กร่อนคำ..ถอดความ จากหนังสือ "กัมพูชากับสงครามล้างเผ่าพันธุ์ฯ" ... ( 3 )


บันทึกที่ 3 นี้ต่อจากบันทึก กร่อนคำ..ถอดความ จากหนังสือ "กัมพูชากับสงครามล้างเผ่าพันธุ์ฯ" ... ( 1 )  และ กร่อนคำ..ถอดความ จากหนังสือ "กัมพูชากับสงครามล้างเผ่าพันธุ์ฯ" ... ( 2 )  เล่าถึง นายพลลอนนอล ปฎิวัติยึดอำนาจจากสมเด็จนโรดม สีหนุได้

ผมลองกร่อนคำ...ถอดความต่อครับ

 

 

๓. 

 

ฝึกการรบแบบกองโจรในประเทศไทย และหาแนวร่วม

 

ในช่วงปี พ.ศ.2513 - 2516 พลเอกลอน นอล ได้ขอร้องให้สหรัฐอเมริกาช่วยฝึกสอนการรบนอกแบบทำสงครามกองโจร "Gurrilla Warfare" ให้แก่หน่วยรบพิเศษกัมพูชา ในการนี้ประเทศไทยได้อนุญาตให้กองรบพิเศษของสหรัฐอเมริกาที่ 42 มาตั้งอยู่ ณ ศูนย์สงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี บก.ฝึก 315 เป็นผู้อำนวยการฝึก

การฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกที่จะส่งกำลังไปปราบปรามเวียดกง และทหารฝ่ายสมเด็จนโรดม สีหนุที่ร่วมกับเขมรแดง

เขมรแดงได้ปลุกระดมประชาชน โดยมีนายเขียว สัมพันเป็นผู้นำ (ออกหน้า) โดยอ้างพระนามสมเด็จนโรดม สีหนุ โดยประชาชนที่ยังนิยมพระองค์อยู่ จะง่ายต่อการปลุกระดม

อันที่จริง สมเด็จนโรดม สีหนุ ถูกเขมรแดงหลอกพระองค์ เขมรแดงมิได้นิยมสมเด็จนโรดม สีหนุ แต่นำพระนามพระองค์มาเพื่อบังหน้าเท่านั้น

สมเด็จนโรดม สีหนุ ก็อาจจะทรงทราบ แต่จำเป็นต้องเข้าร่วม เพราะศัตรูคนเดียวกัน

ในโอกาสนี้ เขมรแดงได้ใช้ศัพท์เพื่อปฏิบัติงานเพื่อการนี้ว่า "อ็องการ์เลอ" คือ องค์การเบื้องบน

พระองค์ได้ลักลอบเสด็จเข้าจังหวัดเสียมราฐ เพื่อพบปะผู้นำเขมรแดง คือ นายเขียว สัมพัน และนายพลพล (โปล ปต)

สหรัฐอเมริกายังดำเนินการทิ้งระเบิดชายแดนเขมรเพื่อปราบปรามเวียดกงอย่างไม่หยุดยั้ง ตั้งแต่นั้นมาถึง พ.ศ.2514 สหรัฐอเมริกามีการทิ้งระเบิดชายแดนเขมรไปแล้วมีน้ำหนักถึง 129 ล้านตัน

เขมรแดงได้ก่อตั้งฐานที่มั่น กองทัพประชาชน กองทัพป่าขึ้นทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะที่จังหวัดเสียมราฐ จังหวัดตาแกว

 

อนึ่งกลยุทธ์ในการให้การอบรมแก่พลพรรคเขมรแดง เรียกว่า "สหายหรือมิตร" ใหม่นั้น กระทำโดยการปลุกระดมให้เลื่อมใสในลัทธิมาร์ค-เลนิน ล้างสมองให้เกลียชังคนเมือง หรือนายทุน ต้องการสร้างสังคมใหม่ในกัมพูชา โดยการปฎิวัติฆ่าสังหารคนเมือง นายทุนทั้งหมด และให้เกลียดชังวัฒนธรรมเก่าแก่ ศาสนาคือยาเสพติด และถือว่าผู้คนเกิดมาเสมอภาคกันหมด ไม่มีใครมีบุญคุณต่อใคร แม้ต่อพ่อแม่ของตน

ดังนั้น เขมรแดงจึงให้เรียกพ่อแม่ของตนว่า "มิตรโอว มิตรแม" (เพื่อนพ่อเพื่อนแม่) ฝึกให้เด็กหนุ่มหรือเด็กวัยรุ่นให้จิตใจโหดเหี้ยม ไม่มีสัมมาคารวะ โดยการให้คนแก่ ๆ เรียงแถว แล้วให้เด็กเหล่านั้นเอาไม้เคาะหัวเล่น เพื่อปลูกฝังความอำมหิตในอันที่จะดำเนินขั้นต่อไป

 

 

กองทัพเขมรแดงยึดกรุงพนมเปญ

 

การตั้งกองทัพป่า กองทัพประชาชนของเขมรแดงที่จัดตั้งในจังหวัดสำคัญพร้อม ก็ออกจากป่า โดยเคลื่อนทัพมุ่งหน้าสู่กรุงพนมเปญ เข้ายึดจังหวัดต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ เช่น จากเส้นทางหมายเลข 6 คือ เสียมราฐ-กำปงธรม และกรุงพนมเปญ และทางหลวงหมายเลข 5 พระตะบอง-โพธิสัต-กรุงพนมเปญ ฯลฯ

 

 

อพยพเจ้าหน้าที่สถานฑูตสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ประเทศไทย

 

ในปลายปี พ.ศ.2517 เจ้าหน้าที่สถานฑูตสหรัฐอเมริกาในกรุงพนมเปญ ได้ทยอยเข้าประเทศไทย โดยเครื่องบินทางราชการทหารไปลงที่สนามบินอู่ตะเภา และพักที่ค่ายแสมสาร

2 มกราคม พ.ศ.2518 กองทัพเขมรแดงปิดล้อมกรุงพนมเปญ และยิงปืนใหญ่เข้ากรุงพนมเปญ ครั้งแรกในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2518 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สถานฑูตสหรัฐอเมริกาในกรุงพนมเปญที่เหลืออยู่ ต้องหลบหนีออกจากกรุงพนมเปญ โดยใช้เฮลิปคอปเตอร์ทางการทหารไปลงสนามบินอู่ตะเภา เหมือนชุดแรก

สนามบินโพธิเจนตุง ไม่มีเครื่องบินขึ้นลงอีกแล้ว เพราะเขมรแดงได้ประกาศจะถล่มเครื่องบินทุกลำที่ขึ้นลงสนามบินโพธิเจนตุง

ในเวลาเดียวกัน พลเอกลอน นอล พร้อมคณะบางคนได้หนีออกจากประเทศไปประเทศอินโดนีเซีย บางคนหนีเข้ามาในประเทศไทย

  

......................................................................................................................................

 

ความคิดเห็นส่วนตัว... 

 

เขมรถูกแบ่งเป็นหลายฝ่าย เท่าที่เราเห็นในบันทึกนี้ คือ สมเด็จนโรดม สีหนุ จับข้างกับเขมรแดง เพื่อโจมตีนายพลลอน นอล ที่พนมเปญ

ซึ่งเขมรแดงแค่ใช้ชื่อสมเด็จนโรดม สีหนุ ปลุกระดมประชาชนมาเข้าข้างตัวเอง

แถมการสั่งสอนอบรมเด็กวัยรุ่นฝ่ายเขมรแดง เป็นบ่อเกิดของความโหดเหี้ยมและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเวลาต่อมา

 

โปรดติดตามในบันทึกต่อไปนะครับ

ขอบคุณครับ :)

 

...................................................................................................................................

 

บันทึกที่เกี่ยวข้อง

  

 

 

แหล่งอ้างอิง

ปะแดง มหาบุญเรือง คัชมาย์.  บันทึกความทรงจำ กัมพูชากับสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และศูนย์อพยพในประเทศไทย.  สุรินทร์: โรงพิมพ์รุ่งธนเกียรติออฟเซ็ท, 2543.

 

หมายเลขบันทึก: 259949เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2009 13:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • ธุ อาจารย์วสวัตดีมารค่ะ..

ต้อมไม่เคยอ่านหนังสือเล่มที่อาจารย์หยิบมาพูดถึงนี้เลย   แต่..ทั้งหมดนี้ทำให้ต้อมนึกถึงหนังเรื่องหนึ่งที่เคยไปดูกับพ่อ   นัยว่าเป็นสงครามล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรนี่ล่ะค่ะ     จำได้ติดตา..(แต่ลืมชื่อเรื่อง)    ร้องไห้เกือบตลอดทั้งเรื่อง    รันทด..เหลือเกิน    ที่ต้อมไม่เคยจะลืมเลยก็ฉากที่ตัวเอกหนีตาย (ก็หนีตายเกือบทั้งเรื่อง)    กรีดกินเลือดวัวแก้กระหาย    ภาพที่ทหารเขมรก็เป็นแค่เด็กชายตัวน้อยฆ่าตัดคอศัตรู   และ..มากมาย   T_T

หนัง เรื่อง The Killing Field ครับ หนูต้อม เนปาลี ... เรื่องนี้พระเอกของเรื่องได้รางวัลออสการ์หลายรางวัล รวมถึงรางวัลนักแสดงนำฝ่ายชายด้วยครับ

นั่นเป็นภาพสะท้อนเหตุการณ์จริงที่คนเขมรฆ่าคนเขมรด้วยกันได้อย่างไม่ไยดี

ศึกษาไว้อย่าให้เกิดขึ้นประเทศของเรา

ยังมีตอนต่อไปอีกครับ สำหรับบันทึกนี้

ขอบคุณมากครับ

  • อาจารย์วสวัตดีมาร..

พระเอกของเรื่องที่ตายไปเมื่อไม่กี่ปีนี้ใช่ไหมคะ?   ที่เป็นข่าวดัง..

และขอบพระคุณอาจารย์มากเลยสำหรับชื่อหนัง The Killing Field

หนูต้อม เนปาลี ... พระเอกของเรื่องเขาตายแล้วหรือครับ โอ้ ... ผมตกข่าวเหมือนเดิม ขอบคุณมากครับสำหรับข่าวสารนี้

พระเอก ชื่อ ดร.เฮียง เอส. งอร์ 

ข้อมูลจากหนัง ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3_(%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C)

:)

ขอเติม s ที่ชื่อหนังครับ The Killing Fields :)

เป็นเรื่องราวที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับชาติพันธ์มนุษย์เลย น่าสลดใจยิ่งนัก

ขอบคุณครับ คุณ rattanajan ที่ได้มาเยี่ยมเยือนบันทึกนี้ ;)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท