านคนอย่างผิวเผิน แต่มองลึกลงไปถึงแรงบันดาลใจ ถึงเหตุผลในการเขียนบันทึกนั้น จะผิดหรือถูกไม่สำคัญหรอกครับ เพราะมันเป็นแบบฝึกหัด อาจจะช่วยให้เข้าใจ "ตัวตน" มากขึ้น

ส่วนชื่อเสียง รูปถ่าย หน้าที่การงานที่อยู่ในหน้าประวัตินั้น บอกอะไรได้บางอย่างจริงๆ แต่เป็น "ตัวตน" พอๆ กับการยื่นนามบัตร แล้วคิดว่ารู้จักกันมานานปีล่ะครับ

สวัสดีค่ะ คุณ Conductor

  • ก่อนอื่นต้องบอกว่าตื่นเต้นอย่างน้องซูซานว่าไว้จริงๆค่ะ...นี่มือไม้เย็นเฉียบหมดแล้ว...อิ...อิ.... 
  • ....ขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ ที่กรุณากล่าวบรรยายถึงงานที่ดิฉันทำ....จนเห็นภาพลึกๆที่ซ่อนอยู่...ที่แม้กระทั่งผู้บันทึกอย่างดิฉันเองก็ไม่สามารถวิเคราะห์และถ่ายทอดออกมาให้ปรากฏเป็นภาพที่ชัดเจนดังที่คุณกล่าวไว้ได้.....นับเป็นวาสนาของดิฉันและทีมทำงานในห้องผ่าตัดโดยแท้
  • .....สรุปว่า....สิ่งที่ท่านวิเคราะห์จากบันทึกของดิฉันได้อย่างสวยงามนั้น  หาใช่ฝีมือของผู้บันทึกอย่างดิฉันไม่....กลายเป็น(สุดยอด)ฝีมือของผู้ค้นหาเช่นท่านค่ะ....
  • ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

เรียน คุณพี่Sasinanda ค่ะ

  • ขอบพระคุณคุณพี่ค่ะ  ที่ยังคงให้กำลังใจคนทำงานในห้องผ่าตัดด้วยดีอยู่เสมอมา

สวัสดีค่ะ คุณ เบิร์ด

  • ขอบคุณที่ได้จุดไฟแห่งการค้นหา....ทำให้ดิฉันได้เริ่มต้น พยายามค้นหาตัวตนที่แท้จริงของคนบางคนมากขึ้น...มากกว่าที่ดิฉันรู้สึก  สัมผัสไปเองอย่างผิวเผิน...

สวัสดีค่ะ คุณน้องLittle Jazz \(^o^)/

  • แม่น้องเล็ก  แก้มยุ้ยซูซานของฉัน...ที่แม้พบกันในช่วงเวลาอันแสนสั้น  แต่ด้วยความที่น้องเป็นคนที่เปิดเผยและสม่ำเสมอเหลือเกินจึงง่ายสำหรับพี่ในการพูดคุยอย่างเปิดอก   และขอบคุณที่มีมิตรภาพที่ดีให้พี่อยู่เสมอมา

......ขอบคุณ  G2K และกัลยาณมิตรชาว G2K ที่มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในบันทึกต่างๆเชิงสร้างสรรค์  เชิงบวก...ที่เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ดิฉันรู้สึกว่าได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ  ได้ข้อมูลด้านดีป้อนตัวเองอยู่เสมอ......

....และที่สุด ขอขอบคุณคุณ Conductor อีกครั้งค่ะ  ที่เปิดเวทีให้ดิฉันได้แสดงความรู้สึกที่ดีเช่นนี้ออกมาเช่นกัน

                                                                                 ขอบคุณค่ะ

                  

....อ้อ....ลืมลงชื่อใน

                                         จากน้องติ๋ว.

เป็นความล้มเหลวในการกระชากวัยด้วยกันทั้งคู่ ผมเช็คกับคุณซูซานแล้วเชียวนะ งั้นเป็นคุณติ๋วกับคุณ Conductor ดีกว่าครับ ไม่ทำร้ายจิตใจของกันและกัน เดี๋ยวจะส่งอายุจริงไปให้ทางอีเมลครับ

เรื่องบางเรื่อง คุ้นเคยจนเป็นเรื่องธรรมดา -- เวลาอ่านหนังสือ ใกล้เกินไปก็อ่านไม่ออกนะครับ

สวัสดีค่ะคุณ conductor

: D  อ่านแล้วนั่งอมยิ้มหน้าจอคนเดียวไม่ไหว โดยเฉพาะข้อคิดเห็นอันข้างบนนี้ ต้องขอแจมสักหน่อย 

สนับสนุนทุกท่านที่ถูก Tag ค่ะ เป็นแฟนอ่านของทุกๆ คน แต่ที่เยี่ยมชมเป็นประจำถ้าเจ้าของ blog มีเวลาเขียนคือพี่ติ๋วค่ะ โดยเฉพาะอันที่เีขียนเล่าเรื่อง +ภาพในห้องผ่าตัดก็จะยิ่งชอบดูชอบอ่านค่ะ

เชียร์ทุกคนเลยค่ะ ^ ^ 

  • สวัสดีครับท่านอาจารย์
  • ได้รับเรียบร้อยแล้วครับ
  • ตอนนี้ส่งออกมาแล้ว  1 ท่าน
  • อยากให้ท่านอาจารย์ได้อ่านเหมือนกันครับว่าใช่ Tag คิด(ไม่)ถึง หรือเปล่า
  • แต่ขอขอบคุณมากครับที่เปิดเวทีนี้ให้ผมได้มีส่วนร่วม
  • เชิญชมครับ http://gotoknow.org/blog/xpradit/161027
  • ขอบคุณครับ

แวะมาบอกว่าได้รับทุกๆอย่างที่คุณConductorส่งมาให้แล้วค่ะ....

  • เป็นความล้มเหลวของดิฉันเองที่ไม่สามารถหลอกเด็กอย่างคุณได้...อิ...อิ...  ทั้งๆที่หลอกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในห้องผ่าตัดได้อยู่เสมอค่ะ
  • .....ว่าแล้วเดี๋ยวไปนอนคิด...หาเรื่อง"ไร้สาระ"มาเล่าให้คนมีสาระอ่านวิเคราะห์ดีกว่า...ท่าทางจะสนุกแฮะ...อิ...อิ....

                                                                              พี่ติ๋ว.

อาจารย์ตุ๋ย: ที่จริงผมมีสต็อคอยู่บ้างเผื่อว่าจะโดนอีกครับ แค่นี้บันทึกก็ยาวไปแล้ว -- นี่ถ้าโดนอีกรอบ คงใช้เวลานานเป็นอาทิตย์เลยครับ ช่วงนี้คิวทอง งานเยอะมาก

คุณสุดทางบูรพา: อย่างเรียกผมเป็นท่านอาจารย์เลยครับ ไม่ได้เป็นท่าน และไม่เป็นอาจารย์ด้วยครับ สงสารลูกศิษย์ ขอบคุณที่ร่วมสนุกนะครับ 

พี่ติ๋ว: ยังเหลืออาจารย์ธวัชชัยอีกท่านหนึ่ง ซึ่งได้ขออนุญาตก่อน tag แล้วครับ เมื่อวานอาจารย์มากรุงเทพ และกลับไปเมื่อเย็นนี้ ตอนนี้คงงานท่วม แต่ผมจะตามจนกว่าจะมารับ tag หรือเขียนบันทึกครับ อืม น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย 

มารับ tag อย่างรวดเร็วแล้วไปวิ่งต่อครับ ช่วงนี้ผมกำลังวิ่งร้อยเมตรในหลายสนามครับ :-)
โชคดีชะมัดเลยเรา...แอบมาเห็นตอนคุณ Conductor ส่งไม้ให้ อ.ธวัชชัยพอดี...  แต่อ.ธวัชชัยจะแอบเอาไปส่งให้ อ. จันทวรรณต่อมั้ย.....คงไม่น้า...ไม่งั้นจับปรับแพ้นะคะ...อิ...อิ...
 กระผมเข้ามาเรียนรู้ จึงได้รู้ว่ามากกว่าคิดถึง คือ คิด(ไม่)ถึง ที่มีอยู่ในทุกๆท่าน อ่านแล้วคิดถึงครับ (โดยเฉพาะหัวเรื่อง"คิด(ไม่)ถึง: ลึกกว่าข้อความคือความคิด มีค่ากว่าความคิดคือการกระทำที่ถูกต้อง อ่านแล้วบาดลึกจังเลยครับ)

ขอบคุณเหยื่อทุกท่านนะครับ ผมหมดภาระแล้วหลังจากลุ้นแทบตาย

ทุกเรื่องราว ทุกความคิดเห็น มีมุมให้ผู้อ่านแสวงหาเสมอ (ถ้าอยากแสวงหา) อยู่ที่ว่าเราจะหาเจอหรือไม่; ทั้งเรื่องที่ดี สาระ แง่คิด เป็นลักษณะเชิงสัมพัทธ์ครับ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพราะปัจเจกชนย่อมมีความคิดเห็น คุณค่า พื้นฐาน ความสนใจแตกต่างกันไป

ถ้าอ่านแล้วไม่ get ก็หาไม่เจอ ดังนั้นจึงเกิดการคัดสรรตามธรรมชาติ ผู้อ่านเลือกบล๊อก บล๊อกเกอร์เลือกผู้อ่าน -- แต่การคัดสรรแบบนี้ กันแมลงวันไม่ได้นะครับ ถ้าจะกันแมลงวัน ต้องใช้ฝาชี

สำหรับครูวุฒิชัย เดี๋ยวจะเสกเครื่องมือทำแผลพร้อมพลาสเตอร์กับคำขอโทษที่ทำบาดไปให้ครับ

 
P
คิด(ไม่)ถึงครับ เด็กหรั่งกินกล้วย เต็มแก้มเลยนะครับ อิๆๆๆ

ขอบคุณมากๆ ครับ ที่นำภาพมาให้ดูหน้าชัดๆ ครับ ตาโตและคิดในใจว่า (ผมกินไม่ทันกั๊บ) อิๆๆ

รายงานความคืบหน้าครับ

เป็นอะไรที่ "คิดไม่ถึง" เลยค่ะว่าจะได้มาอ่านblogนี้

แต่ก็ยัง "เข้าไม่ถึง" ในบางอย่าง

รู้สึกจะละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง

แต่ก็คิดว่าจะ "คิดถึง" blogนี้เสมอค่ะ 

ขอบคุณหมออิืนที่รับบล็อกเข้าแพลนเน็ตไปครับ 

ความละเอียดอ่อนและลึกซึ้งมีอยู่ทั่วไปเป็นปกติในธรรมชาติ แต่ด้วยความรีบเร่งของชีวิตปัจจุบัน: 

  • บางทีเราเพียงแต่รับรู้ แล้วนึกไปว่าเข้าใจ เหมือนดูหนังสือสอบเพื่อให้ตอบข้อสอบได้  สอบผ่านแล้วก็จบกัน
  • บางทีเราก็เห็นว่ายังมีอะไรซ่อนอยู่ อีกแต่ไม่สามารถจะเข้าถึง แล้วหาเหตุผลต่างๆ มาสนับสนุนที่จะหยุดอยู่แค่นั้น 
  • บางทีเราก็คาดหวังคำตอบที่ชัดเจน โดยไม่ได้ตระหนักเลยเราไม่ได้ถามคำถามที่ถูกต้อง แถมบางทีกลับคิดไปเองว่ารู้แล้วโดยไม่ถามตรวจสอบความเข้าใจด้วยซ้ำไปครับ
  • ถ้าเพียงแต่เปลี่ยนจากรับรู้ มาเป็นสัมผัส เปิดใจ-ใช้เวลากับมันมากขึ้นสักนิด เปลี่ยนเป็นมุมมองของผู้อื่นบ้าง จะผิดจะถูกก็ไม่เห็นเป็นไร บางทีอาจจะเห็นของเดิมจากมุมมองใหม่ๆ ก็ได้นะครับ
  • "GotoKnow -- คนทำงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้" สโลแกนนี้ มีความหมายอย่างไรครับ

 

แบบว่ามีๆีquizทิ้งท้ายนะคะ อุ อุ ...ปกติจะชอบฟังหรืออ่านความคิดเห็น,

ความรู้สึก(/นึกคิด)ของคนอื่นๆ ค่ะ คิดว่าตนเองประสบการณ์น้อยและความคิดยังไม่ค่อยกว้าง-แตกฉาน

.....ความรู้สึก....นึกคิด ไม่อาจมีผิดถูก แบ่งแยกขาวดำได้ชัดเจน ....

.....มุมมองของผู้อื่น คิดว่าก็ยังคงเป็นมุมมองของผู้อื่น อาจจะเปลี่ยน "เรา" เป็น "เขา"  ไม่ได้  ....แต่ก็ไม่ได้แปลว่าปิดกั้นความคิด

     เพียงสัมผัสและใช้เวลากับมันมากขึ้น มุมมองใหม่ๆ(ที่น่าจะเป็นส่วนผสมระหว่างมุมมองเรากับมุมมองผู้อื่น)ก็ย่อมจะเกิดขึ้น

 

 " GotoKnow - คนทำงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ " สโลแกนนี้ คุณConductor คิดว่ายังไงบ้างล่ะคะ
 

 

ผมคิดว่าอย่างไรคงไม่แปลกหรอกครับ เรื่องสำคัญคงอยู่ที่ว่าผมจะทำอะไร หรือใช้ GotoKnow อย่างไรให้เกิดประโยชน์ได้บ้างมากกว่า ถึงอย่างไร จุดหมายปลายทางไปอยู่ที่การกระทำเพื่อให้สังคมบรรลุเป้าหมายเพื่อประโยชน์สุขร่วมกันไม่ใช่หรือครับ 

  • การที่จะบรรลุจุดมุ่งหมายได้ ก็คงจะต้องมีคนลงมือลงแรงบ้าง ถ้าเราไม่ติดละครแบบที่ยัดเยียดความคิดว่าแล้วทุกอย่างจะดีเอง หรือเชื่อในโมเดล "คนใช้" ซึ่ง "เจ้านาย" ใช้เงินซื้อความสะดวกสบายเอา
  • ชื่อ GotoKnow นั้นเป็นคำย่อ หมายถึงประตูสู่การจัดการความรู้แบบออนไลน์ ทำให้ผู้คนในสังคมไทย สามารถแลกเปลี่ยน และเรียนรู้ได้ ด้วยการเลือกสรรของตนเอง ตามพื้นฐาน ตามเบื้องหลัง ความรู้ความชำนาญ หรือตามประสบการณ์
  • เรามีชุมชนย่อยที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านบล็อก IM อีเมล เจอหน้ากัน กินนอนสนุกด้วยกัน ไปเยี่ยมเยียนกัน มีมุึทิตาจิตต่อกัน ทั้งหมดเป็นการเลือกสรรของแต่ละคนครับ ดังนั้น GotoKnow จึงรองรับอิสระทางความคิด การเลือกสรร และความแตกต่างของผู้คนในสังคมนี้อีกด้วย
  • สมาชิกหลายท่านคงคิดว่าคุณค่าอยู่ที่บันทึก ซึ่งผมเห็นด้วยครึ่งหนึ่งครับ (GotoKnow มีบันทึกที่ดีอยู่มาก ตั้งแต่ระดับลึกล้ำ คม-ชัด-ลึก ไปเรื่องและวิธีผ่อนคลาย ไปจนบันเทิงคดี ไม่มีการบังคับให้ใครอ่านอะไำร และผู้อ่านเลือกอ่านเอาเอง บันทึกวางอยู่เฉยๆ) อีกครึ่งหนึ่งนั้นอยู่ที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใชซึ่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่าน comment ผ่าน IM ผ่านอีเมล หรือโทรคุยกัน ผมคิดว่าตรงนั้นล่ะครับที่เกิดการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้
  • ดังนั้นหากจะใช้ประโยชน์จาก GotoKnow ได้เต็มที่ ก็คงไม่ใช่การอ่านแต่บันทึกเหมือนอ่านหนังสือ how-to 
  • ใน GotoKnow นี้ คำว่า "ต้อง" แปลว่า "ควร"
  • ถ้าจะให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อ่านอย่างเต็มที่ ทุกข้อความไม่ว่าบันทึกหรือความคิดเห็น ควรจะมีประเด็นที่ดีครับ ผมคิดว่าคุณค่าหลักของ GotoKnow อาจอยู่ตรงนั้น; และเมื่อนั้นจะเหนื่อยยาก หรือจะต้องลงทุน ลงแรงอีกเท่าไหร่ ก็คุ้มค่า 
  • ทั้งหมดนี้ ไม่ได้ต้องการ happy ending นะครับ ไม่อยากเห็น ending เลยด้วยซ้ำไป 
ขอบคุณครับ สำหรับความห่วงใย แผลนี้เป็นแผลความคิดครับแค่ได้อ่านบทความที่หลากหลายความคิดแผลก็จะสมานได้เป็นอย่างดีครับ แต่ก็ต้องขอบคุณอีกครั้งสำหรับเครื่องมือทำแผลและพลาสเตอร์ที่ส่งมาให้ครับ ส่วนที่ทำบาดอย่าได้กังวลครับ ชอบครับ(ไม่ใช่ชอบความรุนแรงนะครับ) แต่ชอบเพราะยิ่งบาดก็ยิ่งรวยครับ ฮาๆๆ(รวยทั้งคำคมและความคิดคมครับ)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท